Bacteria produce carbohydrate-speci

Bacteria produce carbohydrate-specific adhesins which are frequently located on their fimbriae or pili. Prominent examples for colonization via Sia are pathogenic bacteria such as strains ofE. coli, Streptococci and Helicobacter pylori. Especially the latter
bacterium, often found in the human stomach and responsible for gastric inflammation and possibly cancer, is intensively studied. Mahdavi et al. (2002) published the structure of its Sia-recognizing adhesin. Knowledge about such adhesion mechanisms enables a
biology-based therapy of diseases and reduces the use of antibiotics (Gerhard et al., 2001). Thus, receptor–ligand interactions may be inhibited with soluble ligands such
as sialylated oligosaccharides or glycoproteins. Such oligosaccharides occur in a relatively high concentration in milk, especially in the colostrum. The milk from each
mammalian species contains different and more or less sialylated glycans (Urashima et al., 2001). These carbohydrates are considered to regulate the speciesspecific colonization of the intestine with microorganisms and to prevent the attachment of pathogenic bacteria such as E. coliand Helicobacterstrains or pathogenic viruses, e.g. rota viruses, which is especially important in newborns. It should be noted that a high
Sia content in breast milk, especially during the first days after birth, was shown to increase the Sia content of brain gangliosides in rats and man and is discussed to
promote permanently higher intelligence (Wang and Brand-Miller, 2003). Bacterial toxins, such as cholera, tetanus and diphtheria toxin, firmly adhere to Sia, mostly those situated on gangliosides, as basis of their pathophysiological activity (summarized inKelm and Schauer, 1997).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบคทีเรียผลิต adhesins เฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่อยู่บ่อย ๆ บน fimbriae หรือ pili ของพวกเขา ตัวอย่างที่โดดเด่นในสนามผ่าน Sia มีแบคทีเรียอุบัติเช่นสายพันธุ์ ofE coli, Streptococci และกระเพาะ pylori โดยเฉพาะหลังintensively ได้ศึกษาแบคทีเรีย มักพบในกระเพาะอาหารมนุษย์ และอักเสบในกระเพาะอาหารและอาจเป็นมะเร็ง Mahdavi et al. (2002) ประกาศโครงสร้างของ adhesin จดจำ Sia ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับกลไกการยึดเกาะดังกล่าวเป็นชีววิทยาพื้นฐานบำบัดโรค และลดการใช้ยาปฏิชีวนะ (Gerhard et al., 2001) ดังนั้น อาจห้ามโต้ตอบตัวรับ – ลิแกนด์กับละลาย ligands ดังกล่าวsialylated oligosaccharides หรือ glycoproteins Oligosaccharides ดังกล่าวเกิดขึ้นในความเข้มข้นค่อนข้างสูงในนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน colostrum นมจากmammalian ชนิดประกอบด้วยแตกต่างกันมากน้อย sialylated glycans (อุระชิม่าและ al., 2001) และ คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะถือว่าเป็น การควบคุมสนาม speciesspecific ของลำไส้ด้วยจุลินทรีย์ และ การป้องกันตัวของแบคทีเรียอุบัติเช่น E. coliand Helicobacterstrains หรือไวรัสอุบัติ เช่นโรตาไวรัส ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านทารกแรก ควรสังเกตที่สูงเนื้อหา Sia ในน้ำนมแม่ โดยเฉพาะในช่วงวันแรกหลังคลอด ที่แสดงการเพิ่มเนื้อหา Sia ของ gangliosides สมองในหนูและคน และกล่าวถึงส่งเสริมปัญญาสูงอย่างถาวร (วังและแบรนด์มิลเลอร์ 2003) สารพิษจากแบคทีเรีย เช่นอหิวาตกโรค บาดทะยัก และคอตีบพิษ อย่างมั่นคงยึดมั่น Sia ส่วนใหญ่ผู้ชาย gangliosides เป็นพื้นฐานของกิจกรรมของตน pathophysiological (สรุป inKelm และ Schauer, 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบคทีเรียผลิต adhesins คาร์โบไฮเดรตที่เฉพาะเจาะจงซึ่งตั้งอยู่บ่อย ๆ หรือ fimbriae pili ของพวกเขา ตัวอย่างที่โดดเด่นสำหรับการล่าอาณานิคมผ่าน Sia ​​แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเช่นสายพันธุ์ OFE coli, Streptococci และเชื้อ Helicobacter pylori โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง
แบคทีเรียมักจะพบในกระเพาะอาหารของมนุษย์และมีความรับผิดชอบสำหรับกระเพาะอาหารอักเสบและอาจเป็นมะเร็งมีการศึกษาอย่างจริงจัง Mahdavi et al, (2002) ตีพิมพ์โครงสร้างของเสี่ย adhesin ตระหนักถึงมัน ความรู้เกี่ยวกับกลไกการยึดเกาะดังกล่าวช่วยให้
การรักษาตามชีววิทยาของโรคและลดการใช้ยาปฏิชีวนะ (แกร์ฮาร์ด et al., 2001) ดังนั้นการมีปฏิสัมพันธ์รับ-แกนด์อาจจะยับยั้งการกับแกนด์ที่ละลายน้ำได้เช่น
เป็น oligosaccharides sialylated หรือไกลโคโปรตีน oligosaccharides เกิดขึ้นดังกล่าวมีความเข้มข้นค่อนข้างสูงในนมโดยเฉพาะในนมน้ำเหลือง นมจากแต่ละ
สายพันธุ์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีแตกต่างกันและมากขึ้นหรือน้อย sialylated glycans (Urashima et al., 2001) คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ได้รับการพิจารณาในการควบคุมการล่าอาณานิคม speciesspecific ของลำไส้ที่มีจุลินทรีย์และเพื่อป้องกันสิ่งที่แนบมาของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเช่นอี coliand Helicobacterstrains หรือไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเช่นไวรัสโรตาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารกแรกเกิด มันควรจะตั้งข้อสังเกตว่าสูง
เนื้อหา Sia ในนมแม่โดยเฉพาะในช่วงวันแรกหลังคลอดได้รับการแสดงเพื่อเพิ่มเนื้อหา Sia gangliosides ของสมองในหนูและมนุษย์และเป็นที่กล่าวถึงการ
ส่งเสริมปัญญาที่สูงขึ้นอย่างถาวร (วังและแบรนด์มิลเลอร์ 2003) สารพิษจากเชื้อแบคทีเรียเช่นอหิวาตกโรคโรคบาดทะยักและคอตีบพิษมั่นยึดมั่นใน Sia ​​ส่วนใหญ่ผู้ที่อยู่บน gangliosides เป็นพื้นฐานของกิจกรรม pathophysiological ของพวกเขา (สรุป inKelm และ Schauer, 1997)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบคทีเรียผลิตคาร์โบไฮเดรต adhesins เฉพาะซึ่งมักตั้งอยู่บนฟิมเบรียหรือที่สองของพวกเขา ตัวอย่างที่โดดเด่นสำหรับการล่าอาณานิคมทาง SIA มีแบคทีเรีย เชื้อโรค เช่น เชื้อ ofe coli และเชื้อ Helicobacter pylori . โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง
แบคทีเรียที่มักพบในกระเพาะอาหารของมนุษย์ และรับผิดชอบต่อกระเพาะอาหารอักเสบและอาจเป็นมะเร็ง เป็นอย่างนี้mahdavi et al . ( 2002 ) ตีพิมพ์โครงสร้างของเสี่ยจำ adhesin . ความรู้เกี่ยวกับกลไกการยึดเกาะดังกล่าวช่วยให้
ชีววิทยาตามโรคและลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ( Gerhard et al . , 2001 ) ดังนั้น การเกิดปฏิกิริยาและอาจจะยับยั้งได้ เช่นกับลิแกนด์
เป็น sialylated โอลิโกแซคคาไรด์ หรือไกลโคโปรตีน .เทคโนโลยีดังกล่าวเกิดขึ้นในความเข้มข้นค่อนข้างสูงในนม โดยเฉพาะนมน้ำเหลือง . นมจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดที่แตกต่างกันและแต่ละ
มีมากหรือน้อย sialylated glycans ( ระชิม่า et al . , 2001 ) คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ถือว่าควบคุมการล่าอาณานิคม speciesspecific ของลำไส้ ด้วยจุลินทรีย์ และป้องกันการยึดติดของแบคทีเรียก่อโรค เช่น Ehelicobacterstrains coliand หรือ เชื้อโรค ไวรัส เช่น ไวรัสโรต้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิด มันควรจะสังเกตว่าเนื้อหาเซียสูง
ในนม โดยเฉพาะในช่วงวันแรกๆหลังคลอด ถูกแสดงเพื่อเพิ่มปริมาณของเสี่ยจับตัวหนู และสมองในมนุษย์และเป็นการกล่าวถึง
ส่งเสริมสติปัญญาอย่างถาวรสูงกว่า ( วังและมิลเลอร์ แบรนด์ , 2003 )สารพิษของแบคทีเรีย เช่น อหิวาตกโรค บาดทะยัก และคอตีบพิษแน่นยึดสยาม ส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของกิจกรรมจับตัวเป็นพยาธิสรีรวิทยาของพวกเขา ( สรุป inkelm และเชาเออร์ , 1997 )