Wechsler-Bellevue Intelligence Scal

Wechsler-Bellevue Intelligence Scale[edit]
The Wechsler-Bellevue tests were innovative in the 1930s because they:

gathered tasks created for nonclinical purposes for administration as a "clinical test battery",[5]
used the point scale concept instead of the age scale, and
included a non-verbal performance scale.[6][7]
The Point Scale Concept[edit]
In the Binet Scales (prior to the 1986 version) items were grouped according to age level. Each of these age levels were composed of a group of tasks that could be passed by two-thirds to three-quarters of the individuals in that level. This meant that items were not arranged according to content. Additionally, an individual taking a Binet test would only receive credit if a certain amount of the tasks were completed. This meant that falling short just one task required for the credit, resulted in no credit at all (for example, if passing three out of four tasks was required to receive credit, then passing two yielded no credit).[4]

The point scale concept significantly changed the way testing was done by assigning credits or points to each item. This had two large effects. First, this allowed items to be grouped according to content. Second, participants were able to receive a set amount of points or credits for each item passed.[8] The result was a test that could be made up of different content areas (or subtests) with both an overall score and a score for each content area. In turn, this allowed for an analysis to be made of an individual's ability in a variety of content areas (as opposed to one general score).[4]

The Non-Verbal Performance Scale[edit]
The non-verbal performance scale was also a critical difference from the Binet scale. Since the "early Binet scale had been persistently and consistently criticized for its emphasis on language and verbal skills," [4] Wechsler made an entire scale that allowed the measurement of nonverbal intelligence. This became known as a performance scale. Essentially, this scale required a subject to do something (such as "copying symbols or point to a missing detail"[4]) rather than just answer questions. This was an important development as it attempted to overcome biases that were caused by "language, culture, and education."[4] Further, this scale also provided an opportunity to observe a different type of behavior because something physical was required. Clinicians were able to observe how a participant reacted to the "longer interval of sustained effort, concentration, and attention" that the performance tasks required.[4]

While the Wechsler-Bellevue scale was the first to effectively use the performance scale (meaning that (1) there was a "possibility of directly comparing an individual's verbal and nonverbal intelligence",[4] and (2) that "the results of both scales were expressed in comparable units"[4]), the idea had been around for a while. The Binet scale did have performance tasks (although they were geared towards children) and there were entire tests that were considered supplements or alternatives (an example of such a performance test is the Leiter International Performance Scale)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระดับสติปัญญา Wechsler Bellevue [แก้]การทดสอบ Wechsler Bellevue มีนวัตกรรมในช่วงทศวรรษ 1930 เนื่องจากพวกเขา:รวบรวมงานสร้าง nonclinical ประสงค์การบริหารเป็น "คลินิกทดสอบแบตเตอรี่", [5]ใช้แนวคิดมาตราส่วนจุดแทนระดับอายุ และรวมขนาดใช่ประสิทธิภาพ [6] [7]แนวคิดมาตราส่วนจุด [แก้]ในตาชั่ง Binet (ก่อนรุ่น 1986) รายการที่ถูกจัดกลุ่มตามระดับอายุ แต่ละระดับอายุเหล่านี้ถูกประกอบด้วยกลุ่มของงานที่อาจส่งผ่าน โดยสองในสามไปสามในสี่ของคนในระดับนั้น นี้หมายความ ว่า สินค้าไม่ได้ถูกเรียงตามเนื้อหา นอกจากนี้ แต่ละการทดสอบ Binet จะได้รับเครดิตถ้าจำนวนของงานที่เสร็จ นี้หมายถึง สายสั้นเพียงหนึ่งงานนั้นจำเป็นสำหรับเครดิต ส่งผลให้ไม่มีเครดิตทั้งหมด (ตัวอย่างเช่น ถ้าผ่าน 3 ใน 4 ของงานต้องได้รับเครดิต แล้วผ่านสองให้ผลไม่มีเครดิต) [4]จุดแนวคิดมาตราส่วนมากเปลี่ยนทดสอบวิธีแก้ไขทำได้โดยกำหนดเครดิตหรือคะแนนแต่ละรายการ ผลขนาดใหญ่ที่สองได้ ครั้งแรก นี้อนุญาตให้สินค้าที่จะจัดกลุ่มตามเนื้อหา ที่สอง ผู้เข้าร่วมก็สามารถที่จะได้รับจำนวนคะแนนหรือเครดิตสำหรับแต่ละสินค้าผ่าน [8] ผลการทดสอบที่สามารถสร้างขึ้นจากพื้นที่เนื้อหาที่แตกต่างกัน (หรือ subtests) เป็นคะแนนรวมและคะแนนสำหรับแต่ละพื้นที่เนื้อหา ที่ได้ ในการเปิด นี้อนุญาตให้สำหรับการวิเคราะห์ที่จะทำความสามารถของบุคคลในหลากหลายพื้นที่เนื้อหา (ไม่ใช่หนึ่งคะแนนทั่วไป) [4]มาตราส่วนประสิทธิภาพการทำงานไม่ใช่คำพูด [แก้]มาตราส่วนคำพูดประสิทธิภาพก็มีความแตกต่างที่สำคัญจากเครื่องชั่ง Binet ตั้งแต่ "ต้น Binet สเกลได้รับเสมอ และสม่ำเสมอวิพากษ์วิจารณ์สำหรับการภาษาและทักษะ [4] Wechsler ทำสเกลมีทั้งที่อนุญาตให้ใช้วัดปัญญากริยา นี้ก็เรียกว่าระดับประสิทธิภาพ หลัก สเกลนี้จำเป็นเรื่องที่จะทำอะไรบางอย่าง (เช่น "คัดลอกสัญลักษณ์ หรือชี้ไป detail"[4]) หายไป มากกว่าแค่ตอบคำถาม นี้เป็นการพัฒนาที่สำคัญเป็นความพยายามที่จะเอาชนะอคติที่เกิดจาก "ภาษา วัฒนธรรม และการศึกษา" [4] ต่อไป สเกลนี้ยังให้บริการโอกาสในการสังเกตประเภทของลักษณะการทำงาน เพราะบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่จริงถูกต้อง แพทย์ได้มีการสังเกตว่า ผู้เข้าร่วมปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นใน "ช่วงยาวของความพยายามอย่าง เข้มข้น และความสนใจ" งานประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องการ [4]ในขณะชั่ง Wechsler Bellevue ครั้งแรกจะใช้มาตราส่วนประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (หมายความ ว่า (1) ก็เป็น "ความเป็นไปได้โดยตรงเปรียบเทียบปัญญาทางวาจา และกริยาของแต่ละบุคคล", [4] และ (2) ว่า "ผลของระดับทั้งสองถูกแสดงใน units"[4]) เทียบ ความคิดได้รับรอบในขณะ เครื่องชั่ง Binet ได้งานประสิทธิภาพการทำงาน (แม้ว่าพวกเขามีเป้าหมายไปสู่เด็ก) และมีการทดสอบทั้งหมดที่มีอาหารเสริมหรือแทนที่ (ตัวอย่างเช่นการทดสอบประสิทธิภาพเป็นมาตราส่วน ประสิทธิภาพการทำงาน นานาชาติ Leiter)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Wechsler-Bellevue ข่าวกรองชั่ง [แก้ไข]
การทดสอบ Wechsler-Bellevue เป็นนวัตกรรมใหม่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพราะพวกเขา:

งานรวมตัวกันสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารงานเป็น "แบตเตอรี่ทดสอบทางคลินิก" [5]
ใช้แนวคิดจุดโยแทนระดับอายุ และ
รวมถึงระดับประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ใช่คำพูด. [6] [7]
จุดชั่งแนวคิด [แก้ไข]
ใน Binet เครื่องชั่ง (ก่อนที่จะ 1986 Version) รายการที่ถูกจัดกลุ่มตามระดับอายุ แต่ละเหล่านี้ระดับอายุประกอบด้วยกลุ่มของงานที่อาจจะผ่านไปได้โดยสองในสามถึงสามในสี่ของบุคคลในระดับที่ นั่นหมายความว่ารายการไม่ได้จัดตามเนื้อหา นอกจากนี้แต่ละการทดสอบ Binet เท่านั้นที่จะได้รับเครดิตถ้าจำนวนหนึ่งของงานที่เสร็จสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าล้มสั้นเพียงหนึ่งงานที่จำเป็นสำหรับเครดิตส่งผลให้สินเชื่อที่ไม่ทั้งหมด (ตัวอย่างเช่นถ้าผ่านสามในสี่งานที่ถูกต้องจะได้รับเครดิตแล้วผ่านสองให้ผลไม่มีเครดิต). [4]

ขนาดจุด แนวคิดอย่างมีนัยสำคัญการเปลี่ยนแปลงวิธีการทดสอบที่ได้กระทำโดยการกำหนดหน่วยกิตหรือจุดแต่ละรายการ สองคนนี้มีผลกระทบขนาดใหญ่ รายการแรกนี้ได้รับอนุญาตให้จัดกลุ่มตามเนื้อหา ประการที่สองผู้เข้าร่วมก็สามารถที่จะได้รับจำนวนเงินที่ตั้งของจุดหรือเครดิตสำหรับแต่ละรายการผ่าน. [8] ผลที่ตามมาคือการทดสอบที่สามารถสร้างขึ้นจากพื้นที่ที่แตกต่างกันเนื้อหา (หรือการทดสอบย่อย) มีทั้งคะแนนรวมและคะแนนสำหรับพื้นที่เนื้อหาแต่ละ ในทางกลับกันนี้ได้รับอนุญาตสำหรับการวิเคราะห์ที่จะทำให้ความสามารถของแต่ละบุคคลในความหลากหลายของพื้นที่เนื้อหา (เมื่อเทียบกับคะแนนทั่วไปหนึ่ง). [4]

ปลอดวาจาระดับประสิทธิภาพ [แก้ไข]
ขนาดประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ใช่คำพูดก็เป็น ความแตกต่างที่สำคัญจากระดับ Binet ตั้งแต่ "Binet ระดับต้นได้รับการเสมอและสม่ำเสมอวิพากษ์วิจารณ์เน้นภาษาและทักษะการพูด" [4] Wechsler ทำขนาดทั้งหมดที่ได้รับอนุญาตของปัญญาวัดอวัจนภาษา เรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะระดับประสิทธิภาพการทำงาน หลักขนาดนี้ต้องเป็นเรื่องที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง (เช่น "สัญลักษณ์การคัดลอกหรือชี้ไปที่รายละเอียดที่ขาดหายไป" [4]) มากกว่าแค่การตอบคำถาม นี่คือการพัฒนาที่สำคัญในขณะที่มันพยายามที่จะเอาชนะอคติที่เกิดจาก "ภาษาวัฒนธรรมและการศึกษา." [4] นอกจากนี้ขนาดนี้นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะสังเกตชนิดที่แตกต่างของพฤติกรรมเพราะบางสิ่งบางอย่างทางกายภาพที่ถูกต้อง แพทย์ก็สามารถที่จะปฏิบัติตามวิธีที่ผู้เข้าร่วมมีปฏิกิริยาตอบสนองกับ "ช่วงระยะเวลาของความพยายามอย่างต่อเนื่องของความเข้มข้นและความสนใจ" ที่งานผลการดำเนินงานที่จำเป็น. [4]

ในขณะที่ขนาด Wechsler-Bellevue เป็นครั้งแรกที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพระดับประสิทธิภาพการทำงาน (หมายถึงว่า (1) นั่นคือ "ความเป็นไปได้ของการเปรียบเทียบโดยตรงของแต่ละบุคคลทางวาจาและอวัจนภาษาปัญญา" [4] และ (2) ว่า "ผลของทั้งสองเครื่องชั่งน้ำหนักที่ถูกแสดงในหน่วยเทียบเคียง" [4]), ความคิดที่ได้รับรอบ ในขณะที่ ขนาด Binet ก็มีงานแสดง (แม้ว่าพวกเขาจะมุ่งสู่เด็ก ๆ ) และมีการทดสอบทั้งหมดที่ได้รับการพิจารณาหรืออาหารเสริมทางเลือก (ตัวอย่างของการทดสอบประสิทธิภาพเป็นไลเทอร์อินเตอร์เนชั่นแนลชั่งประสิทธิภาพการทำงาน)