Background: Impulse noise produced

Background: Impulse noise produced from firearms can potentially damage hearing organs resulting in sensorineural hearing loss (SNHL). In Chiang Mai during 1997, Detphithak et al reported a prevalence ofacute acoustic trauma (AAT) in 22% of new military privates using an H.K.33 for shooting practice without hearing protection. The H.K.33 renders an average sound pressure level of 128 dBA. Earmuffs are claimed by their manufacturing company to attenuate noise 27 dB, and they have been recently introduced in Chiang Mai to prevent AAT. Objective: To study the outcomes of hearing protection against AAT using earmuffs during shooting training
(H.K.33) in the Military Reserve Officer Training Corps (MROTC).Material and Method: A quasi – experiment study was conducted among 267 normal hearing MROTCs in the Reserve Officers Student Training Center (ROSTC) of the 33rd Military Circle, Chiang Mai, Thailand. Their
condition of hearing was examined by an otolaryngologist and an audiologist using pure tone audiometry (PTA) before shooting practice, within 2 hours after the practice, 3 days after the practice at the ROSTC; and 1 month later at Fort Kawila Hospital, Chiang Mai, Thailand.
Results: All 267 MROTCs used earmuffs during shooting practice. Their mean age was 17.95 years. Average sound pressure level of an H.K.33 was 127 dBA (range; 126.5-130 dBA). AAT was found in 4 persons (1.5%) within two hours after shooting. Repeat testing 3 days later revealed that only one person (0.37%) still had SNHL. Fortunately, this case reached complete recovery within 1 month. When comparing these findings with those of 1997, earmuffs can reduce AAT by 15 times (95% confidence interval 5.3-40.5, p-value < 0.0001) to a negligible level.Conclusion: Shooting training with an H.K. 33 produces a dangerous sound pressure level at the shooting
site, resulting in a possible high risk of acute acoustic trauma. Earmuffs can effectively reduce this risk by approximately 15 times, and they should be widely used in all shooting training.Keywords: Acute acoustic trauma (AAT), Sensorineural hearing loss (SNHL), Earmuffs, Military training

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: กระแสเสียงผลิตจาก firearms สามารถเป็นอันตรายต่ออวัยวะการได้ยินเกิดสูญเสียการได้ยิน sensorineural (SNHL) เชียงใหม่ในช่วงปี 1997, Detphithak et al รายงานความชุก ofacute อะคูสติกบาดเจ็บ (AAT) 22% ของโจรทหารใหม่ที่ใช้ H.K.33 การถ่ายภาพฝึก โดยไม่มีการป้องกันการได้ยิน H.K.33 การทำระดับความดันเสียงเฉลี่ยรวม 128 อ้างว่า earmuffs 27 dB โดยบริษัทผู้ผลิตจะ attenuate เสียง และพวกเขาได้รับเมื่อเร็ว ๆ นี้แนะนำในเชียงใหม่ให้ AAT วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลการฟังป้องกัน AAT ใช้ earmuffs ฝึกยิงปืน(H.K.33) ในหน่วยฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ทหารสำรอง (MROTC) วัสดุและวิธีการ: เกือบ – ทดลองศึกษาได้ดำเนินการระหว่าง 267 MROTCs ปกติได้ยินในการจองเจ้าหน้าที่นักศึกษาฝึกอบรมศูนย์ (ROSTC) 33 ทหารวงกลม เชียงใหม่ ไทย ของพวกเขาเงื่อนไขของการได้ยินถูกตรวจสอบ โดยการ otolaryngologist และ audiologist การใช้โทนสีบริสุทธิ์ audiometry (PTA) ก่อนยิงฝึก ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากการฝึก หลังการฝึกใน ROSTC; 3 วัน และ 1 เดือนต่อมาโรงพยาบาลพลเมืองป้อม เชียงใหม่ ไทยผลลัพธ์: ทั้งหมด 267 MROTCs ใช้ earmuffs ระหว่างฝึกยิงปืน อายุเฉลี่ยของพวกเขาถูกปี 17.95 ระดับความดันเสียงเฉลี่ยของ H.K.33 ถูกรวม 127 (ช่วง dBA 126.5-130) AAT พบใน 4 ท่าน (1.5%) ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากการยิง ทำซ้ำการทดสอบ 3 วันต่อมาเปิดเผยบุคคลที่เดียว (0.37%) ยังมี SNHL โชคดี กรณีนี้ถึงการกู้คืนเสร็จสมบูรณ์ภายใน 1 เดือน เมื่อเปรียบเทียบผลการวิจัยเหล่านี้กับ 1997, earmuffs สามารถลด AAT โดย 15 เท่า (95% ช่วงความเชื่อมั่น 5.3-40.5, p ค่า < มาก 0.0001) ระดับระยะได้ สรุป: ยิงกับ 33 H.K. การสร้างระดับความดันเสียงอันตรายที่จะเว็บไซต์ ในความเสี่ยงสูงสุดของการบาดเจ็บระดับเฉียบพลัน Earmuffs สามารถมีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงนี้โดยประมาณ 15 เท่า และพวกเขาควรจะใช้ในฝึกยิงทั้งหมด คำสำคัญ: เฉียบพลันระดับบาดเจ็บ (AAT), สูญเสียการได้ยิน Sensorineural (SNHL), Earmuffs ฝึกทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: เสียง Impulse ผลิตจากอาวุธปืนที่อาจจะเกิดความเสียหายอวัยวะได้ยินเกิดการสูญเสียการได้ยิน (SNHL) ในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงปี 1997 Detphithak et al, รายงานความชุก ofacute บาดเจ็บอะคูสติก (AAT) ใน 22% ของไพร่พลทหารใหม่โดยใช้ HK33 สำหรับการปฏิบัติในการถ่ายภาพโดยไม่มีการป้องกันการได้ยิน HK33 ทำให้ระดับความดันเสียงเฉลี่ย 128 dBA จะปิดหูกันหนาวโดยอ้างว่า บริษัท ผู้ผลิตของพวกเขาเพื่อเจือจางเสียง 27 เดซิเบลและพวกเขาเพิ่งได้รับการแนะนำในเชียงใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ AAT วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการป้องกันการได้ยินกับ AAT ใช้ปิดหูกันหนาวระหว่างการฝึกอบรมการถ่ายภาพ
(HK33) ในเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสำรองการฝึกอบรม (MROTC) .Material และวิธีการ: กึ่ง - การศึกษาทดลองดำเนินการในหมู่ 267 MROTCs ได้ยินปกติในผู้นำสำรอง นักศึกษาศูนย์ฝึกอบรม (ROSTC) ของ 33 ทหารบก, เชียงใหม่, ประเทศไทย ของพวกเขา
ในสภาพของการได้ยินได้รับการตรวจสอบโดย otolaryngologist และ audiologist ใช้เสียงบริสุทธิ์ audiometry (PTA) ก่อนที่จะยิงปฏิบัติภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากการซ้อม 3 วันหลังจากการปฏิบัติที่ ROSTC; 1 เดือนต่อมาที่ฟอร์กาวิละโรงพยาบาลเชียงใหม่.
