Of course, it is one thing to argue

Of course, it is one thing to argue that conflict can be valuable for the group, and another to be able to tell if a conflict is functional or dysfunctional.6 The demarcation between functional and dysfunctional is neither clear nor precise. No one level of conflict can be adopted as acceptable or unacceptable under all conditions. The type and level of conflict that creates healthy and positive involvement toward one group's goals today may, in another group or in the same group at another time, be regarded as highly dysfunctional. The criterion that differentiates functional from dysfunctional conflict is group performance. Since groups exist to attain a goal or goals, it is the impact that the conflict has on the group, rather than on any individual member, that determines functionality. Of course, the impact of conflict on the individual and its impact on the group are rarely mutually exclusive, so the ways that individuals perceive a conflict may have an important influence on its effect on the group. However, this need not be the case, and when it is not, our focus will be on the group. So whether an individual group member perceives a given conflict as being personally disturbing or positive is irrelevant. For example, a group member may perceive an action as dysfunctional, in that the outcome is personally dissatisfying to him or her. However, for our analysis, that action would be functional if it furthers the objectives of the group. So while many people at Sunbeam-Oster thought the conflicts created by Paul Kazarian were dysfunctional, Kazarian was convinced they were functional because they improved Sunbeam's performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แน่นอน เป็นสิ่งหนึ่งที่เถียงว่า ความขัดแย้งได้อย่างมีคุณค่าสำหรับกลุ่ม และอื่น ๆ ให้สามารถบอกได้ถ้า ความขัดแย้งเป็นหน้าที่ หรือ dysfunctional.6 แบ่งระหว่างหน้าที่ และนบาไม่ชัดเจนและ ไม่แม่นยำ ไม่ระดับหนึ่งของความขัดแย้งสามารถจะนำมาใช้เป็นที่ยอมรับได้ หรือไม่สามารถยอมรับภายใต้เงื่อนไขทั้งหมด ชนิดและระดับของความขัดแย้งที่สร้างสุขภาพใน ทางบวกมีส่วนร่วมไป สู่เป้าหมายของกลุ่มที่หนึ่งวันนี้อาจ ในกลุ่มอื่น หรือ ในกลุ่มเดียวกันเวลาอื่น ถือเป็นคำนบา เงื่อนไขที่แตกต่างทำงานจากความขัดแย้งนบามีประสิทธิภาพการทำงานของกลุ่ม เนื่องจากมีกลุ่มบรรลุเป้าหมายหรือเป้าหมาย เป็นผลกระทบที่มีความขัดแย้งในกลุ่ม แทนในแต่ละสมาชิก ที่กำหนดฟังก์ชันการ แน่นอน ผลกระทบของความขัดแย้งในแต่ละบุคคลและผลกระทบในกลุ่มได้ไม่ค่อยนั่น ดังนั้นวิธีการที่บุคคลสังเกตความขัดแย้งอาจมีผลสำคัญต่อการมีผลต่อกลุ่ม อย่างไรก็ตาม นี้ไม่จำเป็นต้องใช่ และถูก โฟกัสของเราจะอยู่ในกลุ่ม เพื่อ ว่าสมาชิกกลุ่มแต่ละกลุ่มการละเว้นความขัดแย้งให้เป็น การส่วนตัวรบกวนบวกโดย ตัวอย่าง สมาชิกกลุ่มอาจสังเกตการกระทำเป็นนบา ผลที่ได้คือ dissatisfying ตัวเขาหรือเธอที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับการวิเคราะห์ การดำเนินการที่จะทำงานถ้ามัน furthers วัตถุประสงค์ของกลุ่ม ดังนั้นในขณะที่ซันบีม Oster หลายคนคิดว่า ความขัดแย้งสร้าง โดย Paul Kazarian ก็นบา Kazarian เชื่อ พวกเขาได้ทำงานเนื่องจากพวกเขาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของซันบีม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะโต้แย้งความขัดแย้งที่สามารถมีค่าสำหรับกลุ่ม, และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถที่จะบอกได้ว่าเป็นความขัดแย้งการทำงานหรือ dysfunctional.6 แบ่งเขตระหว่างการทำงานที่ผิดปกติและไม่เป็นที่ชัดเจนไม่ได้อย่างแม่นยำ ไม่มีระดับหนึ่งของความขัดแย้งที่สามารถนำมาใช้เป็นที่ยอมรับหรือไม่เป็นที่ยอมรับในทุกสภาวะ ประเภทและระดับของความขัดแย้งที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและมีสุขภาพที่ดีต่อหนึ่งเป้าหมายของกลุ่มในวันนี้อาจอยู่ในกลุ่มอื่นหรือในกลุ่มเดียวกันในเวลาอื่นจะถือว่าเป็นที่ผิดปกติอย่างมาก เกณฑ์การทำงานที่แตกต่างจากความขัดแย้งที่ผิดปกติคือประสิทธิภาพของกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่มีอยู่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือเป้าหมายก็คือผลกระทบที่จะเกิดความขัดแย้งที่มีต่อกลุ่มมากกว่าในสมาชิกของแต่ละบุคคลใด ๆ ที่กำหนดฟังก์ชั่น แน่นอนว่าผลกระทบของความขัดแย้งกับแต่ละบุคคลและผลกระทบต่อกลุ่มจะไม่ค่อยพิเศษร่วมกันดังนั้นวิธีการที่บุคคลรับรู้ความขัดแย้งอาจจะมีอิทธิพลสำคัญในผลกระทบต่อกลุ่ม แต่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นกรณีและเมื่อมันไม่ได้โฟกัสของเราจะอยู่ในกลุ่ม ดังนั้นไม่ว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มบุคคลที่เห็นจึงมีความขัดแย้งได้รับในฐานะที่เป็นบุคคลที่รบกวนหรือบวกไม่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่นสมาชิกกลุ่มอาจรับรู้การกระทำที่เป็นความผิดปกติในการที่ผลเป็นส่วนตัวไม่พอใจกับเขาหรือเธอ อย่างไรก็ตามสำหรับการวิเคราะห์ของเรา, การกระทำที่จะสามารถทำงานได้ถ้ามันจะผลักดันวัตถุประสงค์ของกลุ่ม ดังนั้นในขณะที่หลาย ๆ คนที่ Sunbeam-Oster คิดว่าความขัดแย้งที่สร้างขึ้นโดยพอล Kazarian ได้ผิดปกติ Kazarian เชื่อว่าพวกเขาทำงานเพราะพวกเขาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของซันบีม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แน่นอน มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่า ความขัดแย้งสามารถที่มีคุณค่าสำหรับกลุ่มและคนอื่นที่จะสามารถบอกได้ว่า ความขัดแย้ง คือ การทำงาน หรือแตกแยก ระหว่างการทำงาน และ 6 เขตผิดปกติจะไม่ชัดเจนหรือแม่นยำ ไม่มีระดับของความขัดแย้งสามารถประกาศใช้ยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้ภายใต้เงื่อนไขทั้งหมดประเภทและระดับของความขัดแย้งที่สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสุขภาพและบวกต่อหนึ่งกลุ่ม เป้าหมายในวันนี้อาจ ในกลุ่มอื่น หรืออยู่ในกลุ่มเดียวกันในเวลาอื่น ถือว่าสูงผิดปกติ เกณฑ์ที่ทำให้การทำงานจากความขัดแย้งแตกแยกคืองานกลุ่ม เนื่องจากกลุ่มที่มีอยู่เพื่อบรรลุ เป้าหมายหรือเป้าหมาย คือ ผลกระทบที่ความขัดแย้งในกลุ่มมากกว่าในบุคคลใด ๆ สมาชิก กําหนดการทํางาน แน่นอนว่า ผลกระทบของความขัดแย้งในตัวบุคคล และผลกระทบในกลุ่มไม่ค่อยพิเศษร่วมกัน ดังนั้น วิธีการที่บุคคลรับรู้ความขัดแย้งอาจจะมีอิทธิพลสำคัญต่อผลในกลุ่ม แต่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นกรณี และเมื่อมันไม่โฟกัสของเราจะอยู่ในกลุ่มเพื่อให้สมาชิกแต่ละกลุ่มจะคิดให้ความขัดแย้งเป็น ตัวก่อกวน หรือ บวก ไม่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น สมาชิกในกลุ่มจะรับรู้การกระทำอย่างผิดปกติในผล dissatisfying ด้วยตัวเองเพื่อให้เขาหรือเธอ อย่างไรก็ตาม ในการวิเคราะห์ของเรา ว่า การจะทำงานถ้ามัน / วัตถุประสงค์ของกลุ่มดังนั้น ในขณะที่หลายคนที่ Sunbeam Oster คิดว่าความขัดแย้งที่สร้างโดย พอล แค าเรียนถูกผิดปกติแค าเรียนเชื่อว่าพวกเขาทำงานเพราะพวกเขาปรับปรุงประสิทธิภาพยอด .