Government spending can be classifi

Government spending can be classified into two types: 1) current expenditure (i.e. wage
and salary, goods and services expenditure, interest payments and subsidies, and current transfers),
and 2) capital expenditure (i.e. acquisition of fixed capital assets, capital transfers, and loan). The
data from the Bank of Thailand show that during 1995-2004 the average proportion of national
actual expenditure on the national product was 16.91% per quarter. The current expenditure
proportion on total government spending increased from 69.70% in the first quarter of year 1995
to 76.83% in the third quarter of 2004. The government thus had to reduce capital expenditure from
30.30% to 23.17% for the respective time period. An increase of current expenditure can improve
consumers’ purchasing power. This would increase the aggregate demand and thus stimulate
economic growth. On the other hand, capital investments would contribute to technological progress
and raise the level of national production in the long run.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้จ่ายของรัฐบาลสามารถแบ่งได้สองชนิด: 1) รายจ่ายปัจจุบัน (เช่นค่าจ้างและเงินเดือน ค่าใช้จ่ายในสินค้าและบริการ ชำระดอกเบี้ย และเงินอุดหนุน และเงินโอน),และ 2) รายจ่ายฝ่ายทุน (เช่นซื้อสินทรัพย์ของสินทรัพย์ถาวร การโอนเงินทุน และเงินกู้) การข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงว่าในช่วง 1995-2004 สัดส่วนเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายจริงในผลิตภัณฑ์แห่งชาติถูกเหลือ 16.91% ต่อไตรมาส รายจ่ายปัจจุบันสัดส่วนในการใช้จ่ายของรัฐบาลทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 69.70% ในไตรมาสแรกของปี 199576.83% ในไตรมาสสามของปี รัฐบาลจึงมีการลดทุนจาก30.30-23.17% ในช่วงเวลานั้น ๆ การเพิ่มขึ้นของรายจ่ายปัจจุบันสามารถปรับปรุงกำลังซื้อของผู้บริโภค นี้จะเพิ่มความต้องการรวม และกระตุ้นดังนั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ บนมืออื่น ๆ ทุนจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและยกระดับการผลิตแห่งชาติในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้จ่ายภาครัฐสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ 1) ค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน (เช่นค่าจ้าง
และเงินเดือนที่ต้องการสินค้าและบริการค่าใช้จ่ายการจ่ายดอกเบี้ยและเงินอุดหนุนและเงินโอนในปัจจุบัน)
และ 2) รายจ่ายลงทุน (เช่นการซื้อสินทรัพย์ทุนถาวรโอนเงินทุน และยืม)
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าในช่วง 1995-2004 สัดส่วนเฉลี่ยของชาติ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในผลิตภัณฑ์แห่งชาติคือ% 16.91 บาทต่อไตรมาส ค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน
สัดส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาลรวมเพิ่มขึ้นจาก 69.70% ในไตรมาสแรกของปี 1995 ปี
เพื่อ 76,83% ในไตรมาสที่สามของปี 2004 รัฐบาลจึงมีการลดการใช้จ่ายเงินทุนจาก
30.30% เป็น 23.17% ในช่วงเวลานั้น การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในปัจจุบันสามารถปรับปรุง
อำนาจซื้อของผู้บริโภค นี้จะเพิ่มความต้องการโดยรวมและทำให้กระตุ้นการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ บนมืออื่น ๆ , การลงทุนจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
และยกระดับของการผลิตของประเทศในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้จ่ายของรัฐบาล สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ 1 ) รายจ่ายปัจจุบัน ( เช่น ค่าจ้างและเงินเดือน สินค้า และบริการ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเงินอุดหนุน และการโอนในปัจจุบัน )และ 2 ) รายจ่ายฝ่ายทุน ( เช่นการซื้อสินทรัพย์ถาวรสินทรัพย์ , การโอน , ทุนและเงินกู้ ) ที่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 1995-2004 สัดส่วนค่าเฉลี่ยของชาติค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในผลิตภัณฑ์แห่งชาติเป็น 16.91 ล้านบาทในไตรมาส ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันสัดส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาลรวมเพิ่มขึ้นจาก 69.70 % ในไตรมาสแรกของปี 2538เพื่อ 76.83 % ในไตรมาสที่สามของปี 2004 รัฐบาลจึงต้องลดรายจ่ายฝ่ายทุนจาก30.30 ร้อยละ 23.17 % สำหรับช่วงเวลานั้นๆ การเพิ่มขึ้นของรายจ่ายปัจจุบันสามารถปรับปรุงอำนาจการซื้อของผู้บริโภค นี้จะเพิ่มอุปสงค์และดังนั้นจึงกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ บนมืออื่น ๆ , การลงทุนทุนจะสนับสนุน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเพิ่มระดับของการผลิตของชาติในระยะยาว