This article presented a model that

This article presented a model that allows companies to manage their vehicles and loads using a merging of the information technologies and geofencing algorithms.


The SafeTrack allows those companies to monitor at real-time the moment when a detour occurs.


The integration between off-the-shelf mobile devices and the SafeDuino makes possible to identify, also at real-time, deliveries and pickups of loads made by mistake, or potential cargo theft. Moreover, using the SafeTrack, it is possible to manage travels and load’s deliveries in an automatic way.


This is important to shorten the user’s interaction, optimizing time and reducing problems caused by human fails.


The main scientific contribution of this work is the automatic delivery management of loads, without user’s interaction.


In that way, SafeTrack can optimize deliveries and also avoid human mistakes.


Comparing to the related works considered, only eTracer (Papatheocharous & Gouvas, 2011) tried to handle an automatic delivery management.


However, eTracer only detected when the load reaches the destination. Differently from that, our model can further identify if the product was in fact delivered, avoiding potential deliveries inconsistencies.


Another contribution of SafeTrack is the real-time monitoring of the delivery process, triggering alerts to highlight several inconsistencies, including unauthorized shutdown of mobile devices or even potential cargo thefts.


These contributions are a consequence of merging information technologies and geofencing algorithms, and they were not found in the related works.


The SafeTrack’s automatic provisioning of alerts speeds up decision- making, possibly reducing losses and costs for the logistics flow.


This feature was also provided by related work of Zhengxia and Laisheng (2010).


Complementary to their approach, in which alerts are sent through SMS messages, SafeTrack also uses audibly alerts.


That feature helps the driver in rapidly detecting the arrival of alerts.


Another SafeTrack’s differential is the provision of a complete and functional system.


We developed this prototype in partnership with Sawluz company and Taggen RFID solutions company.


The prototype was evaluated in a controlled environment, testing several conditions. We created the test scenario with several situations that may not occur in a typical single travel.


Even so, in the 20 times that we executed the scenario, all SafeTrack’s modules
worked as planned.


The evaluation result confirmed that the system is reliable, since all planned events occurred during the execution.


Therefore, we concluded that SafeTrack was able to efficiently manage deliveries and vehicle fleets in the proposed scenario.


The evaluation showed that SafeTrack can improve logistics operation, optimizing decision-making, avoiding losses during the logistics flow, and also allowing companies to remain competitive in market.



The main limitation of SafeTrack regards information flow.


The alerts triggered do not reach the entire supply chain. This is because we restricted our efforts in a specific problem for a logistics stage, having a partial supply chain product visibility.


However, we found the study of Geerts and O’Leary (2014) that proposed a solution regarding this matter.


There are points to be studied and improved in future work.


The SafeTrack and most of related studies in the literature only perform monitoring during the stage of distribution of loads.


So it is not possible to track a particular product or component in earlier stages of logistics chain, such as supplying and production.


In fact there are studies, such as EAGLET (Geerts & O’Leary, 2014) that approach this matter, to track and trace the entire life-cycle of a product, beginning in supplying, through production and distribution, until the final consumer.


However, none of these studies use an ontology that can represent the entire domain of productions chain.



Another area for improvement is regarding security.


We did not address the question of vulnerability and security of mobile devices in SafeTrack.


We also have to consider the possible vulnerabilities of the RFID technology to minimize potential attacks, such as in authentication phase or in its contents.


The use of cryptographic algorithms in RFID can also be further studied. As one of the motivation of SafeTrack is to reduce logistics costs, the cloud computing rises as an interesting research field, and can be explored as future work. According to Subramanian Abdulrahman, and Zhou (2014), cloud computing adoption, brings enhancements in integration, green collaboration, and sustainability of supply chain management. Finally, another future work is related to delivery optimization.


There are algorithms that aim to calculate the best route to be followed by a vehicle, considering information such as weight and volume supported by the vehicle, pickup and delivery spot of the set, time-window, and weight and volume of the set.


