แผลกดทับหรือความดันแผล เป็นแผลที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ผิวหนัง และเนื้อเยื่อที่เกิดจากการที่ผิวอยู่ภายใต้ความกดดันเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณผิวที่ปกคลุมกระดูกของร่างกาย เช่น สะโพก ส้นเท้า ข้อเท้า กระดูกก้นกบ เป็นต้น การดูแลและรักษาแผลกดทับเป็นสิ่งที่สำคัญมากเนื่องจากต้องเฝ้าระวังเรื่องความสะอาดของแผลและการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้แผลมีความรุนแรงมากขึ้น
บริเวณที่พบบ่อยของแผลกดทับในผู้ป่วยที่ใช้รถเข็น
– ก้นกบ หรือแก้มก้น
– หัวไหล่และกระดูกสันหลัง
– ด้านหลังของแขน และขาที่มีการพักบนเก้าอีก
บริเวณที่พบบ่อยของแผลกดทับในผู้ป่วยที่ติดเตียง
– ด้านหลังหรือด้านข้างของศีรษะ
-ขอบหูหรือใบหู
– สะโพกแผ่นหลังด้านล่าง หรือก้นกบ
– ส้นเท้า ข้อเท้า ผิวบริเวณข้อพับด้านหลังหัวเข่า
สาเหตุของการเกิดแผลกดทับ
– ผิวมีการกดทับอย่างต่อเนื่อง เมื่อผิวที่ห่อหุ้มกระดูกอยู่ติดกับพื้นผิวอื่น เช่น รถเข็น เตียง ความดันในการไหลเวียนของ
เส้นเลือดฝอยที่ทำหน้าที่ส่งอ็อกซิเจน และสารอาหารอื่นๆไปยังเนื้อเยื่อ หากเส้นเลือดฝอยไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก
จะทำให้เซลล์ผิว และเนื้อเยื่อได้รับความเสียหาย หรือเกิดเนื้อตายได้ในที่สุด
– แรงเสียดทาน คือแรงเสียดทานความต้านทานต่อการเคลื่อนไหวอาจเกิดขึ้นเมื่อผิวลากไปบนพื้นผิวอื่น เช่น เมื่อมีการเปลี่ยน
ตำแหน่ง หรือผู้ดูแลทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หากผิวมีความชื้นจะทำให้แรงเสียดทานจากการเคลื่อนย้ายมีมากขึ้น อาจทำให้ผิวที่มี
ความบอบบางเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดบาดแผลได้
– แรงเฉือนหรือแรงตัด จะเกิดขึ้นเมื่อสองพื้นผิวไปในทิศทางตรงข้ามกัน เช่น เมื่อเตียงในโรงพยาบาลมีการยกระดับสูงขึ้นศีรษะ
จะเลื่อนลงไปในเตียง ทำให้กระดูกก้นกบเลื่อนลงมากดทับผิว การเคลื่อนไหวนี้อาจทำร้ายเนื้อเยื่อ และหลอดเลือด ซึ่งเสี่ยงที่จะ
เกิดความเสียหายจากความดันอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ
– บุคคลทั่วไปที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอ หรือสุขภาพไม่ดี
– ผู้ป่วยอัมพาต
– การได้รับบาดเจ็บหรือผู้ป่วยที่ต้องนอนพักผ่อนหรือการใช้รถเข็นเป็นเวลานาน
– ผู้ป่วยพักฟื้นหลังการผ่าตัด
– ผู้ป่วยที่มีอาการโคม่า
– ผู้สูงอายุ เพราะผิวของผู้สูงอายุโดยทั่วไปจะมีความยืดยุ่นน้อยลง และผิวแห้งกว่าวัยอื่นๆ นอกจากนี้ผู้สูงอายุจะมีการผลิตเซลล์
ใหม่ช้า ทำให้ผิวของผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลกดทับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ลุก ยืน เดินลำบาก
– ผู้ป่วยที่ขาดการรับรู้ทางประสาทสัมผัส
ทีมแพทย์ในการดูแล และรักษาแผลกดทับ จะต้องใช้หลากหลายสาขาวิชาชีพเข้ามาเป็นทีม ซึ่งสมาชิกของทีม
การดูแลและรักษาแผลกดทับ ได้แก่
– แพทย์ดูแลหลักที่ดูแลการวางแผนการการดูแล และรักษาแผลกดทับ
– แพทย์ที่เชี่ยวชาญในการดูแลแผล
– พยาบาลหรือผู้ช่วยแพทย์ที่ให้ทั้งการดูแลและการศึกษาสำหรับการจัดการแผลกดทับ
– นักการภาพบำบัด
– นักโภชนาการที่จะตรวจสอบความต้องการทางโภชนาการ และแนะนำการรับประทานอาหารที่เหมาะสม
– ศัลยแพทย์ผ่าตัดกระดูก หรือศัลยแพทย์ตกแต่ง ขึ้นอยู่กับการผ่าตัดแต่ละชนิด
การดูแล และรักษาแผลกดทับ
การลดการกดทับหรือความดันแผล
1. หากมีแผลกดทับ หรือผิวที่กำลังจะเป็นแผลกดทับที่เป็นแผลเปิด จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ และอยู่ในตำแหน่ง
ที่ถูกต้อง
2. หากใช้รถเข็นให้ลองขยับ หรือผลัดเปลี่ยนการลงน้ำหนักตัวทุก 15 นาที หรือมากกว่านั้น และมีการใช้เบาะรอง
3. ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดตำแหน่ง หรือท่าทางทุกชั่วโมง
4. หากต้องนอนบนเตียงนานๆ ควรเลือกใช้เตียงนอน และหมอนอิงพิเศษในการดูแลรักษาแผลกดทับ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยอยู่ใน
ตำแหน่งและระดับที่เหมาะสม ลดการกดทับของแผลและช่วยปกป้องผิวที่มีช่องโหว่
5. หากมีความแข็งแรงของร่างกายส่วนบนพอ ให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งโดยการใช้อุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น บาร์ห้อยโหน ผู้ที่
ให้การดูแลสามารถใช้ผ้าปูเตียงที่จะช่วยยก และปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้ป่วยได้
ทำความสะอาดบาดแผล เป็นสิ่งจำเป็นในการดูแล และรักษาแผลกดทับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากผิวไม่มีการแตกให้ล้างเบาๆ
ด้วยน้ำ และสบู่อ่อนๆ ซับเบาๆให้แห้ง ทำความสะอาดแผลเปิดด้วยน้ำเกลือ
การกำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหาย บาดแผลจะต้องไม่มีเนื้อเยื่อที่ตายหรือติดเชื้อ โดยการตัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว ขึ้นอยู่กับความรุนแรง
ของแผลและสภาพโดยรวมของแผล