One can do an economic history of s

One can do an economic history of say, the weaving industry, or tobacco production in Spanish times. A history of social movements would include group like pulahanes or colorums and other messianic or millenarian groups. Cultural historical would document the changes in the practices and traditions of a community, and ethnic history could deal with cultural communities such as the tingguians or Apayaos. There is women’s history, now increasingly popular, which focuses on women and their role in the society. Local primary sources are available for all those I have mentioned above. It is up to the researcher to use his creativity and insight in unearthing and retrieving data from local sources.

Some practical guidelines on data-gathering
Most of us are familiar with the process of research, which is basically data-gathering, so I will be brief on these guidelines.
1. Use notecards or notepaper because pieces of paper of a uniform size are easier to carry, to store and organize.
2. Take notes carefully, especially of direct quotes, to ensure accuracy.
3. Do not mix two or more topics or sources in one notecard. It you come across a new topic, start with a new notecard to avoid confusion later.
4. Do not alter data that you encounter just because it goes against what you believe is the correct information or your projected conclusion.
5. Always indicate the source of information, such as the title and data of a document, or the bibliographical data for printed materials such as books, pamphlets or magazines.
6. Organize your materials into primary and secondary sources or according to major topic, or chronologically.
7. Take proper care of primary materials such as old photographs, manuscripts or maps. Such materials are Extremely rare or are one-of-a-king and need special handling
There may be other practical steps which you have found useful, and which work best for you.

Making an outline
Before you begin to write, it would be helpful to prepare an outline as your guide in organizing your date and your narrative:
Introduction-this is a short essay on what topic is about, its scope and time frame, and possibly, what made you choose the topic for your research.
Chronology-this is optional but useful especially for complex narratives, and would help you identify possible conflicting dates of the events that occurred.
Text-the main part of your written account, which contains the bulk of your data, and must be organized and coherent. An outline for this section is also necessary.
Analysis-an explanation of the data you have provided, and cloud include the analytical framework or theory that you employed.
Conclusions and recommendation-based on the text and analysis, a summation of your findings.
Appendix and glossary-usually these are materials which could not be incorporated into the text but would add to the clarity and depth of your research.
Endnotes/footnotes-usually demanded in academic research, but may not always be applicable.
Bibliography-a listing of books and sources used, classified according to whether primary or secondary, published or unpublished, oral or written.
The outline above would usually undergo revision as you work on, but this is be expected, and improvement usually comes with revision.

Writing a historical account: perspectives and concepts
