Since the military coup of 22 May 2

Since the military coup of 22 May 2014, there has been no legislative committee with the power to oversee the armed forces. This is because the Coup Group voided the 2007 constitution which provided for a legislature that possessed parliamentary committees.

Prior to the coup, Thailand also had a Senate Committee which was supposed to monitor the military. Prior to the 2013 dissolution of the Lower House, Thailand did have a Lower House Committee which served this purpose of oversight (under the 2007 constitution). The Lower House Committee had only three members with a military background. Though this could be interpreted positively in that the Lower House Committee was less influenced by the military, on the other hand the civilian members had much less expertise on matters pertaining to the military. Their lack of specialist knowledge meant that the military could sometimes dodge oversight. Meanwhile in the Upper House, the Committee overseeing the military had 7 members (out of 12) with a military background. It could thus be observed that military influence tended to be higher in this Senate committee with the implication that there might be less critical scrutiny of the armed forces in that body than in the Lower House.

However, since the 2014 coup, there has been no elected legislature and thus no elected legislative committees. In August, 2014, a National Legislative Assembly (NLA) was appointed by the military junta in power. This NLA, under the 2014 interim constitution, has no been given no jurisdiction to monitor the military, and has no power to scrutinize the military budget, although it can see the non-secret portions of the budget.

Meanwhile, the National Security Agency remains under the purview of Thailand's prime minister, who also doubles as military junta leader. According to an anonymous interviewee, currently there is no independent oversight of Thailand's intelligence services outside of the military itself.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นับตั้งแต่รัฐประหารปี 2557 22 may มีแล้วกรรมการสภาไม่ มีอำนาจดูแลกองทัพ ทั้งนี้เนื่องจาก กลุ่มรัฐประหารยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2007 ซึ่งให้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมที่ต้องมีคณะกรรมการรัฐสภา ก่อนรัฐประหาร ไทยยังได้คณะกรรมการวุฒิสภาซึ่งควรตรวจสอบทหาร ก่อนปี 2013 ยุบสภาล่าง ไทยไม่ได้มีกรรมการสภาล่างซึ่งบริการนี้วัตถุประสงค์ของการกำกับดูแล (ภายใต้ธรรมนูญ) กรรมการสภาล่างมีสมาชิกเพียงสาม ด้วยพื้นหลังทหาร แม้ว่านี้อาจถูกตีบวกที่กรรมการสภาล่างมีน้อยผล โดยทหาร คงสมาชิกพลเรือนได้มากน้อยลงความเชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวกับทหาร การขาดความรู้ผู้เชี่ยวชาญหมายความ ว่า ทหารสามารถหลบกำกับดูแลบางครั้ง ในขณะเดียวกัน ในวุฒิสภา คณะกรรมการดูแลด้านการทหารมี 7 สมาชิก (จาก 12) กับพื้นหลังทหาร มันสามารถจึงสามารถสังเกตว่า อิทธิพลทางทหารมีแนวโน้มจะสูงขึ้นในคณะกรรมการวุฒิสภานี้ด้วยเนื่องจากอาจมี scrutiny น้อยสำคัญของกองทัพในกว่าในสภาล่าง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการทำรัฐประหารในปี 2014 มีแล้วทูลเกล้าทูลกระหม่อมป่าวไม่และดังนั้นจึงไม่รับการแต่งตั้งสภาคณะกรรมการ ในเดือนสิงหาคม 2014 เป็นชาติสภาแอสเซมบลี (NLA) ถูกแต่งตั้ง โดยรัฐบาลทหารจุนตาทหารอำนาจ NLA นี้ ภายใต้ธรรมนูญชั่วคราวปี 2014 ได้ไม่รับไม่มีอำนาจตรวจสอบทหาร และมีพลังไม่ scrutinize งบประมาณทหาร แม้ว่ามันสามารถมองเห็นส่วนไม่ลับของงบประมาณในขณะเดียวกัน หน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งชาติอยู่ภายใต้ purview ของประเทศไทยนายกรัฐมนตรี คนคู่ยัง เป็นผู้นำการท ตามการสัมภาษณ์แบบไม่ระบุชื่อ ในปัจจุบันมีอยู่ไม่กำกับดูแลอิสระของข่าวกรองของไทยนอกทหารเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นับตั้งแต่การรัฐประหารของทหาร 22 พฤษภาคม 2014 ได้มีการออกกฎหมายไม่มีคณะกรรมการที่มีอำนาจในการกำกับดูแลกองกำลังติดอาวุธ นี้เป็นเพราะกลุ่มรัฐประหารเป็นโมฆะรัฐธรรมนูญ 2007 ที่ระบุไว้สำหรับสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มีคณะกรรมการของรัฐสภา. ก่อนที่จะมีการทำรัฐประหารประเทศไทยยังมีคณะกรรมาธิการวุฒิสภาซึ่งควรจะตรวจสอบทหาร ก่อนที่จะมีการสลายตัวของปี 2013 สภาผู้แทนราษฎรไทยก็มีคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรซึ่งทำหน้าที่วัตถุประสงค์ของการกำกับดูแลนี้ (ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2007) คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรมีเพียงสามคนที่มีพื้นหลังทหาร แม้ว่านี้อาจจะตีความในเชิงบวกในการที่คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรได้รับอิทธิพลน้อยลงโดยทหารในมืออื่น ๆ สมาชิกพลเรือนมีความเชี่ยวชาญมากน้อยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทหาร พวกเขาขาดความรู้เฉพาะหมายความว่าทหารบางครั้งสามารถหลบการกำกับดูแล ในขณะเดียวกันในสภาสูงของคณะกรรมการกำกับดูแลการทหารมี 7 คน (จาก 12) ที่มีพื้นหลังทหาร มันจึงอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าอิทธิพลทางทหารมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในการนี้คณะกรรมาธิการวุฒิสภาที่มีความหมายว่าอาจจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำคัญน้อยกว่าของกองกำลังติดอาวุธในร่างกายที่มากกว่าในสภาผู้แทนราษฎร. แต่เนื่องจากการทำรัฐประหารปี 2014 ได้มีการไม่มี สภานิติบัญญัติได้รับการเลือกตั้งและไม่ได้รับการเลือกตั้งคณะกรรมการกฎหมาย ในเดือนสิงหาคม 2014 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเผด็จการทหารในอำนาจ สนชนี้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2014 ไม่มีรับไม่มีอำนาจในการตรวจสอบทหารและมีอำนาจในการกลั่นกรองงบประมาณทางทหารไม่มีแม้ว่ามันจะสามารถมองเห็นส่วนที่ไม่ลับของงบประมาณ. ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติยังคงอยู่ ภายใต้ขอบเขตของนายกรัฐมนตรีของไทยที่ยังคู่เป็นผู้นำรัฐบาลทหาร ตามที่ให้สัมภาษณ์ไม่ระบุชื่อในขณะนี้ไม่มีการกำกับดูแลที่เป็นอิสระจากหน่วยข่าวกรองของไทยด้านนอกของตัวเองทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตั้งแต่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2014 , มีคณะกรรมการสภานิติบัญญัติมีอำนาจที่จะคุมทัพ นี้เป็นเพราะกลุ่มรัฐประหารยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้มีคณะกรรมการรัฐสภา