However, these algorithms do not consider the shadow zones, which must be avoided, or context information.


In the future, we intend to deal with this type of algorithm in an updated version of SafeTrack model.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความนี้นำเสนอรูปแบบที่ช่วยให้บริษัทสามารถจัดการยานพาหนะ และโหลดโดยใช้การผสานเทคโนโลยีข้อมูลและอัลกอริทึม geofencing SafeTrack ช่วยให้บริษัทเหล่านั้นเพื่อตรวจสอบในเวลาจริงในขณะที่เมื่อเกิดการเดิน รวมระหว่างอุปกรณ์โมบาย off-the-shelf และ SafeDuino ช่วยให้สามารถระบุ นอกจากนี้ในแบบเรียลไทม์ จัดส่งสินค้าและรถปิคอัพของโหลดที่ทำโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือขโมยสินค้าไป นอกจากนี้ ใช้ SafeTrack การ เป็นการจัดการเดินทาง และโหลดของจัดส่งในวิธีการอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญจู๋ผู้โต้ตอบ การปรับเวลาให้เหมาะสม และลดปัญหาที่เกิดจากมนุษย์ล้มเหลว ส่วนวิทยาศาสตร์หลักของงานนี้คือ การจัดการจัดส่งโดยอัตโนมัติของโหลด ไม่มีการโต้ตอบผู้ใช้ วิธี SafeTrack สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง และยัง หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของมนุษย์เทียบกับงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา เฉพาะ eTracer (Papatheocharous & Gouvas, 2011) พยายามจะจัดการบริหารการจัดส่งโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม eTracer เท่านั้นตรวจพบเมื่อโหลดปลายทาง แตกต่างจาก รุ่นของเราสามารถเพิ่มเติมระบุถ้าผลิตภัณฑ์ถูกจริงจัดส่ง หลีกเลี่ยงอาจส่งไม่สอดคล้องกัน ส่วนอื่นของ SafeTrack เป็นการตรวจสอบเวลาจริงของกระบวนการจัดส่ง การทริกเกอร์ข้อความแจ้งเตือนเพื่อเน้นความขัดแย้งหลาย รวมทั้งไม่ปิดโทรศัพท์มือถือหรือแม้ศักยภาพสินค้า thefts ผลงานเหล่านี้เป็นผลมาจากการผสานเทคโนโลยีข้อมูลและอัลกอริทึม geofencing และพวกเขาได้พบในงานที่เกี่ยวข้อง ของ SafeTrack โดยอัตโนมัติการเตรียมใช้งานข้อความแจ้งเตือนเร็วตัดสิน อาจจะลดความสูญเสียและต้นทุนสำหรับขั้นตอนการโลจิสติกส์คุณลักษณะนี้ถูกบรรเลง โดยงานที่เกี่ยวข้องของ Zhengxia และ Laisheng (2010) ประกอบกับแนวทางของพวกเขา ที่จะส่งการแจ้งเตือนผ่านข้อความ SMS, SafeTrack ใช้ทวนข้อความแจ้งเตือน คุณลักษณะที่ช่วยในการตรวจสอบที่มาของการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว SafeTrack อื่นแตกต่างกันเป็นเงินสำรองของระบบที่สมบูรณ์ และการทำงาน เราพัฒนาต้นแบบนี้ร่วมกับบริษัท Sawluz และบริษัทโซลูชั่น Taggen RFID ต้นแบบถูกประเมินในระบบควบคุม ทดสอบเงื่อนไขหลายประการ เราสร้างสถานการณ์ทดสอบกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการเดินทางเดียวทั่วไป ดังนั้นแม้ ใน 20 ครั้งเราดำเนินสถานการณ์ โมดูล SafeTrack ทั้งหมดทำงานเป็นไปตามแผน