Soil is the earth’s fragile skin th

Soil is the earth’s fragile skin that anchors all life on Earth. It is comprised of countless species and microorganisms that create a dynamic and complex ecosystem and is among the most precious resources to humans. But half of the topsoil on the planet has been lost in the last 150 years. Many factors are echoing to portend soil erosion, the problem that has wide range of effects that are surprising to us. Soil erosion can be caused naturally or by wind and water. But human activity is a true cause of erosion and it has surpassed its natural counterpart. The quick population growth increases higher demand to turn forest to farmland, field and pasture in order to produce enough foods. The transition to agriculture from natural vegetation requires cutting down a lot of trees. Furthermore, the repeated planting method, burning field, and chemical using performed by farmers can lead to the losing of soil structure and soil nutrient degradation. These are only some of the many other causes of soil erosion. The problem is common worldwide and it can cost more than what we ever think about. The effects of soil erosion go beyond the loss of fertile land. It has led to increased pollution and sedimentation in streams and rivers, clogging these waterways and causing declines in fish and other species. And degraded lands are also often less able to hold onto water, which can worsen flooding. Sustainable land use can help to reduce the impacts of agriculture and livestock, preventing soil degradation and erosion and the loss of valuable land to desertification. The health of soil is a primary concern as our food supplies are rooted into it. Change need to be implemented in order to make our agricultural activities become more soil health friendly. Adapted from: http://www.worldwildlife.org/threats/soil-erosion-and-degradation

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินเป็นผิวที่บอบบางของโลกที่เบรกทุกชีวิตบนโลก จะประกอบด้วยสายพันธุ์นับไม่ถ้วนและเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดระบบนิเวศแบบไดนามิกและซับซ้อนและเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีค่าที่สุดให้กับมนุษย์ แต่ครึ่งหนึ่งของดินบนโลกที่ได้รับการสูญเสียในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลายอย่างที่มีการสะท้อนความหมายที่จะพังทลายของดินปัญหาที่มีความหลากหลายของผลกระทบที่น่าแปลกใจกับเรา พังทลายของดินสามารถเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือโดยลมและน้ำ แต่กิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุที่แท้จริงของการกัดเซาะและได้แซงคู่ตามธรรมชาติของมัน การเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วเพิ่มความต้องการที่สูงขึ้นเพื่อเปิดป่าเกษตรภาคสนามและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหารเพียงพอ การเปลี่ยนแปลงเพื่อการเกษตรจากพืชพรรณธรรมชาติต้องตัดลงจำนวนมากของต้นไม้ นอกจากนี้วิธีการปลูกซ้ำข้อมูลการเผาไหม้และสารเคมีที่ใช้ดำเนินการโดยเกษตรกรสามารถนำไปสู่​​การสูญเสียของโครงสร้างของดินและดินการย่อยสลายสารอาหาร เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของสาเหตุอื่น ๆ ของการพังทลายของดิน ปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาทั่วโลกและมันจะเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าสิ่งที่เราเคยคิดเกี่ยวกับ ผลกระทบของการพังทลายของดินไปไกลเกินกว่าการสูญเสียดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ มันได้นำไปสู่​​มลพิษที่เพิ่มขึ้นและการตกตะกอนในลำธารและแม่น้ำอุดตันทางน้ำเหล่านี้และก่อให้เกิดการลดลงของปลาและสายพันธุ์อื่น ๆ และที่ดินเสื่อมโทรมนอกจากนี้ยังมักจะไม่สามารถที่จะถือเข้าน้ำซึ่งสามารถเลวลงน้ำท่วม การใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนสามารถช่วยในการลดผลกระทบต่อการเกษตรและปศุสัตว์, การป้องกันการย่อยสลายและการพังทลายของดินและการสูญเสียที่ดินที่มีคุณค่าต่อความแห้งแล้ง สุขภาพของดินที่เป็นความกังวลหลักเป็นเสบียงอาหารของเราจะหยั่งรากลึกลงไปในนั้น เปลี่ยนจะต้องมีการดำเนินการในการที่จะทำให้กิจกรรมทางการเกษตรของเรากลายเป็นสุขภาพของดินเป็นมิตรมากขึ้น ดัดแปลงมาจาก: http://www.worldwildlife.org/threats/soil-erosion-and-degradation

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินของโลกที่เปราะบาง ผิวที่เบรกทุกชีวิตบนโลก มันประกอบด้วยนับไม่ถ้วนชนิด และจุลินทรีย์ที่สร้างแบบไดนามิกและซับซ้อนของระบบนิเวศและทรัพยากรล้ำค่าที่สุดของมนุษย์ แต่ครึ่งหนึ่งของดินบนโลกได้หายไปในช่วง 150 ปี ปัจจัยหลายอย่างสะท้อนจะเป็นลางดินถล่มปัญหาที่หลากหลายของผลที่น่าแปลกใจให้กับเรา การชะล้างพังทลายของดิน สามารถเกิดโดยธรรมชาติหรือโดยลมและน้ำ แต่กิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุที่แท้จริงของการกัดเซาะและมันก็เหนือกว่า คู่ของธรรมชาติ การเติบโตของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความต้องการสูงกว่าการเปิดป่าเพื่อการเกษตร , สนามและอาหารเพื่อผลิตอาหารเพียงพอการเปลี่ยนการเกษตรจากพืชพรรณธรรมชาติ ต้องตัดต้นไม้กันมาก . นอกจากนี้ ซ้ำ วิธีการปลูก , ข้อมูลการเผาไหม้ และการใช้สารเคมี โดยเกษตรกรสามารถนำไปสู่การสูญเสียโครงสร้างของดิน และย่อยสลายธาตุอาหารในดิน เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของอื่น ๆ หลายสาเหตุของการกัดเซาะดินปัญหาทั่วโลกร่วมกันและมันสามารถค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เราเคยคิด ผลกระทบของการชะล้างพังทลายของดิน นอกเหนือไปจากการสูญเสียผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ มันได้ก่อให้เกิดการเพิ่มมลพิษและการตกตะกอนในลำธารและแม่น้ำและแหล่งน้ำเหล่านี้ก่อให้เกิดการอุดตันลดลงในปลาและชนิดอื่น ๆ และเสื่อมโทรมที่ดินมักจะได้น้อยกว่าที่จะเก็บลงในน้ำ ซึ่งสามารถจะน้ำท่วมการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน สามารถช่วยลดผลกระทบของการเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อป้องกันการย่อยสลายและการกัดเซาะดินและการสูญเสียคุณค่าที่ดินทะเลทราย . สุขภาพของดินเป็นกังวลหลักเป็นเสบียงของเราจะหยั่งรากลงไป การเปลี่ยนแปลงต้องใช้ในการทำกิจกรรมทางการเกษตรของเรากลายเป็นดินสุขภาพที่เป็นมิตร ดัดแปลงจาก : http : / / www .worldwildlife.org/threats/soil-erosion-and-degradation