In most cases, a sponsor who is emp

In most cases, a sponsor who is employed and can demonstrate the ability to earn income at or above 125% of the poverty line for the number of persons who will be supported will be found eligible. Immigration will look at the “whole picture” with regard to financial status if a petitioner does not have sufficient income to meet the K-1 visa requirements. USCIS will look at assets such as stocks, bonds, bank account balances, real estate, and any businesses owned by the petitioner.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้สนับสนุนที่เป็นลูกจ้าง และสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการได้รับรายได้ที่ หรือเหนือ กว่า 125% ของเส้นความยากจนสำหรับหมายเลขของผู้ที่จะได้รับการสนับสนุน จะไม่พบสิทธิ์ ตรวจคนเข้าเมืองจะมองใน "ภาพรวม" เกี่ยวกับสถานะทางการเงินถ้าในกรณีที่ไม่มีรายได้เพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการขอวีซ่า K-1 USCIS จะดูที่สินทรัพย์เช่นหุ้น พันธบัตร ยอดดุลบัญชีธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจใด ๆ เป็นเจ้าของ โดยในกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในกรณีส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นลูกจ้างและสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการได้รับรายได้ที่หรือสูงกว่า 125% ของเส้นความยากจนสำหรับจำนวนของบุคคลที่จะได้รับการสนับสนุนจะพบมีสิทธิ์ ตรวจคนเข้าเมืองจะดูที่ "ภาพรวม" เกี่ยวกับสถานะทางการเงินที่มีผู้ร้องไม่ได้มีรายได้เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการขอวีซ่า K-1 USCIS จะดูที่สินทรัพย์เช่นหุ้นพันธบัตรยอดคงเหลือบัญชีธนาคารอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เป็นของผู้ร้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในกรณีส่วนใหญ่ , สปอนเซอร์ที่เป็นลูกจ้าง และสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหารายได้ที่ขึ้นไป 125 % ของเส้นความยากจนสำหรับจำนวนของผู้ที่จะได้รับการสนับสนุน จะพบว่ามีสิทธิ์ ตรวจคนเข้าเมืองจะดู " ภาพ " ทั้งในเรื่องสถานะทางการเงิน ถ้าผู้ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการวีซ่า K - 1 .USCIS จะดูสินทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร ดุลบัญชี อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยผู้ที่ร้องเรียน