การประเมินผลยืนยันว่า ระบบน่าเชื่อถือ เนื่องจากเหตุการณ์การวางแผนทั้งหมดเกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการ ดังนั้น เราได้ที่ SafeTrack ได้อย่างมีประสิทธิภาพจัดการส่ง และยานพาหนะ fleets ในสถานการณ์นำเสนอ การประเมินผลพบว่า SafeTrack สามารถปรับปรุงการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ หลีกเลี่ยงการสูญเสียในระหว่างขั้นตอนการขนส่ง และยัง ช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดข้อจำกัดหลักของ SafeTrack พิจารณาสารสนเทศ การแจ้งเตือนที่ทริกเกอร์ถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากเราจำกัดความพยายามของเราในปัญหาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับขั้นโลจิสติกส์ มองเห็นผลิตภัณฑ์โซ่อุปทานบางส่วนที่มี อย่างไรก็ตาม เราพบการศึกษาของ Geerts และซี (2014) ที่นำเสนอโซลูชั่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีสถานศึกษา และปรับปรุงในอนาคตต่อไป SafeTrack การและส่วนใหญ่ของการศึกษาที่เกี่ยวข้องในวรรณคดีเท่านั้นดำเนินการตรวจสอบในระหว่างระยะของการกระจายโหลดของ ดังนั้นจึงไม่สามารถติดตามผลิตภัณฑ์เฉพาะหรือส่วนประกอบในขั้นตอนก่อนหน้าของห่วงโซ่โลจิสติกส์ การจัดหาและผลิต ในความเป็นจริงมีการศึกษา เช่น EAGLET (Geerts & ซี 2014) ที่เข้าเรื่อง การติดตาม และสืบค้นทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เริ่มต้นในการจัดหา ผลิตและจำหน่าย จนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการศึกษาเหล่านี้ใช้ภววิทยาที่สามารถโดเมนทั้งหมดของห่วงโซ่การผลิตปรับปรุงพื้นที่อื่นเกี่ยวข้องความปลอดภัย เราไม่ได้คำถามของความเสี่ยงและความปลอดภัยของอุปกรณ์โมบายใน SafeTrack นอกจากนี้เรายังมีการพิจารณาจุดอ่อนสุดของเทคโนโลยี RFID เพื่อลดการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น เช่น ในขั้นตอนการรับรองความถูกต้อง หรือ ในเนื้อหา การใช้อัลกอริทึมเข้ารหัสลับใน RFID สามารถยังสามารถเพิ่มเติมศึกษา เป็นแรงจูงใจของ SafeTrack อย่างใดอย่างหนึ่งคือการ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ เมฆคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นเขตการวิจัยที่น่าสนใจ และสามารถสำรวจเป็นงานในอนาคต ตาม Subramanian อับดุลเราะห์มาน โจว (2014), ยอมรับ การใช้งานคลาวด์นำการปรับปรุงรวม ร่วมสีเขียว และความยั่งยืนของการจัดการโซ่อุปทาน สุดท้าย อย่างอื่นเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง มีอัลกอริทึมที่คำนวณเส้นทางสุดหลังรถ พิจารณารายละเอียดเช่นน้ำหนักและปริมาตรสนับสนุนยานพาหนะ รถบรรทุกสินค้า และจัดส่งรับของชุด หน้าต่างเวลา และน้ำหนัก และปริมาตรของชุด อย่างไรก็ตาม อัลกอริทึมนี้ไม่พิจารณาเขตเงา ซึ่งต้องหลีกเลี่ยง หรือข้อมูลบริบท ในอนาคต เราตั้งใจที่จะจัดการกับชนิดนี้ของอัลกอริทึมในการปรับปรุงรุ่น SafeTrack

