Two depressing stories that made th

Two depressing stories that made the headlines last week should serve as a multiple rude awakening: Thailand's corruption record is getting worse, and the nation's education standards are heading in the same direction.
It's not hard to come to the conclusion that the two issues are irretrievably linked. When our schools fail to produce good, responsible graduates, the character of citizens is necessarily flawed. When the education system goes down the drain, the moral fibre of society inevitably breaks down.

Education Minister Chaturon Chaisaeng admitted last week he was "very concerned" over the latest World Economic Forum's Global Competitiveness Report that called Thailand's education standards the worst of the eight members of Asean it assessed.

The minister was only reacting to the well-known fact that the country's much-hyped "school reform" had gone nowhere and it was his responsibility to try to draw up a new "national agenda on education" that would hopefully turn things around - admittedly an uphill task, considering the fact that he isn't sure how long he will remain in his post.

On that very same day, a nationwide anti-corruption campaign was being launched, with the Anti-Corruption Organisation of Thailand (ACT) chairman Pramon Sutivong declaring that graft plaguing the country was reaching "mega-critical" proportions.

The education minister didn't use exactly the same words to describe the state of the nation's education, but it was clear he was suggesting things had gone terribly wrong with the system.

"Our teaching method is wrong. Our curriculum is outdated. Our |teachers aren't qualified, and |university graduates, despite having studied English for 12-16 years, can't speak it at all," he lamented.

Anti-corruption fighter Pramon argued that the problem had worsened in the past three years because Thai society as a whole lacked awareness of the importance of tackling graft, while the government appeared not to take the issue seriously.

The "lack of awareness" to counter rampant corrupt practices obviously stems from an education system that fails to inject a sense of integrity and accountability in the minds of students from a very young age.

To blame some businessmen for lobbying hard to secure contracts for state mega-projects with "tea money" and certain media outlets for their failure to take up the issue seriously is probably futile if the businessmen and journalists weren't taught in school about the danger of graft and selfishness.

If our education system is rotten, we can't expect the output to be any better. The quality of our schooling system determines the quality of our politicians, policemen, judges, police and businessmen.

Chaturon has kicked off a series of brainstorming sessions, starting with his ministry's own people before reaching out to the private sector, to gather a wide spectrum of ideas to overhaul the education system. It won't be an easy task and any chance of success will require a strong dose of political will to even jumpstart the process of reform.

He might do well to start by reading proposals already made by various academic and non-profit groups. A good example is the group called Way Forward, whose members meet regularly to exchange ideas on a blueprint for the nation.

Some of their recommendations may offer the minister a launching pad for his campaign:

- Set up a neutral body, the National Institute for Educational Policy Research, and a Curriculum Research Centre, to investigate all available evidence for use in future educational enhancement. It is crucial that these agencies be independent from political influence.

- Encourage cooperation among all stakeholders, such as private-sector groups, NGOs, parents, social communities and the like, to bring about changes in both micro and macro education systems and tackle the problems of the entire education system simultaneously.

- Create functional and practical means as well as strategies to support education reform.

- Seriously tackle "teacher education" in all aspects to produce qualified teachers. Establish an effective process for teacher-induction programmes.

- Work closely with the Teachers' Council of Thailand to create an innovative framework for teaching professionalism.

- Revise the current mechanism for the "Teacher Leadership" selection process so that competent school principals can be recruited on a regular and sustainable basis.

None of these is earth-shaking to start with. But they are the basic changes that need to be realised before the Thai public can lend any credence to the government's pledge to finally come to grips with unquestionably the country's most important issue: educating the next generation of citizens.

