Although abortion was illegal, it w

Although abortion was illegal, it was nevertheless the most widespread form of birth control in use.[4] Used predominantly by working-class women, the procedure was used not only as means of terminating pregnancy, but also to prevent poverty and unemployment. If a woman died or became ill from an abortion, the abortionist could be imprisoned or even sentenced to death. Those who transported contraceptives could also be legally punished.[4] As the standard of living increased, so did the prevalence of contraception and abortion. People did not want to provide for larger families, but rather to have smaller families and more money. Contraceptives became more expensive over time and had a high failure rate.[4] Unlike contraceptives, abortion did not need any prior planning and was less expensive. Newspaper advertisements were used to promote and sell abortifacients indirectly.[5]

Not all of society was accepting of contraceptives or abortion, and the opposition viewed both as part of one and the same sin.[4] Abortion was much more common among the middle classes than among those living in rural areas, where the procedure was not readily available. Abortion was a risky endeavor that could lead to illness or death. Those who used lead pills often had ongoing sickness, headaches, and in some cases paralysis of the hands. Women were often tricked into purchasing ineffective pills.[4] In addition to fearing legal reprimands, many physicians did not condone abortion because they viewed it as an immoral procedure potentially endangering a woman's life.[5] Because abortion was illegal and physicians refused to perform the procedure, local women acted as abortionists, often using crochet hooks or similar instruments.[4]