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้นำเสนอรูปแบบที่จะช่วยให้ บริษัท ในการจัดการยานพาหนะและโหลดโดยใช้การรวมกันของเทคโนโลยีสารสนเทศและขั้นตอนวิธี Geofencing ได้. SafeTrack ช่วยให้ บริษัท เหล่านั้นในการตรวจสอบในเวลาจริงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นทางอ้อม. บูรณาการระหว่างปิด the- โทรศัพท์มือถือและการเก็บรักษา SafeDuino ทำให้เป็นไปได้ที่จะระบุยังอยู่ในเวลาจริงและการส่งมอบรถปิคอัพของแรงทำโดยไม่ได้ตั้งใจหรือถูกขโมยเรือบรรทุกสินค้าที่มีศักยภาพ นอกจากนี้การใช้ SafeTrack มันเป็นไปได้ที่จะจัดการการเดินทางและการส่งมอบความเร็วในการโหลดของในทางอัตโนมัติ. นี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะลดลงการทำงานร่วมกันของผู้ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของเวลาและลดปัญหาที่เกิดจากมนุษย์ล้มเหลว. ผลงานทางวิทยาศาสตร์หลักของงานนี้คือการส่งมอบอัตโนมัติ การจัดการของการโหลดโดยไม่มีการโต้ตอบของผู้ใช้. ในแบบที่ SafeTrack สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการส่งมอบและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดของมนุษย์. เมื่อเทียบกับผลงานที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเพียง eTracer (Papatheocharous และ Gouvas 2011) พยายามที่จะจัดการกับการจัดการจัดส่งโดยอัตโนมัติ. แต่ eTracer เท่านั้น ตรวจพบเมื่อโหลดถึงปลายทาง แตกต่างจากที่รูปแบบของเรายังสามารถระบุหากสินค้าที่ได้รับในความเป็นจริงการส่งมอบการหลีกเลี่ยงความไม่สอดคล้องกันการส่งมอบที่มีศักยภาพ. มีส่วนร่วมของ SafeTrack อีกประการหนึ่งคือการตรวจสอบเวลาจริงของกระบวนการส่งมอบที่เรียกการแจ้งเตือนที่จะเน้นความไม่สอดคล้องกันหลายแห่งรวมถึงการปิดเครื่องไม่ได้รับอนุญาตของโทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งขโมยขนส่งสินค้าที่มีศักยภาพ. ผลงานเหล่านี้เป็นผลมาจากการผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและขั้นตอนวิธี Geofencing และพวกเขาก็ไม่พบในงานที่เกี่ยวข้อง. อัตโนมัติสำรอง SafeTrack ของการแจ้งเตือนเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจอาจจะลดการสูญเสียและค่าใช้จ่ายสำหรับการไหลเวียนของโลจิสติก . คุณลักษณะนี้จะถูกจัดให้โดยการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการ Zhengxia และ Laisheng (2010). ประกอบกับวิธีการของพวกเขาซึ่งในการแจ้งเตือนจะถูกส่งผ่านข้อความ SMS, SafeTrack ยังใช้ได้ยินเสียงแจ้งเตือน. คุณลักษณะที่ช่วยให้คนขับรถอย่างรวดเร็วในการตรวจสอบการมาถึงของการแจ้งเตือนความแตกต่างอีก SafeTrack คือการให้เป็นระบบที่สมบูรณ์และการทำงาน. เราได้พัฒนาต้นแบบนี้ในการเป็นหุ้นส่วนกับ บริษัท และ บริษัท Sawluz Taggen โซลูชั่น RFID. ต้นแบบที่ได้รับการประเมินในสภาพแวดล้อมการควบคุมการทดสอบหลายเงื่อนไข เราได้สร้างสถานการณ์การทดสอบกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจไม่ได้เกิดขึ้นในการเดินทางเดี่ยวทั่วไป. ดังนั้นแม้ใน 20 ครั้งที่เราดำเนินการสถานการณ์โมดูลทั้งหมด SafeTrack ของการทำงานตามที่วางแผนไว้. ผลการประเมินได้รับการยืนยันว่าระบบที่มีความน่าเชื่อถือตั้งแต่ กิจกรรมที่วางแผนไว้เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการ. ดังนั้นเราจึงได้ข้อสรุปว่า SafeTrack