Unless groundbreaking progress is achieved in our schooling system, there is little hope that we can begin to see the battle against corruption, the country's cancer, being won at all.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Depressing สองชั้นที่ทำพาดหัวข่าวสัปดาห์ควรใช้เป็นการตื่นหยาบหลาย: บันทึกความเสียหายของประเทศไทยกำลังแย่ และมาตรฐานการศึกษาของประเทศมีหัวเรื่องในทิศทางเดียวกันไม่ยากที่จะมาถึงข้อสรุปว่า เชื่อมโยงปัญหาสองอย่างแก้ไขไม่ เมื่อโรงเรียนของเราไม่สามารถผลิตบัณฑิตผู้รับผิดชอบ ดี ลักษณะของพลเมืองเป็นจำ flawed ระบบการศึกษาไปลงท่อระบายน้ำ เส้นใยทางศีลธรรมของสังคมย่อมแบ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาจาตุรนต์แสงยอมรับสัปดาห์กำลัง "กังวลมาก" กว่าล่าสุดสภาเศรษฐกิจโลกของโลกแข่งขันรายงานที่เรียกว่ามาตรฐานการศึกษาของไทยแย่ที่สุดแปดสมาชิกของอาเซียนที่จะประเมินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมีเพียงปฏิกิริยาในความเป็นจริงรู้จักว่า ประเทศมาก hyped "โรงเรียนปฏิรูป" แล้วไม่มีที่ไหน และมีความรับผิดชอบของเขาพยายามที่จะวาดแบบใหม่ "วาระแห่งชาติในการศึกษา" ที่หวังจะเปิดสิ่งรอบ - เป็นที่ยอมรับการปั่นงาน พิจารณาความจริงที่ว่า เขาไม่แน่ใจว่าระยะเขาจะยังคงอยู่ในกระทู้ของเขาในวันเดียวมาก แคมเปญต่อต้านการทุจริตทั่วประเทศได้ถูกเปิดใช้ มีการต่อต้านการทุจริตองค์กรของไทย (กระทำ) ประธานประมนต์สุธีวงศ์ประกาศว่า รับสินบน plaguing ประเทศได้ถึงสัดส่วน "เมก้าที่สำคัญ"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาไม่ใช้คำเดียวกันว่าเพื่ออธิบายสถานะของการศึกษาของประเทศ แต่เป็นชัดเจนเขาได้แนะนำสิ่งที่ได้ไปชะมัดผิดกับระบบ"วิธีการสอนของเราไม่ถูกต้อง หลักสูตรของเราจะล้าสมัย |Teachers ของเราไม่มีคุณสมบัติ และบัณฑิต |university แม้จะมีเรียนภาษาอังกฤษ 12-16 ปี พูดไม่ได้เลย เขา lamentedต่อต้านการทุจริตรบประมนต์โต้เถียงว่า ปัญหามี worsened ในสามปีที่ผ่านมาเนื่องจากรับสินบนรับรู้ทั้งหมด lacked ที่สำคัญแก่สังคมไทย ในขณะที่รัฐบาลปรากฏการปัญหาอย่างจริงจัง"ขาดจิตสำนึก" การนับอาละวาดเสียหายปฏิบัติชัดเกิดจากระบบการศึกษาที่ไม่ผ่านการฉีดความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบในความคิดของนักเรียนจากเด็กมากตำหนิบางนักธุรกิจสำหรับการวิ่งเต้นอย่างหนักทางสัญญาสำหรับโครงการร็อครัฐ "ชาเงิน" และร้านสื่อบางอย่างสำหรับความล้มเหลวของการนำปัญหาอย่างจริงจังได้ลม ๆ แล้ง ๆ คงถ้านักธุรกิจและนักข่าวไม่ได้สอนในโรงเรียนเกี่ยวกับอันตรายของการรับสินบนและความถ้าระบบการศึกษาของเราเน่า เราไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์จะดี คุณภาพของระบบการศึกษาของเรากำหนดคุณภาพของนักการเมือง ตำรวจในพื้นที่ ผู้พิพากษา ตำรวจ และนักธุรกิจจาตุรนต์ได้เตะออกชุดระดมเซสชัน เริ่มต้นกับคนของกระทรวงเขาก่อนถึงออกไปภาคเอกชน การรวบรวมความคิดเพื่อยกเครื่องระบบการศึกษาหลากหลาย ไม่เป็นงานง่าย และมีโอกาสประสบความสำเร็จจะต้องมีความเข้มแข็งของการเมืองจะไป jumpstart แม้กระบวนการปฏิรูปเขาอาจทำดีเพื่อเริ่มต้น โดยการอ่านข้อเสนอทำแล้ว โดยกลุ่มศึกษา และไม่แสวงหากำไรต่าง ๆ ตัวอย่างที่ดีเป็นกลุ่มที่เรียกว่าประธานสภาฯ สมาชิกพบเป็นประจำเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพิมพ์เขียวสำหรับประเทศคำแนะนำของพวกเขาบางคนอาจมีรัฐมนตรีที่แผ่นจุดเริ่มต้นสำหรับแคมเปญของเขา:-ตั้งค่าตัวกลาง สถาบันนโยบายการศึกษาแห่งชาติ และศูนย์การวิจัยหลักสูตร การตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีสำหรับการปรับปรุงการศึกษาในอนาคต มันเป็นสิ่งสำคัญที่หน่วยงานเหล่านี้เป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง-ส่งเสริมความร่วมมือในทุกกลุ่ม กลุ่มภาคเอกชน Ngo ผู้ปกครอง ชุมชนสังคม และ ชอบ เพื่อนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาไมโครและแมโคร และเล่นงานปัญหาของระบบการศึกษาทั้งหมดพร้อมกัน-สร้างวิธีการทำงาน และการปฏิบัติตลอดจนกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา-อย่างจริงจังเล่นงาน "วิชาชีพครู" ในด้านการผลิตครูที่มีคุณภาพ สร้างกระบวนการมีประสิทธิภาพสำหรับโปรแกรมเหนี่ยวนำครู-ทำงานร่วมกับคุรุสภาของไทยเพื่อสร้างกรอบเป็นนวัตกรรมการสอนมืออาชีพ-ปรับปรุงกลไกปัจจุบันในกระบวนการเลือก "อาจารย์นำ" เพื่อให้โรงเรียนมีอำนาจแบบที่สามารถพิจารณาตามปกติ และยั่งยืนสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เขย่าโลกจะเริ่มต้นด้วย แต่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่จำเป็นได้เองก็ยังคิดก่อนประชาชนไทยสามารถยืมใด ๆ เห็นเหมือนการจำนำของรัฐบาลในที่สุด มาให้กับร้านของประเทศสำคัญที่สุดปัญหา: ให้รุ่นต่อไปของประชาชนเว้นแต่คว้าความก้าวหน้าสามารถทำได้ในระบบการศึกษาของเรา มีหวังเล็ก ๆ ว่าเราจะเริ่มเห็นการต่อสู้กับทุจริต โรคมะเร็งของประเทศ การชนะทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สองเรื่องที่น่าเศร้าที่ทำให้พาดหัวข่าวสัปดาห์สุดท้ายที่ควรใช้เป็นแบบหยาบคายปลุก : บันทึกความเสียหายของไทยแย่ลง และมาตรฐานการศึกษาของประเทศที่กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
มันไม่ยากที่จะสรุปว่าสองประเด็นคือ irretrievably เชื่อมโยง เมื่อโรงเรียนของเราล้มเหลวที่จะผลิตบัณฑิตที่รับผิดชอบดี , ,ตัวละครของประชาชนจะต้องมีข้อบกพร่อง เมื่อระบบการศึกษาไปลงท่อ ไฟเบอร์ ศีลธรรมของสังคมย่อมแบ่งลง