Feminists of the era focused on educating and finding jobs for women, leaving aside the controversial issues of contraceptives and abortion, which in popular opinion were often related to promiscuity and prostitution. The Church condemned abortion as immoral and a form of rebellion against the child-bearing role women were expected to assume. Many considered abortion to be a selfish act that allowed a woman to avoid personal responsibility, contributing to a decline in moral values.[4] Abortion was often a solution for women who already had children and did not want more. Consequently, the size of families decreased drastically.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าการทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ได้แต่คุมใช้แบบแพร่หลายมากที่สุด[4] ใช้เป็นผู้หญิง working-class ขั้นตอนการใช้ไม่เพียงแต่เป็นวิธี ของการยุติการตั้งครรภ์ แต่ยังให้ความยากจนและการว่างงาน ถ้าผู้หญิงตาย หรือกลายเป็นป่วยจากการทำแท้ง abortionist ที่สามารถถูกจำคุกเป็นเวลา หรือแม้แต่คำพิพากษาให้ตาย ผู้ขนส่งคุมกำเนิดสามารถยังถูกกฎหมายลงโทษ[4] เป็นของมาตรฐานที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ความชุกของการคุมกำเนิดและทำแท้ง คนไม่ได้ต้องให้สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ แต่แทนที่จะ ไปมีครอบครัวขนาดเล็กและเงิน คุมกำเนิดกลายเป็นแพงกว่าช่วงเวลา และมีอัตราความล้มเหลวสูง[4] ซึ่งแตกต่างจากการคุมกำเนิด การทำแท้งไม่ต้องมีการวางแผนก่อน และไม่แพง โฆษณาในหนังสือพิมพ์ที่ใช้ การส่งเสริมขายทางอ้อม abortifacients[5]ไม่ใช่ทั้งหมดของสังคมไม่ยอมรับการคุมกำเนิดหรือการแท้ง และฝ่ายค้านดูทั้งเป็นส่วนหนึ่งของบาปเดียว[4] ทำแท้งมากขึ้นทั่วไปในหมู่ชนชั้นกลางมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบท ที่ขั้นตอนที่ไม่พร้อมได้ ทำแท้งแข่งขันมีความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยหรือตายได้ ผู้ที่ใช้ยาเป้าหมายมักจะมีโรคอย่างต่อเนื่อง ปวดหัว และอัมพาตบางกรณีของมือ ผู้หญิงมักจะหลอกถามซื้อยาไม่มีประสิทธิภาพ[4] ในนอกการโกง reprimands กฎหมาย แพทย์จำนวนมากได้ไม่ condone ทำแท้งเนื่องจากพวกเขาดูเป็นขั้นตอนการ immoral อำเภอใจอาจชีวิตของผู้หญิง[5] เนื่องจากการทำแท้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และแพทย์ปฏิเสธที่จะดำเนินขั้นตอน ผู้หญิงท้องถิ่นได้ปฏิบัติเป็น abortionists มักจะใช้ตะขอไหมพรมหรือเครื่องมือที่คล้ายกัน[4]Feminists ของยุคที่เน้นให้ และหางานสำหรับผู้หญิง ปล่อยไว้ประเด็นแย้งคุมกำเนิดและทำแท้ง ซึ่งในความเห็นยอดนิยมมักจะเกี่ยวข้องกับ promiscuity และค้าประเวณี คริสตจักรประณามการทำแท้งเป็น immoral และฟอร์มของกบฏต่อสตรีบทบาทเรืองรองไปสมมติว่า หลายถือว่าการทำแท้งเป็นการ กระทำที่เห็นแก่ตัวที่อนุญาตให้ผู้หญิงเพื่อหลีกเลี่ยงการรับผิดชอบส่วนบุคคล การสนับสนุนลดลงค่าแรง[4] ทำแท้งมักจะมีปัญหาสำหรับผู้หญิงที่มีลูกแล้ว และไม่ต้องเพิ่มเติม ดังนั้น ขนาดของครอบครัวลดลงอย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายมันก็ยังคงเป็นรูปแบบที่แพร่หลายมากที่สุดของการควบคุมการเกิดในการใช้งาน. [4] ส่วนใหญ่ใช้โดยผู้หญิงทำงานระดับขั้นตอนถูกนำมาใช้ไม่เพียง แต่เป็นวิธีการของการตั้งครรภ์ยกเลิก แต่ยังเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาความยากจนและการว่างงาน ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตหรือกลายเป็นไม่ดีจากการทำแท้งทำแท้งอาจถูกจำคุกหรือแม้กระทั่งการตัดสินประหารชีวิต ผู้ที่ส่งคุมกำเนิดอาจจะมีการลงโทษตามกฎหมาย. [4] ในขณะที่มาตรฐานการครองชีพที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ความชุกของการคุมกำเนิดและการทำแท้ง คนไม่ต้องการที่จะให้สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ แต่จะมีครอบครัวขนาดเล็กและเงินได้มากขึ้น คุมกำเนิดกลายเป็นราคาแพงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปและมีอัตราความล้มเหลวสูง. [4] ซึ่งแตกต่างจากยาคุมกำเนิดการทำแท้งไม่จำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและราคาไม่แพง โฆษณาหนังสือพิมพ์ถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมและขาย abortifacients ทางอ้อม. [5] ไม่ทุกคนในสังคมได้รับการยอมรับของยาคุมกำเนิดหรือการทำแท้งและฝ่ายค้านมองว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งและบาปเดียวกัน. [4] การทำแท้งได้มากขึ้นร่วมกันระหว่างกลาง เรียนกว่าในหมู่ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ขั้นตอนที่ไม่พร้อมใช้งาน การทำแท้งเป็นความพยายามที่มีความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต ผู้ที่ใช้ยาเม็ดตะกั่วมักจะมีโรคภัยไข้เจ็บอย่างต่อเนื่อง, ปวดหัว, และในบางกรณีอัมพาตของมือ ผู้หญิงมักจะถูกหลอกให้ซื้อยาไม่ได้ผล. [4] นอกจากกลัวตำหนิกฎหมายแพทย์หลายคนไม่ยอมทำแท้งเพราะพวกเขามองว่ามันเป็นขั้นตอนที่ผิดศีลธรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้หญิง. [5] เพราะทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายและแพทย์ปฏิเสธที่จะ ทำตามขั้นตอนที่ผู้หญิงในท้องถิ่นทำหน้าที่เป็นผู้ทําแท้งมักใช้ตะขอโครเชต์หรือตราสารที่คล้ายกัน. [4] สตรีในยุคที่มุ่งเน้นการให้ความรู้และการหางานสำหรับผู้หญิงออกจากกันประเด็นขัดแย้งคุมกำเนิดและการทำแท้งซึ่งในความเห็นที่เป็นที่นิยมมักจะถูก ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายและโสเภณี คริสตจักรประณามการทำแท้งผิดศีลธรรมและเป็นรูปแบบของการต่อต้านเด็กแบกผู้หญิงบทบาทที่คาดว่าจะสรุป ทำแท้งถือว่ามากจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวที่อนุญาตให้ผู้หญิงที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่เอื้อต่อการลดลงของค่านิยมทางศีลธรรม. [4] การทำแท้งมักจะเป็นทางออกให้กับผู้หญิงที่มีอยู่แล้วเด็ก ๆ และไม่ได้ต้องการมากขึ้น ดังนั้นขนาดของครอบครัวที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด