The relationship between water loss

The relationship between water loss via transpiration and stem sap flow in young apricot trees was studied under
different environmental conditions and different levels of soil water status. The experiment was carried out in a
greenhouse over a 2-week period (November 2–14, 1997) using three-year-old apricot trees (Prunus armeniaca
cv. Búlida) growing in pots. Diurnal courses of leaf water potential, leaf conductance and leaf turgor potential also
were recorded throughout the experiment. Data from four days of different enviromental conditions and soil water
availability have been selected for analysis. On each of the selected days the leaf water potential and the mean
transpiration rates were well correlated. The slope of the linear regression of this correlation, taken to indicate the
total hydraulic resistance of the tree, confirmed an increasing hydraulic resistance under drought conditions. When
the trees were not drought stressed the diurnal courses of sap flow and transpiration were very similar. However,
when the trees were droughted, measured of sap flow slightly underestimated actual transpiration. Our heat-pulse
measurements suggest the amount of readily available water stored in the stem and leaf tissues of young apricot
trees is sufficient to sustain the peak transpiration rates for about 1 hour.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียน้ำผ่านการคายและการไหลของน้ำนมลำต้นต้นไม้ apricot
หนุ่มศึกษาภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและระดับที่แตกต่างสถานะของน้ำในดิน การทดลองดำเนินการในเรือนกระจกในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ (02-14 พฤศจิกายน 1997) โดยใช้ต้นไม้ apricot สามปี (Prunus armeniaca พันธุ์. Búlida) การเจริญเติบโตในกระถาง หลักสูตรรายวันที่มีศักยภาพน้ำใบ conductance ใบและใบ turgor ที่อาจเกิดขึ้นนอกจากนี้ยังได้รับการบันทึกไว้ตลอดการทดลอง ข้อมูลจากสี่วันของสภาพสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันและน้ำในดินความพร้อมได้รับการคัดเลือกในการวิเคราะห์ ในแต่ละวันที่เลือกใบที่มีศักยภาพของน้ำและค่าเฉลี่ยอัตราการคายมีความสัมพันธ์ที่ดี ความลาดชันของการถดถอยเชิงเส้นของความสัมพันธ์นี้ที่นำมาเพื่อแสดงให้เห็นความต้านทานไฮดรอลิรวมของต้นไม้ที่ได้รับการยืนยันความต้านทานไฮโดรลิคที่เพิ่มขึ้นภายใต้ภาวะภัยแล้ง เมื่อต้นฤดูแล้งไม่ได้เน้นหลักสูตรรายวันของการไหลของน้ำนมและคายมีความคล้ายคลึงกันมาก อย่างไรก็ตามเมื่อต้นไม้ถูก droughted วัดการไหลของน้ำนมเล็กน้อยประเมินการคายที่เกิดขึ้นจริง ความร้อนชีพจรของเราวัดที่แสดงให้เห็นปริมาณน้ำพร้อมใช้งานที่เก็บไว้ในเนื้อเยื่อของลำต้นและใบของแอปริคอทหนุ่มต้นไม้จะเพียงพอที่จะรักษาอัตราการคายสูงสุดประมาณ1 ชั่วโมง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียน้ำผ่านการคายน้ำและการไหลของ SAP ในต้นไม้ต้นแอปริคอท ยังศึกษาภายใต้
สภาพแวดล้อมแตกต่างกันและระดับที่แตกต่างกันของสถานะดินน้ำ ทำการทดลองในเรือนกระจกกว่าระยะเวลา 2
( 2 พฤศจิกายน– 14 , 1997 ) โดยใช้ต้นไม้ apricot วัย 3 ขวบ ( ศาสนา armeniaca
พันธุ์ B úลิด้า ) ปลูกในกระถางความผันแปรในรอบวันของศักย์น้ำในใบ ใบรูปใบและศักยภาพแล้วรู้สึกยัง
ถูกบันทึกไว้ตลอดการทดลอง ข้อมูลจากสี่วัน สภาพสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน และมีน้ำ
ดินได้รับเลือกสำหรับการวิเคราะห์ เลือกวันในแต่ละใบน้ำที่มีศักยภาพและค่าเฉลี่ยอัตราการคายน้ำสัมพันธ์ดี
.ความลาดชันของการถดถอยเชิงเส้นของความสัมพันธ์นี้ ถ่ายเพื่อระบุ
ต้านทานไฮดรอลิกทั้งหมดของต้นไม้ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้นความต้านทานไฮดรอลิกภายใต้สภาพแล้ง เมื่อ
ต้นไม้ไม่แล้งตรึงเครียด ความผันแปรในรอบวันของการไหลของ SAP และการคายน้ำ มีความคล้ายคลึงกันมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อ droughted
ต้นไม้ ,วัดการไหลของ SAP เล็กน้อยเกินไปแท้จริงการคายน้ำ . การวัดชีพจร
ความร้อนของเราแนะนำปริมาณของพร้อมน้ำเก็บไว้ในลำต้นและใบ เนื้อเยื่อของต้นไม้ apricot
ยังเพียงพอที่จะรักษายอด อัตราการคายน้ำ ประมาณ 1 ชั่วโมง