ศึกษารัฐมนตรีจาตุรนต์ Chaisaeng ยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาถูก " กังวลมาก " มากกว่าล่าสุดฟอรั่มทางเศรษฐกิจของโลกการแข่งขันระดับโลกรายงานว่าชื่อไทยมาตรฐานการศึกษาที่เลวร้ายที่สุดของแปดสมาชิกของอาเซียนมันประเมิน .

รัฐมนตรีเป็นเพียงปฏิกิริยาที่รู้จักกันดีที่ว่าประเทศมาก hyped " ปฏิรูป " โรงเรียนหายไปไหน และมันคือความรับผิดชอบของเขาพยายามที่จะวาดขึ้นเป็นวาระแห่งชาติใหม่ " การศึกษา " ซึ่งหวังว่าจะเปิดสิ่งรอบ ๆ - เป็นที่ยอมรับงานยากเย็นแสนเข็ญ พิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ค่อยมั่นใจว่า เขาจะ ยังคงอยู่ในตำแหน่ง เดียวกันมากว่า

ในวันแคมเปญต่อต้านคอร์รัปชั่นทั่วประเทศถูกเปิดตัวกับองค์กรต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย ( พระราชบัญญัติ ) ประธาน pramon sutivong ประกาศว่ารับสินบน plaguing ประเทศถึงเมกะ " วิกฤต " สัดส่วน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาไม่ได้ใช้ ตรงคำพูดเดียวกันเพื่ออธิบายสภาพการศึกษาของประเทศแต่เห็นชัดว่าเขาแนะนำสิ่งที่ได้ไปผิดอย่างมหันต์ด้วยระบบ

" วิธีการสอนของเราผิด หลักสูตรของเราจะล้าสมัย ครูของเรา | ไม่ได้คุณภาพ และบัณฑิต | มหาวิทยาลัย แม้จะเรียนภาษาอังกฤษสำหรับ 12-16 ปี พูดไม่ได้ มันเลย

" เขาคร่ำครวญ 'pramon ต่อต้านการทุจริตนักรบแย้งว่าปัญหาแย่ลงในช่วงสามปี เพราะสังคมไทยโดยรวมมีความตระหนักในความสำคัญของการแก้ปัญหาการรับสินบน ขณะที่รัฐบาลปรากฏ อย่าเอาปัญหาอย่างจริงจัง .