For many filipinos, one must decide first what language to use before writing down a single word, because most of us are bilingual or even trilingual, and have a language of preference when writing. I am not dogmatic about use of a foreign language, unlike some who regard themselves as nationalist historians and would condemn any historical work not written the vernacular (the language of the region), filipino, or English. If you, write in Ilocano, but if you want to reach a wider audience, use Filipino or English. A Filipino’s sense of nationalism is not determined by one’s linguistic preference alone.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งทำเป็นประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของการพูด การทอผ้าอุตสาหกรรม หรือการผลิตยาสูบในสเปน ประวัติของการเคลื่อนไหวทางสังคมจะรวมกลุ่มเช่น pulahanes หรือ colorums และกลุ่มอื่น ๆ messianic หรือกบฏ วัฒนธรรมประวัติศาสตร์จะเอกสารการเปลี่ยนแปลงในทางที่พึงปฏิบัติและประเพณีของชุมชน และประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์สามารถจัดการกับวัฒนธรรมชุมชนเช่น tingguians หรือ Apayaos ขณะนี้มีสตรีประวัติ ยอดนิยม ที่เน้นผู้หญิงและบทบาทของตนในสังคม หลักแหล่งท้องถิ่นมีทั้งหมดที่ผมได้กล่าวข้างต้น เป็นถึงนักวิจัยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจของเขาใน unearthing และเรียกใช้ข้อมูลจากแหล่งภายในแนวทางปฏิบัติในการรวบรวมข้อมูลส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับกระบวนการของการวิจัย ซึ่งโดยทั่วไปรวบรวมข้อมูล ดังนั้นฉันจะสั้น ๆ ในแนวทางเหล่านี้1. ใช้ notecards หรือ notepaper เนื่องจากชิ้นส่วนของกระดาษขนาดสม่ำเสมอมี การดำเนินการ การจัดเก็บ และการ2. จดบันทึกอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะของใบเสนอราคาโดยตรง การตรวจสอบความถูกต้อง3. ผสมสองหัวข้อหรือแหล่งใน notecard หนึ่ง มันเจอหัวข้อใหม่ เริ่มต้น ด้วย notecard ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในภายหลัง4. ปรับเปลี่ยนข้อมูลที่คุณพบเพียง เพราะมันไปกับสิ่งที่คุณเชื่อว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือบทสรุปของคุณคาดการณ์ 5. มักจะบ่งชี้แหล่งที่มาของข้อมูล เช่นชื่อเรื่อง และข้อมูลของเอกสาร หรือสื่อพิมพ์เช่นหนังสือ เอกสารแผ่นพับขอ หรือนิตยสารข้อมูล bibliographical6. จัดระเบียบสื่อของคุณเป็นแหล่งหลัก และรอง หรือตามหัวข้อสำคัญ การลำดับ7. ใช้เวลาเหมาะสมดูแลวัสดุหลักเช่นรูปถ่ายเก่า เป็น หรือแผนผัง วัสดุดังกล่าวมีน้อยมาก หรือมีหนึ่งของ-a-พระ และต้องการจัดการพิเศษอาจมีขั้นตอนการปฏิบัติอื่น ๆ ที่คุณพบประโยชน์ และที่ทำงานดีที่สุดสำหรับคุณทำให้เค้าก่อนที่จะเขียน มันจะเป็นต้นเป็นการแนะนำในการจัดวันและเล่าเรื่องของคุณ: แนะนำนี้เป็นเรียงความสั้น ๆ ในหัวข้อใดถูกเกี่ยวกับ ขอบเขตและกรอบเวลาของ และอาจ สิ่งที่ทำให้คุณเลือกหัวข้อวิจัยของคุณ ลำดับนี้จะมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับซับซ้อน narratives แต่ไม่จำเป็น และจะช่วยให้คุณระบุวันวันที่ขัดแย้งกันของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลักข้อเป็นส่วนหนึ่งของการเขียน ที่ประกอบด้วยจำนวนมากของข้อมูลของคุณ และต้องจัด และ coherent เค้าตัวนี้ก็จำเป็น วิเคราะห์ที่อธิบายข้อมูลที่คุณให้ และเมฆรวมกรอบวิเคราะห์หรือทฤษฎีที่คุณว่าจ้าง บทสรุป และคำแนะนำตามข้อความและการวิเคราะห์ การรวมของคุณพบ ภาคผนวกและอภิธานศัพท์ปกติเหล่านี้เป็นวัสดุที่ไม่สามารถรวมอยู่ในข้อความ แต่จะเพิ่มความคมชัดและความลึกของงานวิจัย อ้างอิงท้ายเรื่อง/เชิงอรรถมักจะต้องการในงานวิชาการ แต่อาจไม่สามารถใช้ได้ บรรณานุกรมเป็นรายการหนังสือและแหล่งที่ใช้ การจำแนกประเภทตามหลัก หรือรอง เผยแพร่ หรือประกาศ ปากเปล่า หรือเขียนเค้าร่างด้านบนมักจะรับแก้ไขที่คุณทำงานบน แต่นี้เป็นที่คาดหวัง และปรับปรุงมักจะมาพร้อมกับปรับปรุงเขียนบัญชีประวัติศาสตร์: มุมมองและแนวคิดสำหรับ filipinos มาก หนึ่งต้องตัดสินใจก่อนภาษาต้องใช้ก่อนที่จะเขียนลงคำเดียว เนื่องจากส่วนใหญ่ของเราเป็นสองภาษา หรือแม้กระทั่ง trilingual และมีภาษาตามลักษณะการเขียน ฉันไม่นา ๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาต่างประเทศ แตกต่างจากที่พิจารณาตัวเองว่านักประวัติศาสตร์แนวชาตินิยม และจะพิพากษาผลงานใด ๆ ไม่เขียน vernacular (ภาษาภูมิภาค), ฟิลิปปินส์ หรือภาษาอังกฤษ ถ้าคุณ เขียน Ilocano แต่ ถ้าคุณต้องการเข้าถึงผู้ชมกว้าง ใช้ฟิลิปปินส์หรือภาษาอังกฤษ ไม่มีกำหนดความรู้สึกชาตินิยมของชาวฟิลิปปินส์ โดยหนึ่งของภาษาศาสตร์ชอบอยู่คนเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งสามารถทำประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของการพูด, อุตสาหกรรมการทอผ้าหรือการผลิตยาสูบในครั้งสเปน