Antibiotics may become harder to re

Antibiotics may become harder to resist

Antibiotics may become harder to resist because bacteria are finding ways to get around the drug. Antibiotics are also getting weaker, but scientists are working as hard as they can to prevent this from happening.

Scientists are trying to design types of drugs that can keep working, even though these antibiotics are being used by many people, scientists are performing many long experiments to develop these drugs. An example of one of these experiments is trying to stop the growth of antibiotic pollution. In this experiment, scientists discovered that a person who takes an antibacterial drug, excretes much of the does intact. This contaminated rivers or soil and kills many of the microbes it encounters but it leaves behind those that can resist it. After a period of time, these bacteria can transmit the resistance-conferring genetic makeup to both their progeny and the bacteria that are nearby.

To stop this from happening, scientists are creating antibiotics that "self-destruct.  They conducted an experiment to prove this is possible by attaching a light-sensitive component to a cephalosporin antibiotic which represents important characteristics of this class of drugs. In a few hours of exposure to the sun's ultraviolent (UV) rays, the light-sensitive component falls off. What remains is unstable and quickly breaks apart into pieces with no antibiotic activity.

In a second series of experiments, they used a phosphate-attaching enzyme as their tool for resisting drugs that gain no survival advantage against this drug. This shoves phosphate off the bacterial cell so it can kill it.

Richard Novick of the New York University Medical center thinks that both strategies to attacking this problem are "extremely clever.  He also added that "bacteria are extremely clever and will eventually find alternate routes of resistance.  This me

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยาปฏิชีวนะอาจจะกลายเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานยาปฏิชีวนะอาจจะกลายเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านเพราะแบคทีเรียที่กำลังมองหาวิธีการที่จะได้รับรอบยาเสพติด ยาปฏิชีวนะยังได้รับปรับตัวลดลง แต่นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอย่างหนักเท่าที่พวกเขาสามารถที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้. นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามที่จะออกแบบประเภทของยาเสพติดที่สามารถให้การทำงานแม้ว่ายาปฏิชีวนะเหล่านี้จะถูกนำมาใช้โดยคนจำนวนมากที่นักวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการหลายยาว การทดลองในการพัฒนายาเหล่านี้ ตัวอย่างหนึ่งของการทดลองเหล่านี้พยายามที่จะหยุดการเจริญเติบโตของมลพิษยาปฏิชีวนะ ในการทดลองนี้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าคนที่ใช้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียขับมากไม่เหมือนเดิม แม่น้ำนี้ปนเปื้อนหรือดินและฆ่าหลายจุลินทรีย์พบ แต่ใบที่อยู่เบื้องหลังผู้ที่สามารถต่อต้านมัน หลังจากช่วงเวลาที่แบคทีเรียเหล่านี้สามารถส่งผ่านพันธุกรรมต้านทานการหารือกับทั้งลูกหลานและแบคทีเรียของพวกเขาที่อยู่ใกล้เคียง. เพื่อหยุดนี้เกิดขึ้นนักวิทยาศาสตร์กำลังสร้างยาปฏิชีวนะที่ "ทำลายตัวเอง. ?? พวกเขาดำเนินการทดลองเพื่อ พิสูจน์เรื่องนี้เป็นไปได้โดยติดที่ไวต่อแสงองค์ประกอบที่จะเป็นยาปฏิชีวนะ cephalosporin ซึ่งหมายถึงลักษณะที่สำคัญของการเรียนของยาเสพติดนี้. ในไม่กี่ชั่วโมงของการสัมผัสกับดวงอาทิตย์ ultraviolent (UV) รังสีซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ไวต่อแสงตก. สิ่งที่ยังคงอยู่ จะไม่เสถียรและแบ่งได้อย่างรวดเร็วออกจากกันเป็นชิ้นที่มีฤทธิ์ยาปฏิชีวนะไม่มี. ในชุดที่สองของการทดลองที่พวกเขาใช้เอนไซม์ฟอสเฟตติดเป็นเครื่องมือของพวกเขาสำหรับการต่อต้านยาเสพติดที่ได้เปรียบในการอยู่รอดกับยานี้. shoves นี้ฟอสเฟตออกเซลล์ของแบคทีเรียเพื่อ ก็สามารถฆ่ามัน. ริชาร์ด Novick ของนิวยอร์กศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยคิดว่ากลยุทธ์ทั้งการโจมตีปัญหานี้ "ฉลาดมาก ?? เขายังเสริมว่า "แบคทีเรียที่ฉลาดมากและในที่สุดก็จะได้พบกับเส้นทางอื่นของความต้านทาน. นี้ ?? ฉัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยาปฏิชีวนะอาจกลายเป็นยากที่จะต้านทาน

ยาปฏิชีวนะอาจกลายเป็นยากที่จะต่อต้าน เพราะแบคทีเรียที่กำลังมองหาวิธีที่จะได้รับรอบ ๆยาเสพติด ยาปฏิชีวนะก็จะอ่อนแอลง แต่นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานอย่างหนักเช่นที่พวกเขาสามารถที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น นักวิทยาศาสตร์

พยายามออกแบบประเภทของยาที่สามารถทำงาน แม้ว่ายาปฏิชีวนะเหล่านี้จะถูกใช้โดยหลาย ๆคนนักวิทยาศาสตร์ทดลองยาวนานหลายเพื่อพัฒนายาเหล่านี้ ตัวอย่างหนึ่งของการทดลองเหล่านี้กำลังพยายามที่จะหยุดการเติบโตของมลพิษ ยาปฏิชีวนะ ในการทดลองนี้ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า คนที่ใช้เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย , excretes มากไม่เหมือนเดิมนี้ปนเปื้อนในแม่น้ำ หรือดินและฆ่าจำนวนมากของจุลินทรีย์ที่พบ แต่ใบหลังที่สามารถต้านทานมันได้ หลังจากช่วงเวลา แบคทีเรียเหล่านี้สามารถส่งต้านทานพร้อมทั้งลูกหลานและแต่งหน้าทางพันธุกรรมของแบคทีเรียที่อยู่ใกล้เคียง

หยุดนี้จากเหตุการณ์ นักวิทยาศาสตร์สร้างยาปฏิชีวนะที่ " ไม่รอดนั่นพวกเขาทำการทดลองเพื่อพิสูจน์นี้เป็นไปได้โดยการแนบชิ้นส่วน light-sensitive cephalosporin ยาปฏิชีวนะเพื่อซึ่งแสดงถึงลักษณะที่สำคัญของระดับของยาเสพติดนี้ ในไม่กี่ชั่วโมงของแสงแดด ( UV ) ของ ultraviolent รังสีส่วนประกอบ light-sensitive ตก สิ่งที่ยังคงไม่เสถียรและรวดเร็วแบ่งแยกเป็นชิ้นไม่มียาปฏิชีวนะกิจกรรม

ในชุดการทดลองที่สองของพวกเขาใช้ฟอสเฟตต่อเอนไซม์เครื่องมือของพวกเขาสำหรับการต่อต้านยาเสพติดที่ได้รับประโยชน์ไม่รอดกับยาเสพติดนี้ นี้ผลักฟอสเฟตออกจากเซลล์แบคทีเรียจึงสามารถฆ่ามัน

ริชาร์ด โนวิค จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กศูนย์การแพทย์คิดว่ากลยุทธ์ทั้งการโจมตีปัญหานี้เป็น " แสนฉลาดมันนอกจากนี้เขายังเสริมว่า " แบคทีเรียที่แสนฉลาดและในที่สุดจะพบเส้นทางสำรองของความต้านทาน ชาตินี้ฉัน