Then the observer collects data fro

Then the observer collects data from the magnitude spectrum and the graph axis showing the frequency. in which 50 tapping will be performed on each object and the magnitude will recorded according to the frequency applied. For instance, the green steel produces 3 magnitudes from 3 different frequency which are 2480 Hz, 4480 Hz and 5093 Hz. The red steel gives out 2078 Hz, 3757 Hz and 6259 Hz. When the tapping process is done, find the best frequency value to be used for the calculation of the object's sound separation, where we will use the average value produced by each frequency level.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แล้ว แหล่งที่รวบรวมข้อมูลจากสเปกตรัมขนาดแกนกราฟแสดงความถี่ ที่เคาะ 50 จะดำเนินการในแต่ละวัตถุ และจะขนาดบันทึกตามความถี่ที่ใช้ ตัวอย่าง เหล็กสีเขียวสร้าง magnitudes 3 จาก 3 ความถี่ที่แตกต่างกันที่ 2480 Hz, 4480 Hz และ 5093 Hz เหล็กแดงให้ 2078 Hz, 3757 Hz และ 6259 Hz เมื่อทำการแตะ หาค่าความถี่ที่ดีที่จะใช้สำหรับการคำนวณของการแยกเสียงของวัตถุ ที่เราจะใช้ค่าเฉลี่ยที่ผลิต โดยแต่ละระดับความถี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากนั้นผู้สังเกตการณ์เก็บรวบรวมข้อมูลจากคลื่นความถี่ขนาดและแกนกราฟแสดงความถี่ ที่กรีด 50 จะได้รับการดำเนินการในแต่ละวัตถุและขนาดจะบันทึกตามความถี่ที่ใช้ ยกตัวอย่างเช่นเหล็กสีเขียวผลิตจาก 3 ขนาดความถี่ที่แตกต่างกัน 3 ที่ 2,480 เฮิรตซ์ 4480 เฮิร์ตซ์และ 5093 เฮิร์ตซ์ เหล็กสีแดงให้ออก 2,078 เฮิรตซ์ 3757 เฮิร์ตซ์และ 6259 เฮิร์ตซ์ เมื่อกระบวนการแตะที่จะทำหาค่าความถี่ที่ดีที่สุดที่จะใช้สำหรับการคำนวณของการแยกเสียงของวัตถุที่เราจะใช้ค่าเฉลี่ยที่ผลิตโดยระดับแต่ละความถี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แล้วสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลจากขนาดสเปกตรัมและกราฟแกนแสดงความถี่ แตะที่ 50 จะดำเนินการในแต่ละวัตถุและขนาดจะบันทึกไว้ตามความถี่ที่ใช้ ตัวอย่างเช่นเหล็กสีเขียวสร้าง 3 ขนาดจากความถี่ที่แตกต่างกัน 3 2 , 480 Hz 4480 Hz และ 5093 เฮิร์ต เหล็กแดงให้ 2078 Hz ผื่น Hz และ 6259 เฮิร์ตเมื่อแตะที่เสร็จสิ้นกระบวนการหาค่าความถี่ที่ดีที่สุดที่จะใช้สำหรับการแยกเสียงของวัตถุที่เราจะใช้ค่าเฉลี่ยของค่าผลิต โดยแต่ละระดับความถี่