ประวัติของการเคลื่อนไหวทางสังคมจะรวมกลุ่มเช่น pulahanes หรือ colorums และกลุ่มศาสนหรือ millenarian อื่น ๆ ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจะจัดทำเอกสารการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติและประเพณีของชุมชนและประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์สามารถจัดการกับวัฒนธรรมชุมชนเช่น tingguians หรือ Apayaos มีประวัติความเป็นมาของผู้หญิงตอนนี้ที่นิยมมากขึ้นซึ่งมุ่งเน้นไปที่ผู้หญิงและบทบาทของตนในสังคม แหล่งที่มาหลักในท้องถิ่นที่มีอยู่สำหรับทุกคนที่ผมได้กล่าวถึงข้างต้น มันขึ้นอยู่กับนักวิจัยในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจของเขาในวัตถุโบราณและเรียกข้อมูลจากแหล่งท้องถิ่น. บางแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับกระบวนการของการวิจัยที่เป็นพื้นรวบรวมข้อมูลดังนั้นฉันจะสรุปเกี่ยวกับแนวทางเหล่านี้. 1 ใช้ notecards หรือกระดาษเพราะชิ้นส่วนของกระดาษที่มีขนาดสม่ำเสมอจะง่ายต่อการดำเนินการในการจัดเก็บและจัดระเบียบ. 2 จดบันทึกอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดตรงอย่างถูกต้อง. 3 ไม่ผสมสองหรือมากกว่าหัวข้อหรือแหล่งใน notecard มันคุณเจอหัวข้อใหม่เริ่มต้นด้วย notecard ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในภายหลัง. 4 อย่าแก้ไขข้อมูลที่คุณพบเพียงเพราะมันจะไปกับสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือข้อสรุปที่คาดการณ์ของคุณ. 5 มักจะระบุแหล่งที่มาของข้อมูลเช่นชื่อและข้อมูลของเอกสารหรือข้อมูลบรรณานุกรมสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์เช่นหนังสือหรือนิตยสารเพม. 6 จัดระเบียบวัสดุของคุณให้เป็นแหล่งที่มาหลักและรองหรือตามหัวข้อใหญ่หรือตามลำดับ. 7 ดูแลที่เหมาะสมของวัสดุหลักเช่นภาพถ่ายเก่าต้นฉบับหรือแผนที่ วัสดุดังกล่าวเป็นของหายากมากหรือเป็นส่วนหนึ่งของ -a กษัตริย์และความจำเป็นในการจัดการพิเศษอาจจะมีขั้นตอนการปฏิบัติอื่น ๆ ที่คุณได้พบว่ามีประโยชน์และที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับคุณ. ทำร่างก่อนที่คุณจะเริ่มต้นในการเขียนก็จะเป็นประโยชน์เพื่อเตรียมความพร้อมเค้าร่างเป็นแนวทางของคุณในการจัดวันและการเล่าเรื่องของคุณ: ความรู้เบื้องต้นนี้เป็นบทความสั้น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่หัวข้อที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับขอบเขตและกรอบเวลาและอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเลือกหัวข้อสำหรับการวิจัยของคุณ. เหตุการณ์นี้ เป็นตัวเลือก แต่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเรื่องเล่าที่ซับซ้อนและจะช่วยให้คุณระบุวันที่ขัดแย้งกันเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. ข้อความส่วนหลักของบัญชีที่เขียนของคุณที่มีจำนวนมากของข้อมูลของคุณและต้องได้รับการจัดระเบียบและเชื่อมโยงกัน เค้าร่างสำหรับส่วนนี้ยังเป็นความจำเป็น. วิเคราะห์-คำอธิบายของข้อมูลที่คุณได้ให้เมฆรวมถึงกรอบการวิเคราะห์หรือทฤษฎีที่ว่าคุณมีงานทำ. สรุปและข้อเสนอแนะตามที่ข้อความและการวิเคราะห์ผลรวมของผลการวิจัยของคุณ. ภาคผนวก และคำศัพท์-เหล่านี้มักจะเป็นวัสดุที่ไม่สามารถรวมเข้าไว้ในข้อความ แต่จะเพิ่มความคมชัดและความลึกของงานวิจัยของคุณ. เชิงอรรถ / เชิงอรรถมักจะเรียกร้องในการวิจัยทางวิชาการ แต่อาจไม่สามารถใช้งานได้. บรรณานุกรม-รายชื่อของหนังสือ และแหล่งที่ใช้จำแนกตามไม่ว่าจะเป็นหลักหรือรองรับการตีพิมพ์หรือไม่ได้เผยแพร่วาจาหรือลายลักษณ์อักษร. ร่างดังกล่าวข้างต้นมักจะได้รับการแก้ไขขณะที่คุณทำงานใน แต่นี้จะเป็นที่คาดหวังและการปรับปรุงมักจะมาพร้อมกับการแก้ไข. เขียนประวัติศาสตร์: มุมมองและแนวคิดสำหรับชาวฟิลิปปินส์หลายคนหนึ่งจะต้องตัดสินใจครั้งแรกสิ่งที่ภาษาที่จะใช้ก่อนที่จะเขียนลงคำเดียวเพราะส่วนใหญ่ของเรามีสองภาษาหรือแม้แต่สามภาษาและมีภาษาของการตั้งค่าเมื่อเขียน ผมไม่ได้ดันทุรังเกี่ยวกับการใช้ภาษาต่างประเทศไม่เหมือนบางคนที่คิดว่าตัวเองเป็นนักประวัติศาสตร์ชาตินิยมและจะประณามการทำงานทางประวัติศาสตร์ใด ๆ ไม่ได้เขียนภาษา (ภาษาของภูมิภาค) ฟิลิปปินส์หรือภาษาอังกฤษ ถ้าคุณเขียนใน Ilocano แต่ถ้าคุณต้องการที่จะเข้าถึงผู้ชมกว้างใช้ชาวฟิลิปปินส์หรือภาษาอังกฤษ ความรู้สึกของชาวฟิลิปปินส์ของลัทธิชาตินิยมไม่ได้กำหนดโดยการตั้งค่าภาษาของคนคนเดียว