5. Rule of lawThe Universal Declara

5. Rule of law
The Universal Declaration of Human Rights, the historic international recognition that all human beings have fundamental rights and freedoms, recognizes that “… it is essential, if man is not to be compelled to have recourse, as a last resort, to rebellion against tyranny and oppression, that human rights should be protected by the rule of law…”.
Interpretations of the ‘rule of law’ vary significantly in academic literature but the United Nations consistently applies a definition that includes the formal procedural elements of equal treatment and the recognition of human rights as a necessary outcome:
For the United Nations, the rule of law refers to a principle of governance in which all persons, institutions and entities, public and private, including the State itself, are accountable to laws that are publicly promulgated, equally enforced and independently adjudicated, and which are consistent with international human rights norms and standards. It requires, as well, measures to ensure adherence to the principles of supremacy of law, equality before the law, accountability to the law, fairness in the application of the law, separation of powers, participation in decision-making, legal certainty, avoidance of arbitrariness and procedural and legal transparency.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. กฎของกฎหมาย
ปฏิญญาสากลของสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศรับรู้ประวัติศาสตร์ว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานตระหนักดีว่า "... มันเป็นสิ่งสำคัญถ้าคนที่ไม่ได้ที่จะถูกบังคับให้มีการขอความช่วยเหลือเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการและการกดขี่ที่สิทธิมนุษยชนควรได้รับการคุ้มครองตามกฎของกฎหมาย ... ".
การตีความของ 'กฎของกฎหมาย' แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในวรรณคดีทางวิชาการ แต่สหประชาชาติอย่างต่อเนื่องใช้คำนิยามที่มีองค์ประกอบในการดำเนินการอย่างเป็นทางการของที่เท่าเทียมกัน การรักษาและการรับรู้สิทธิมนุษยชนเป็นผลที่จำเป็น:
สำหรับสหประชาชาติกฎของกฎหมายหมายถึงหลักการของการกำกับดูแลในการที่ทุกคน, สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมทั้งรัฐเองมีความรับผิดชอบต่อกฎหมายที่ มีการประกาศต่อสาธารณชนบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันและตัดสินอย่างอิสระและมีความสอดคล้องกับบรรทัดฐานสิทธิมนุษยชนสากลและมาตรฐาน มันต้องเป็นอย่างดีมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าการยึดมั่นในหลักการของอำนาจสูงสุดของกฎหมายเท่าเทียมกันก่อนที่กฎหมายความรับผิดชอบกฎหมายความเป็นธรรมในการประยุกต์ใช้กฎหมายแยกอำนาจการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแน่นอนทางกฎหมายหลีกเลี่ยง ของความเด็ดขาดและความโปร่งใสในการดำเนินการตามกฎหมายและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . กฎของกฎหมาย
ปฏิญญาสากลสิทธิมนุษยชน ประวัติศาสตร์สากลยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ ความว่า " . . . . . . . มันเป็นสิ่งจำเป็น ถ้ามนุษย์ไม่อาจบังคับให้หันเข้าหาเป็นรีสอร์ทสุดท้าย เพื่อต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการและการกดขี่ที่สิทธิมนุษยชนควรได้รับความคุ้มครองโดย กฎของกฎหมาย
. . . . . . . "การตีความของกฎของกฎหมายแตกต่างกันอย่างมากในวรรณกรรมวิชาการ แต่สหประชาชาติอย่างต่อเนื่องกับความหมายที่เป็นทางการขั้นตอนรวมถึงองค์ประกอบของเท่าเทียมกันและการรับรู้ของสิทธิมนุษยชนเป็นผลที่จำเป็น :
สำหรับสหประชาชาติ หลักนิติธรรม หมายถึง หลักธรรมาภิบาล ซึ่งทุกคน สถาบัน องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงสภาพตัวเองจะรับผิดชอบต่อกฎหมายที่เป็นสาธารณะประกาศใช้บังคับเป็นอิสระ ต้องเท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และมาตรฐาน มันต้องใช้ เช่น มาตรการเพื่อให้แน่ใจว่า ยึดมั่นในหลักการของประมุขสูงสุดของกฎหมาย ความเสมอภาคตามกฎหมาย ความรับผิดชอบต่อกฎหมายความยุติธรรมในการใช้กฎหมาย แยกอำนาจ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางกฎหมาย , ความแน่นอน , หลีกเลี่ยงตามอำเภอใจและกระบวนการและความโปร่งใสด้านกฎหมาย