Biofuel and Renewable EnergyWith Hi

Biofuel and Renewable Energy
With His Majesty the King's astute foresight, he recognised more than two decades ago that the world was running out of fossil fuels and Thailand, as a net importer of oil, would be hit hard.
In 1983, the King launched his royal project by urging the Prince of Songkhla University to research biodiesel production from palm fruits in the southern province of Krabi.
Consequently, the university generated around 110 litres of biofuel per day, sourced from crushed crude palm oil. The biofuel was blended with pure diesel to fill the fuel tanks of cars being used in several royal projects in rural areas.
His Majesty's resourceful idea was further borne out in the expansion and commercialisation of the project by oil retailers PTT and Bangchak, who, in cooperation with the Energy Ministry, played major roles in introducing renewable energy to Thailand's economy.
The initiative was also widely admired by not only Thais, but also by the international community: His Majesty the King's biofuel project was awarded the "Brussels Eureka 2001" prize in Belgium.
In 1985, the King would also initiate another project in Chidlada Royal Palace, which was recognised as a comprehensive agricultural learning centre to cultivate new technology and developments to help support Thai farmers.
His Majesty provided an initial budget of 925,500 baht to energy specialists to study the production of sugar-cane ethanol to blend with pure benzene, to reduce imports of expensive crude oil.
In 1986, the first small ethanol production plant was built in the palace, with a production capacity of only 2.8 litres per hour. Over the years, the plant has been adapted to produce pure ethanol from molasses, suitable for commercialisation.
During 1985-87, the project was passed on to PTT and Bangchak to spearhead the launch of the new biofuel onto the Thai energy market.
Sustainable energy was initially launched in only a few petrol stations located on major highways, before gradual expansion of pumps all across the country.
The success of the King's initiatives has made the annual import of millions of litres of crude oil unnecessary, contributing directly to the country's energy security.
Moreover, His Majesty's initiative loaned itself to direct support of millions of poor farmers in alternative biofuel crops that helped increase their incomes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื้อเพลิงชีวภาพและพลังงานทดแทน
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของการมองการณ์ไกลฉลาดเขาได้รับการยอมรับมานานกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาว่าโลกกำลังวิ่งออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและไทยเป็นผู้นำเข้าสุทธิของน้ำมันจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก.
ในปี 1983 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปิดตัวของเขา โครงการหลวงโดยเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อการวิจัยการผลิตไบโอดีเซลจากผลปาล์มในจังหวัดทางตอนใต้ของจ. กระบี่
ส่งผลให้มหาวิทยาลัยสร้างรอบ 110 ลิตรของเชื้อเพลิงชีวภาพต่อวันที่มาจากน้ำมันปาล์มดิบบด เชื้อเพลิงชีวภาพได้รับการผสมกับดีเซลบริสุทธิ์ให้เต็มถังเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่ถูกนำมาใช้ในโครงการพระราชหลายแห่งในพื้นที่ชนบท.
ความคิดไหวพริบพระบาทสมเด็จถูกพัดพาออกไปในการขยายตัวและการค้าของโครงการโดยร้านค้าปลีกน้ำมันปตท. และบางจากที่ใน ร่วมกับกระทรวงพลังงาน, มีบทบาทสำคัญในการนำพลังงานทดแทนที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย.
โครงการดังกล่าวยังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางโดยไม่เพียง แต่คนไทย แต่ยังจากประชาคมระหว่างประเทศ: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับรางวัล "Brussels Eureka 2001" รางวัลที่ได้รับ ในเบลเยียม.
ในปี 1985 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะเริ่มต้นโครงการอื่นใน Chidlada พระราชวังหลวงซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรที่ครบวงจรเพื่อปลูกฝังเทคโนโลยีใหม่และการพัฒนาที่จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทย.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้งบประมาณเริ่มต้นของ 925,500 บาทให้เป็นพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาการผลิตเอทานอลอ้อยเพื่อผสมผสานกับเบนซินบริสุทธิ์เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันดิบมีราคาแพง.
ในปี 1986 โรงงานผลิตเอทานอลขนาดเล็กครั้งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในพระราชวังที่มีกำลังการผลิตเพียง 2.8 ลิตรต่อชั่วโมง กว่าปีที่โรงงานที่ได้รับการปรับให้เข้ากับผลิตเอทานอบริสุทธิ์จากกากน้ำตาลเหมาะสำหรับการค้า.