ก็สามารถที่จะจัดการอย่างมีประสิทธิภาพการส่งมอบและยานพาหนะในสถานการณ์ที่นำเสนอ. การประเมินผลพบว่า SafeTrack สามารถปรับปรุงการดำเนินงานโลจิสติก, การเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจหลีกเลี่ยงการสูญเสียในระหว่างการไหลของโลจิสติกและ นอกจากนี้ยังช่วยให้ บริษัท จะยังคงอยู่ในการแข่งขันในตลาด. ข้อ จำกัด หลักของ SafeTrack นับถือไหลของข้อมูล. แจ้งเตือนเรียกไม่ถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด นี้เป็นเพราะเรา จำกัด ความพยายามของเราในปัญหาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับขั้นตอนการโลจิสติกที่มีห่วงโซ่อุปทานบางส่วนมองเห็นสินค้า. อย่างไรก็ตามเราพบว่าการศึกษาของ Geerts และแลร์รี่ส์นี้ (2014) ที่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้. มีจุด ที่จะได้รับการศึกษาและการปรับปรุงในการทำงานในอนาคต. SafeTrack และส่วนใหญ่ของการศึกษาที่เกี่ยวข้องในวรรณคดีเพียงดำเนินการตรวจสอบในระหว่างขั้นตอนของการกระจายของโหลด. ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะติดตามผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบในขั้นตอนก่อนหน้านี้ของห่วงโซ่โลจิสติกเช่น การจัดหาและการผลิต. ในความเป็นจริงมีการศึกษาเช่นอินทรี (Geerts และแลร์รี่ส์ 2014) ที่เข้าใกล้เรื่องนี้ในการติดตามและติดตามทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์เริ่มต้นในการจัดหาผ่านการผลิตและการจัดจำหน่าย จนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้าย. แต่ไม่มีการศึกษาเหล่านี้ใช้อภิปรัชญาที่สามารถเป็นตัวแทนของทั้งโดเมนของห่วงโซ่การผลิต. พื้นที่สำหรับการปรับปรุงก็คือเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย. เราไม่ได้อยู่ที่คำถามของความเสี่ยงและการรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือใน SafeTrack. นอกจากนี้เรายัง ต้องพิจารณาช่องโหว่ที่เป็นไปได้ของเทคโนโลยี RFID เพื่อลดการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นเช่นในขั้นตอนการตรวจสอบหรือเนื้อหา. การใช้ขั้นตอนวิธีการเข้ารหัสลับใน RFID ยังสามารถได้รับการศึกษาต่อไป ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแรงจูงใจของ SafeTrack คือการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง, คอมพิวเตอร์เมฆที่เพิ่มขึ้นเป็นสาขาวิจัยที่น่าสนใจและสามารถสำรวจการทำงานในอนาคต ตามที่ Subramanian อับดุลราห์และโจว (2014), การยอมรับคอมพิวเตอร์เมฆนำการปรับปรุงในการบูรณาการการทำงานร่วมกันเป็นสีเขียวและความยั่งยืนของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน สุดท้ายอีกการทำงานในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง. มีขั้นตอนวิธีการที่มีจุดมุ่งหมายในการคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดที่จะตามมาด้วยยานพาหนะที่มีการพิจารณาข้อมูลเช่นน้ำหนักและปริมาณที่ได้รับการสนับสนุนโดยรถกระบะและจุดส่งมอบชุดเวลา หน้าต่างและน้ำหนักและปริมาณของชุด. อย่างไรก็ตามขั้นตอนวิธีการเหล่านี้ไม่ได้พิจารณาโซนเงาซึ่งจะต้องหลีกเลี่ยงหรือข้อมูลบริบท. ในอนาคตเราตั้งใจที่จะจัดการกับชนิดของขั้นตอนวิธีนี้ในรุ่นที่ปรับปรุงของรูปแบบ SafeTrack .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้นำเสนอแบบจำลองที่ช่วยให้ บริษัท จัดการยานพาหนะของพวกเขาและโหลดการใช้รวมของข้อมูลเทคโนโลยีและ geofencing อัลกอริธึม