ก่อนรัฐประหาร ประเทศไทยยังมีวุฒิสภาซึ่งควรจะตรวจสอบทหารก่อน 2013 ยุบสภาล่าง ประเทศไทยมีคณะกรรมการสภาซึ่งทำหน้าที่วัตถุประสงค์ของการกำกับดูแล ( ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 ) บ้านเบื้องล่าง กรรมการ มีสมาชิกเพียงสามกับพื้นหลังทหาร แม้ว่านี้อาจจะตีความในเชิงบวกในบ้านเบื้องล่าง กรรมการน้อยมาจากทหารบนมืออื่น ๆที่สมาชิกมีความเชี่ยวชาญพลเรือนน้อยมากในเรื่องที่เกี่ยวกับการทหาร การขาดผู้เชี่ยวชาญด้านความรู้ หมายถึง ทหารอาจบางครั้งหลบโอเวอร์ไซท์ ขณะที่ในสภาสูง คณะกรรมการดูแลทหารมีสมาชิก 7 คน ( จาก 12 ) มีพื้นหลังทหารมันจึงจะสังเกตได้ว่าอิทธิพลของทหารมีแนวโน้มที่จะสูงกว่านี้ คณะกรรมาธิการวุฒิสภา ด้วยนัยที่อาจจะมีวิกฤตน้อยกว่าการตรวจสอบของกองทัพในร่างกายมากกว่าในบ้านลดลง

แต่เนื่องจาก 2014 รัฐประหาร มีการเลือกตั้งรัฐสภาและการเลือกตั้งจึงไม่มีกฎหมายคณะกรรมการ ในเดือนสิงหาคม , 2014 ,เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช. ) ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลเผด็จการทหารครองอำนาจ สนช. นี้ภายใต้ 2014 ระหว่างรัฐธรรมนูญ ไม่มีรับไม่มีอำนาจในการตรวจสอบทหาร และไม่มีอำนาจที่จะพิจารณางบประมาณทางทหาร ถึงแม้ว่าจะเห็นไม่ลับบางส่วนของงบประมาณ

โดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยังคงอยู่ภายใต้ขอบเขตของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่ยังคู่เป็นผู้นำเผด็จการทหาร ตามข้อมูลที่ไม่ระบุชื่อขณะนี้ไม่มีอิสระกำกับดูแลของหน่วยสืบราชการลับของไทยนอกของทหารนั่นเอง