In a global environment, awareness,

In a global environment, awareness, fear and recognition of animal
borne diseases (e.g. bovine spongiform encephalopathy, foot
and mouth disease) have fuelled the development and implementation
of reliable and effective systems for individual identification
and tracking of livestock. Due to the fast movement of animals and
animal food products, it is essential for the administration to be
able to have ‘‘rapid trace-back’’ capability. Permanent identification
also helps the farmer to manage more animals to be cost effective,
provides better proof of ownership to reduce stock theft and improves
transparency maintaining consumer confidence in animal
products (Trevarthen, 2007).
RFID systems have been effective tools in identifying, tracking
and monitoring livestock. Since the first patents were developed
(Hanton and Leach, 1981; Morrison and Curkendall, 2001), electronic
identification of cattle with RFID has been more and more
used and now is a common practice in many farms (Munak,
2006). The development of a clear family of standards have helped
this adoption (ISO, 1996, 2003, 2004). An RFID system can also
track livestock transportation being faster, cleaner and easier than
the conventional systems. A recent study shows how RFID can give
transparency in poultry shipments, detecting unauthorized openings
and recording the timestamp of each checkpoint passed along
the path of transportation (Chansud et al., 2008; Wisanmongkol
and Pongpaibool, 2009).
Traditional forms of animal identification are considered inferior
in comparison to RFID technology (Trevarthen, 2007). Traditional
ear tags are lost 5–60% of the time, while brands or tattoos
on cattle can be damaged or fade away. Traditional systems require
visual detection and must be recorded manually, which can easily
introduce human errors, while the labor cost of such a practice is
also high. Reading errors are estimated to occur in six of every
100 animals processed via traditional mechanisms, while RFID devices
are estimated to produce only one error for every 1000 animals
(Trevarthen, 2007). There are four basic ways for attaching
RFID transponders to the animals: collar transponder, ear tags,
injecting tiny glass transponders under the animal’s skin, or via a
‘bolus’ where the RFID transponder is mounted within an acid
resistant, cylindrical housing which is inserted permanently within
the animals stomach (Finkenzeller, 2004). New developments
achieve smaller tags of just a couple of centimeters and with a
reading range of 1 m (Mun Leng et al., 2005).
In combination with herd management software, RFID animal
identification systems can include detailed information like records
of medical treatments, animal growth performance data,
pasture performance data, movement of animals, purchase and
sale dates, and carcass feedback data. The reader can be connected
to a remote host computer, providing and effective data collection
and database management methodology sharing data between the
producer, the stockman, the packer or the veterinarian (Curkendall,
2002). Also, through the use of electronic animal identification
subsidies based on the number of animals or their genetic background
can be allocated properly, electronic feeding stations can
be implemented or tracing back of stolen stock (Voulodimos
et al., 2010).
Last studies allow simultaneous animal identification of small
animals like piglets, using anti-collision systems that bring multiple
access handling and prevent the collision of transponder data

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสภาพแวดล้อม รับรู้ ความกลัว และการรับรู้ของสัตว์โรคลม (encephalopathy spongiform วัวเช่น เท้าและปากโรค) ได้ผลักดันการพัฒนาและการใช้งานระบบน่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละรหัสและการติดตามของปศุสัตว์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารจะสามารถที่จะมีความสามารถ ''รวดเร็วติดตามหลัง '' รหัสถาวรยัง ช่วยให้เกษตรกรได้จัดการสัตว์เพิ่มเติมมีประสิทธิภาพต้นทุนให้ดีหลักฐานการเป็นเจ้าของเพื่อลดการขโมยสินค้า และปรับปรุงความโปร่งใสในสัตว์ผลิตภัณฑ์ (Trevarthen, 2007)ระบบ RFID มีการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุ การติดตามและการตรวจสอบการปศุสัตว์ เนื่องจากได้รับการพัฒนาสิทธิบัตรครั้งแรก(Hanton