ขาด " ความรู้ " เพื่อต่อต้านการทุจริตอาละวาดแน่นอน stems จากระบบการศึกษาที่ล้มเหลวที่จะให้ความรู้สึกของความสมบูรณ์และน่าเชื่อถือในจิตใจของนักเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยมาก . . .

จะโทษพวกนักธุรกิจเพื่อการล็อบบี้อย่างหนักเพื่อรักษาสัญญาของรัฐโครงการด้วย " เงิน " ชาและสื่อบางอย่างสำหรับความล้มเหลวของพวกเขาที่จะนำขึ้นปัญหาอย่างจริงจังอาจจะไร้ประโยชน์ถ้านักธุรกิจและสื่อมวลชน ไม่ได้สอนในโรงเรียน เกี่ยวกับอันตรายของการรับสินบน และความเห็นแก่ตัว

ถ้าระบบการศึกษาของเราจะเน่า เราสามารถ ไม่คิดว่าผลผลิตจะได้ดีกว่าคุณภาพของระบบการศึกษาของเราจะกำหนดคุณภาพของนักการเมืองของเรา ตำรวจ ผู้พิพากษา ตำรวจ นักธุรกิจ

จาตุรนต์ได้เตะออกชุดของการระดมสมอง เริ่มกระทรวงของเขาเป็นคนเอง ก่อนยื่นมือให้ภาคเอกชน เพื่อรวบรวมสเปกตรัมกว้างของความคิดที่จะยกเครื่องระบบการศึกษามันคงไม่ใช่งานง่าย และโอกาสของความสำเร็จจะต้องมีปริมาณที่แข็งแกร่งของการเมืองจะต้องเริ่มต้นกระบวนการของการปฏิรูป .

เขาจะทำอะไรดีที่จะเริ่มต้นด้วยการอ่านข้อเสนอไปเรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มวิชาการและไม่หวังผลกำไรต่างๆ ตัวอย่างที่ดีคือ กลุ่มที่เรียกว่าทางข้างหน้าซึ่งมีสมาชิกพบปะกันเป็นประจำ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในพิมพ์เขียวสำหรับประชาชน .

บางส่วนของคำแนะนำของพวกเขาอาจเสนอรัฐมนตรีเปิดตัว Pad สำหรับแคมเปญของเขา :

-- ตั้งค่าตัวเป็นกลาง สถาบันเพื่อการวิจัยนโยบายการศึกษาแห่งชาติและหลักสูตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดที่พร้อมใช้งานสำหรับใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาในอนาคต มันเป็นสิ่งสำคัญที่หน่วยงานเหล่านี้เป็นอิสระจากอิทธิพลทางการเมือง .

- ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม เช่น นำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาทั้งจุลภาคและมหภาคและแก้ไขปัญหาของระบบการศึกษาทั้งหมดพร้อมกัน

- สร้างหน้าที่และการปฏิบัติหมายถึงรวมทั้งกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา .

- แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง " ครู " ในทุกด้าน เพื่อผลิตครูที่มีคุณภาพ สร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพสำหรับโปรแกรมการเหนี่ยวนำครู

- ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคุรุสภา เพื่อสร้างกรอบใหม่

สอนความเป็นมืออาชีพ- ทบทวนกลไกปัจจุบัน " ภาวะผู้นำ " ครูกระบวนการคัดเลือกเพื่อให้ผู้บริหารโรงเรียนที่มีความสามารถสามารถคัดเลือกบนพื้นฐานปกติ และ ยั่งยืน .

ไม่มีของเหล่านี้เป็นดินสั่นที่จะเริ่มต้นด้วยแต่พวกเขามีพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงที่ต้องตระหนักก่อน ประชาชนไทยสามารถยืมใด ๆการยอมรับรัฐบาลให้คำมั่นสัญญาที่จะมายุ่งกับดอกของประเทศที่สำคัญที่สุดปัญหา : ให้รุ่นต่อไปของประชาชน .

นอกจาก groundbreaking ความคืบหน้าได้ในระบบการศึกษาของเรา มีเพียงเล็กน้อย หวังว่าเราสามารถเริ่มเห็นการต่อสู้กับการทุจริตมะเร็งของประเทศ การจะที่ทั้งหมด