ในช่วง 1985-1987 โครงการนี้ก็ถูกส่งให้กับปตท. และบางจากจะเป็นหัวหอกการเปิดตัวของเชื้อเพลิงชีวภาพใหม่เข้าสู่ตลาดพลังงานไทย.
พลังงานที่ยั่งยืน เปิดตัวครั้งแรกในเพียงสถานีบริการน้ำมันไม่กี่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักก่อนที่จะขยายตัวค่อยเป็นค่อยไปของปั๊มทั่วประเทศ.
ความสำเร็จของความคิดริเริ่มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทำการนำเข้าประจำปีของล้านลิตรน้ำมันดิบที่ไม่จำเป็นที่เอื้อต่อโดยตรงกับพลังงานของประเทศ การรักษาความปลอดภัย.
นอกจากนี้ยังมีความคิดริเริ่มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยืมตัวเองไปยังการสนับสนุนโดยตรงล้านของเกษตรกรที่ยากจนในพืชเชื้อเพลิงชีวภาพทางเลือกที่ช่วยเพิ่มรายได้ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไบโอดีเซลและพลังงานทดแทนฝ่าบาทพระราชาฉลาดมองการณ์ไกล เขาได้รับการยอมรับมากกว่าสองทศวรรษมาแล้วที่โลกกำลังวิ่งออกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและประเทศไทย ในฐานะผู้นำเข้าสุทธิของน้ำมัน จะถูกตีหนักในปี 1983 , พระราชาเปิดตัวโครงการหลวงของเขา โดยให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิจัยการผลิตไบโอดีเซลจากปาล์ม ผลไม้ ในจังหวัดภาคใต้ กระบี่ดังนั้น มหาวิทยาลัยสร้างขึ้นประมาณ 110 ลิตรของเชื้อเพลิงต่อวัน ที่มาจากน้ำมันปาล์มดิบบด . เชื้อเพลิงชีวภาพผสมกับน้ำมันดีเซลบริสุทธิ์เติมถังน้ํามันเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่ถูกใช้ในโครงการหลวงต่าง ๆ ในชนบทฝ่าบาทคิดหัวใส ยังเกิดขึ้นในการขยายตัวและการพาณิชย์ของโครงการ โดย ปตท. และบางจาก น้ำมันค้าปลีกที่ , ในความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาพลังงานทดแทน ต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยความคิดริเริ่มที่ยังชื่นชมกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะคนไทย แต่ยังโดยประชาคมระหว่างประเทศ : โครงการเชื้อเพลิงชีวภาพของพระราชา ได้รับรางวัล " Brussels Eureka 2001 " รางวัลในเบลเยียมในปี 1985 , กษัตริย์ก็ยังริเริ่มโครงการอื่นใน chidlada พระราชวังซึ่งเป็นที่ยอมรับเป็นครอบคลุมการเกษตร ศูนย์การเรียนรู้ เพื่อปลูกฝังและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่สนับสนุนภาษาไทยฝ่าบาทมีงบประมาณเริ่มต้นของ 925500 บาท ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เพื่อศึกษาการผลิตเอทานอลอ้อยผสมกับเบนซินบริสุทธิ์ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันดิบราคาแพงใน 1986 , ขนาดเล็กครั้งแรกการผลิตเอทานอลโรงงานถูกสร้างขึ้นในพระราชวัง ด้วยกำลังการผลิตเพียง 2.8 ลิตรต่อชั่วโมง ปี พืชที่ได้รับการดัดแปลงเพื่อผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาลแท้เหมาะสำหรับการพาณิชย์ .ในช่วง 1985-87 โครงการที่ผ่าน ปตท. และบางจาก เป็นหัวหอกในการเปิดตัวของเชื้อเพลิงชีวภาพใหม่เข้าสู่ตลาดไทย พลังงานพลังงานอย่างยั่งยืนได้เริ่มเปิดตัวในเพียงไม่กี่สถานีน้ำมันเบนซินตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ก่อนขยายอย่างค่อยเป็นค่อยไปของปั๊มทั้งหมดทั่วประเทศความสำเร็จของการริเริ่มของพระราชาได้นำเข้าปีละล้านลิตรของน้ำมัน ไม่ดิบ สาเหตุโดยตรง เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศนอกจากนี้ การริเริ่มของฝ่าบาทให้เองโดยตรงสนับสนุนของล้านของเกษตรกรที่ยากจนในทางเลือกเชื้อเพลิงชีวภาพพืช ที่ช่วยเพิ่มรายได้ของพวกเขา