ในสมัยก่อนนั้น แกงไทยๆ จะเป็นแกงเลียงซะส่วนใหญ่ และเป็นแกงป่าตามมาเพราะจะไม่ใส่กะทิต่อมามีแกงใส่กะทิเข้ามาในครัว ก็จึงมีแกงเผ็ดหรือที่หลายท้องถิ่นเขาเรียกกัน
และคนไทยช่างคิด เปลียนพริกแห้งสีแดง มาใช้พริกสดสีเขียวแทนและใส่ใบพริกสดลงไปตำด้วยในน้ำพริกแกงนั้นๆ เพื่อให้มีสีเขียวที่เด่นชัดขึ้น
ความสงสัยก็ตามมาอีกว่าแล้วทำไมแกงเขียวหวานถึงต้องมีคำว่าหวานตามหลัง หรือเป็นเพราะว่าแกงเขียวหวานมีรสหวานเลยชื่อว่าแกงเขียวหวาน ซึ่งที่มาที่แท้จริงของชื่อแกงเขียวหวานนั้น เขามีความหมายว่า เป็นแกงที่มีสีเขียวแบบหวาน หมายถึงเป็นแกงที่มีสีเขียวนวล เขียวสะอาดหรื่อเขียวแบบนุ่มนวลไม่ใช่เขียวเสียจนจัดจ้านน่ากลัวและที่แน่ๆไม่ใช่แกงสีเขียวที่มีรสหวานเพราะแกงเขียวหวานต้องไม่หวานเป็นนำแต่ต้องเป็นเค็มนำแล้วหวานตาม
ซึ่งในสมัยปัจจุบันนี้ แกงก็มีการดัดแปลงให้มีลูกเล่นมากขึ้น เช่น แกงเขียวไข่เค็ม ที่ใช้เนื้อปลากรายห่อไข่แดงเค็มเอาไว้ซึ่งแบบนี้จะต้องเลือกไข่เค็มมากเมื่อรับประทานกับแกงราดข้าวหรือขนมจีนจะได้เค็มกลมกล่อมพอดี แกงเขียวหวานปลาหมึกยัดไส้ก็มีคนทำ โดยนำเอาปลาหมึกยัดไส้ที่ใช้แกงจืดมาแกงเป็นแกงเขียวหวานหรือถ้าจะดัดแปลงให้มากหน่อยก็เอาน้ำพริกแกงเขียวหวานไป ผัดกับข้าวแล้วกินคู่กับไข่เค็มก็เป็นข้าวผัดน้ำพริกแกงเขียวหวาน