ผลการศึกษา: ทั้งหมด 267 MROTCs ปิดหูกันหนาวที่ใช้ในระหว่างการปฏิบัติถ่ายภาพ อายุเฉลี่ยของพวกเขาคือ 17.95 ปี ระดับความดันเสียงเฉลี่ยของ HK33 เป็น 127 dBA (ช่วง; 126.5-130 dBA) AAT พบใน 4 คน (1.5%) ภายในสองชั่วโมงหลังการถ่ายภาพ การทดสอบซ้ำ 3 วันต่อมาพบว่ามีเพียงหนึ่งคน (0.37%) ยังคงมี SNHL โชคดีที่กรณีนี้ถึงการกู้คืนเสร็จภายใน 1 เดือน เมื่อเปรียบเทียบผลการวิจัยเหล่านี้กับบรรดาของปี 1997 ปิดหูกันหนาวสามารถลด AAT โดย 15 ครั้ง (95% confidence interval 5.3-40.5, p-value <0.0001) เพื่อ level.Conclusion เล็กน้อย: การฝึกอบรมยิงปืนกับ HK 33 ผลิตระดับความดังของเสียงที่เป็นอันตราย ในการถ่ายภาพ
สถานที่ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่เป็นไปได้ของการบาดเจ็บเฉียบพลันอะคูสติก ปิดหูกันหนาวได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดความเสี่ยงนี้โดยประมาณ 15 ครั้งและพวกเขาควรจะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายใน training.Keywords ยิงทั้งหมด: บาดเจ็บเฉียบพลันอะคูสติก (AAT) ประสาทหูเสื่อม (SNHL) Earmuffs การฝึกอบรมทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เสียงพื้นหลัง : แรงกระตุ้นที่เกิดจากอาวุธปืนสามารถสร้างความเสียหายอวัยวะการได้ยินส่งผลให้สูญเสียการได้ยิน sensorineural ( snhl ) ในจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างปี 1997 detphithak et al รายงานความชุก ofacute อะคูสติกแผลเก่า ( AAT ) ใน 22 % ของพลฯทหารใหม่ใช้ h.k.33 ซ้อมยิงปืนโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน การ h.k.33 ทำให้ค่าเฉลี่ยระดับความดันเสียงของ 128 DBA .ที่ปิดหูกันหนาว จะ อ้าง โดย บริษัท ผลิตเพื่อลดเสียง 27 dB และพวกเขาได้รับเมื่อเร็ว ๆนี้เปิดตัวในเชียงใหม่เพื่อป้องกัน AAT . วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาผลของการใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยินกับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่ปิดหูกันหนาวในระหว่างการฝึกยิง
( h.k.33 ) เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมกองกำลังสำรองทหาร ( mrotc ) วัสดุและวิธีการ :เป็นการวิจัยกึ่งทดลองเพื่อศึกษาระหว่าง 267 ปกติได้ยิน mrotcs ในนักเรียนชั้นประถมศึกษา ศูนย์ฝึกอบรม ( rostc ) ของทหาร 33 วงกลม , เชียงใหม่ , ประเทศไทย สภาพของพวกเขา
ฟังถูกตรวจสอบโดยเป็น otolaryngologist audiologist และการตรวจการได้ยินเสียงบริสุทธิ์ ( PTA ) ก่อนที่จะฝึกยิง ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากซ้อม 3 วันหลังจากฝึกซ้อมที่ rostc ;1 เดือนต่อมา ณโรงพยาบาลค่ายกาวิละเชียงใหม่
ผลลัพธ์ : ทั้งหมด 267 mrotcs ใช้ปิดหูไว้ในระหว่างการฝึกยิง อายุเฉลี่ยของพวกเขาคือ 17.95 ปี ระดับความดันเสียงของ h.k.33 คือเฉลี่ย 127 เดซิเบล ( ช่วง ; 126.5-130 dBA ) AAT พบใน 4 คน ( ร้อยละ 1.5 ) ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากยิง ทำซ้ำการทดสอบ 3 วันต่อมาพบว่ามีคนคนหนึ่ง ( 0.37 % ) ยังคงมี snhl .โชคดีที่กรณีนี้ถึงหายภายใน 1 เดือน เมื่อเปรียบเทียบผลการศึกษากับผู้ที่ 1997 , ที่ปิดหูกันหนาวสามารถลด AAT 15 เท่า ( 95% ช่วงความเชื่อมั่น 5.3-40.5 , p-value < 0.0001 ) ในระดับเล็กน้อย สรุป : การฝึกยิงกับ HK 33 ก่อให้เกิดอันตราย ระดับความดันเสียงที่ถ่าย
ส่งผลให้ความเสี่ยงสูงที่สุดของแหลม ไม่มีอุบัติเหตุที่ปิดหูกันหนาวได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดความเสี่ยงนี้โดยประมาณ 15 ครั้ง และพวกเขาควรจะใช้ในการฝึกยิง . คำสำคัญ : การบาดเจ็บเฉียบพลันอะคูสติก ( AAT ) , สูญเสียการได้ยิน sensorineural ( snhl ) ที่ปิดหูกันหนาว , ฝึกทหาร ,