safetrack ช่วยให้บริษัทเหล่านั้นเพื่อตรวจสอบในเวลาจริงในขณะที่ทางอ้อมที่เกิดขึ้น


รวมระหว่างปิดการเก็บรักษาอุปกรณ์มือถือและ safeduino ทำให้เป็นไปได้ในการระบุในแบบเรียลไทม์การส่งมอบและรถปิคอัพของโหลดได้โดยผิดพลาดหรือศักยภาพสินค้าถูกขโมย นอกจากนี้ การใช้ safetrack มันเป็นไปได้ที่จะ จัดการเดินทางและโหลดการจัดส่งในแบบอัตโนมัติ


มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ ปรับเวลา และลดปัญหาที่เกิดจากมนุษย์ล้มเหลว


ผลงานทางวิทยาศาสตร์หลักของงานนี้คือการส่งมอบการจัดการอัตโนมัติของโหลดโดยไม่มีการโต้ตอบผู้ใช้


แบบนั้น safetrack สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการส่งมอบและยังหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของมนุษย์


เมื่อเทียบกับงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา เพียง etracer ( papatheocharous & gouvas 2011 ) พยายามที่จะจัดการบริหารการจัดส่งสินค้าอัตโนมัติ


แต่ etracer เท่านั้นที่ตรวจพบเมื่อโหลดไปถึงปลายทาง แตกต่างจากที่รูปแบบของเราสามารถระบุเพิ่มเติม ถ้าเป็นสินค้าที่ในความเป็นจริงให้หลีกเลี่ยงการเพื่มศักยภาพ


อีกหนึ่งผลงานของ safetrack คือการตรวจสอบเวลาจริงของกระบวนการจัดส่งสินค้า ทำให้เกิดการแจ้งเตือนที่หลายไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งปิดไม่ได้รับอนุญาตของอุปกรณ์มือถือ หรือแม้แต่การขโมยสินค้าที่มีศักยภาพ


ผลงานเหล่านี้เป็นผลมาจากการผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและ geofencing ขั้นตอนวิธี และพวกเขาไม่พบในที่งาน


safetrack อัตโนมัติระบบของการแจ้งเตือนความเร็วในการตัดสินใจ - อาจจะลดความสูญเสียและต้นทุนโลจิสติกไหล


คุณสมบัตินี้ก็ให้ของาน laisheng และงานที่เกี่ยวข้อง


( 2010 )ประกอบกับวิธีการของพวกเขาในที่การแจ้งเตือนจะถูกส่งผ่านข้อความ SMS , safetrack ยังใช้ประยุกต์การ


คุณลักษณะที่ช่วยให้คนขับอย่างรวดเร็วตรวจสอบการมาถึงของการแจ้งเตือน


เป็น safetrack อื่นซึ่งเป็นบทบัญญัติของระบบที่สมบูรณ์และการทํางาน


เราพัฒนาต้นแบบในความร่วมมือกับ บริษัท และ บริษัท sawluz taggen โซลูชั่น RFID

.ต้นแบบทดลองในสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม การทดสอบเงื่อนไขหลาย เราได้สร้างแบบทดสอบบทกับสถานการณ์ต่าง ๆที่อาจเกิดขึ้นในแบบอย่างเดียว เที่ยว


ดังนั้นแม้ใน 20 ครั้ง ที่เราดำเนินการ สถานการณ์ทั้งหมดของโมดูลทำงานตามที่วางแผนไว้ safetrack



ผลการประเมินได้รับการยืนยันว่า เป็นระบบ เชื่อถือได้ตั้งแต่วางแผนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการ


ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า safetrack สามารถได้อย่างมีประสิทธิภาพจัดการจัดส่งและการขนส่งยานพาหนะในการนำเสนอสถานการณ์


safetrack สามารถปรับปรุงการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์เพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ หลีกเลี่ยงการขาดทุนในโลจิสติกไหล และยังช่วยให้ บริษัท ยังคงแข่งขันในตลาด



ข้อจำกัดหลักของ safetrack ความนับถือการไหลของข้อมูล


เตือนเรียกไม่ถึงทั้งโซ่อุปทาน นี้เป็นเพราะเรา จำกัด ความพยายามของเราในปัญหาเฉพาะเวทีโลจิสติกส์ มีบางส่วน โซ่ อุปทาน ผลิตภัณฑ์ การมองเห็น


แต่เราพบและศึกษา geerts โอ ' เลียรี่ ( 2014 ) ที่เสนอทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้


มีจุดที่น่าศึกษาและปรับปรุงในงานต่อไป


safetrack และที่สุดของการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับในวรรณกรรมแสดงเฉพาะการตรวจสอบในระหว่างขั้นตอนการโหลด .

ดังนั้นจึงไม่สามารถติดตามสินค้าหรือส่วนประกอบในขั้นตอนก่อนหน้านี้ของห่วงโซ่โลจิสติกส์ เช่น การจัดหาและการผลิต


ในความเป็นจริงไม่มีการศึกษา เช่น บังเกอร์ ( geerts &โอ ' เลียรี่2014 ) วิธีการนี้ขึ้น เพื่อติดตามและติดตามทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การจัดหา ผ่านการผลิตและการจัดจำหน่ายจนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้าย


แต่ไม่มีการศึกษาเหล่านี้ใช้ภววิทยาที่สามารถเป็นตัวแทนของโดเมนทั้งหมดของห่วงโซ่การผลิต .



อีกหนึ่งพื้นที่สำหรับการปรับปรุงเกี่ยวกับ

การรักษาความปลอดภัยเราไม่ได้ตอบคำถามของความเสี่ยง และความปลอดภัยของอุปกรณ์มือถือใน safetrack .


เราก็ต้องพิจารณาที่สุดช่องโหว่ของเทคโนโลยี RFID เพื่อลดศักยภาพในการโจมตี เช่น ในขั้นตอนการตรวจสอบ หรือ ในเนื้อหา


ใช้ขั้นตอนวิธีการเข้ารหัสลับใน RFID ยังสามารถเพิ่มเติม )เป็นหนึ่งในแรงจูงใจของ safetrack เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ , คอมพิวเตอร์เมฆจะเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และสามารถสำรวจงานในอนาคต ตาม subramanian บดุล รามัน และ โจว ( 2014 ) , การใช้คอมพิวเตอร์เมฆ , ทำให้การปรับปรุงในการบูรณาการความร่วมมือสีเขียวและความยั่งยืนของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ในที่สุดอีกหนึ่งอนาคตทำงานเกี่ยวข้องกับการส่ง


มีขั้นตอนวิธีที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคำนวณหาเส้นทางที่ดีที่สุดที่จะตามมาด้วยรถ พิจารณาจากข้อมูล เช่น น้ำหนัก และปริมาตร สนับสนุนโดย รถยนต์ รถกระบะ และจัดส่ง จุด ของ ชุด หน้าต่างเวลาและน้ำหนักและปริมาณของชุด


อย่างไรก็ตามขั้นตอนวิธีนี้จะไม่พิจารณาเงาบริเวณ ซึ่งจะต้องหลีกเลี่ยงหรือบริบทข้อมูล


ในอนาคตเราตั้งใจที่จะจัดการกับชนิดนี้ของขั้นตอนวิธีในการปรับปรุงรุ่นของรูปแบบ safetrack .