และกรอง 1981 มอร์ริสันและ Curkendall, 2001), อิเล็กทรอนิกส์รหัสของวัวกับ RFID ได้มากขึ้นใช้ และตอนนี้ เป็นการปฏิบัติทั่วไปในหลายฟาร์ม (Munak2006) . ได้ช่วยพัฒนาครอบครัวชัดเจนของมาตรฐานปฏิบัติตามนี้ (ISO, 1996, 2003, 2004) มีระบบ RFID ยังสามารถติดตามขนส่งปศุสัตว์ เป็นเร็ว ทำความสะอาดง่ายกว่าระบบทั่วไป การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า RFID สามารถให้ความโปร่งใสในการจัดส่งสัตว์ปีก การตรวจจับช่องที่ไม่ได้รับอนุญาตและบันทึกเวลาของแต่ละด่านผ่านตลอดเส้นทางการขนส่ง (Chansud et al. 2008 ซีฮี้และพนม พงษ์ไพบูลย์ 2009)รูปแบบดั้งเดิมของสัตว์ตัวถือว่าด้อยกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี RFID (Trevarthen, 2007) แบบดั้งเดิมแท็กหูหายไป 5 – 60% ของเวลา ในขณะที่แบรนด์หรือรอยสักกับวัวอาจเสียหาย หรือจางหายไป ต้องใช้ระบบแบบดั้งเดิมตรวจจับ และต้องบันทึกไว้ด้วยตนเอง ซึ่งสามารถแนะนำผิดพลาดของมนุษย์ ในขณะที่ต้นทุนแรงงานของการปฏิบัติดังกล่าวยังสูง ประมาณอ่านข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในหกทุก100 สัตว์ดำเนินการผ่านกลไกแบบดั้งเดิม ในขณะที่อุปกรณ์ RFIDประมาณการผลิตผิดพลาดเพียงหนึ่งสำหรับสัตว์ทุก 1000(Trevarthen, 2007) มีสี่วิธีพื้นฐานสำหรับการติดปริมาณ RFID กับสัตว์: น่อง transponder แท็กหูฉีดปริมาณแก้วเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังของสัตว์ หรือผ่านการ'bolus' ที่ติดตั้ง RFID transponder ภายในกรดที่อยู่อาศัยทน ทรงกระบอกซึ่งสามารถใส่อย่างถาวรภายในสัตว์ท้อง (Finkenzeller, 2004) การพัฒนาใหม่บรรลุแท็กเล็กของเพียงไม่กี่เซนติเมตร และมีการอ่านระยะ 1 เมตร (มูลเล้ง et al. 2005)ร่วมกับซอฟต์แวร์การจัดการฝูง สัตว์ RFIDระบบสามารถรวมรายละเอียดข้อมูลเช่นระเบียนในการรักษาพยาบาล ข้อมูลประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของสัตว์ทุ่งหญ้าข้อมูลประสิทธิภาพ การเคลื่อนไหวของสัตว์ ซื้อ และวันที่ขาย ซากผลป้อนกลับข้อมูลและ สามารถเชื่อมต่อเครื่องอ่านไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องโฮสต์ระยะไกล เก็บรวบรวมข้อมูลให้ และมีประสิทธิภาพและวิธีการบริหารฐานข้อมูลที่แบ่งปันข้อมูลระหว่างการผู้ผลิต stockman การบรรจุหีบห่อ หรือสัตวแพทย์ (Curkendall2002) ผ่านการใช้ประจำตัวสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ยังเงินอุดหนุนตามจำนวนสัตว์หรือพื้นหลังทางพันธุกรรมของพวกเขาสามารถปันส่วนอย่างถูกต้อง สามารถสถานีให้อาหารอิเล็กทรอนิกส์จะดำเนินการ หรือการตรวจสอบหลังของสต็อกถูกขโมย (Voulodimoset al. 2010)การศึกษาครั้งสุดท้ายให้ระบุสัตว์พร้อมกันขนาดเล็กสัตว์เช่นทรูด ใช้ระบบต่อต้านชนที่นำหลายเข้าถึงการจัดการ และป้องกันการชนกันของข้อมูลสัญญาณดาวเทียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสภาพแวดล้อมของโลกตระหนักความกลัวและการรับรู้ของสัตว์
โรคพาหะ (เช่นเชื่องช้า spongiform encephalopathy เท้า
และโรคปาก) มีการผลักดันการพัฒนาและการดำเนินงาน
ของระบบที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสำหรับบัตรประจำตัวของแต่ละบุคคล
และการติดตามของปศุสัตว์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของสัตว์และ
ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์, มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารที่จะ
สามารถที่จะมี '' อย่างรวดเร็วร่องรอยกลับ '' ความสามารถ บัตรประจำตัวที่ถาวร
ยังช่วยให้เกษตรกรในการจัดการสัตว์มากขึ้นที่จะเสียค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
ให้หลักฐานที่ดีกว่าในการเป็นเจ้าของที่จะลดการโจรกรรมหุ้นและช่วยเพิ่ม
ความโปร่งใสการรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสัตว์
ผลิตภัณฑ์ (Trevarthen 2007)
ระบบ RFID ได้รับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุ,
การติดตาม และการตรวจสอบการปศุสัตว์ ตั้งแต่สิทธิบัตรครั้งแรกที่ได้รับการพัฒนา
(Hanton และกรอง 1981; มอร์ริสันและ Curkendall, 2001), อิเล็กทรอนิกส์
บัตรประจำตัวของวัวกับ RFID ได้รับมากขึ้นและมากขึ้น
ใหม่และมือสองในขณะนี้คือการปฏิบัติร่วมกันในหลาย ๆ ฟาร์ม (Munak,
2006) การพัฒนาของครอบครัวที่ชัดเจนของมาตรฐานได้ช่วยให้
การยอมรับนี้ (ISO 1996, 2003, 2004) ระบบ RFID ยังสามารถ
ติดตามการขนส่งปศุสัตว์ได้เร็วทำความสะอาดและง่ายกว่า
ระบบเดิม ผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า RFID สามารถให้
ความโปร่งใสในการจัดส่งสัตว์ปีก, การตรวจหาช่องไม่ได้รับอนุญาต
และการบันทึกการประทับเวลาของแต่ละด่านผ่านไปตาม
เส้นทางของการขนส่ง (Chansud et al, 2008;. Wisanmongkol
และ Pongpaibool, 2009)
รูปแบบดั้งเดิมของบัตรประจำตัวสัตว์จะถือว่าด้อยกว่า
เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี RFID (Trevarthen 2007) แบบดั้งเดิม
แท็กหูจะหายไป 5-60% ของเวลาในขณะที่แบรนด์หรือรอยสัก
บนวัวได้รับความเสียหายหรือจางหายไป ระบบดั้งเดิมต้องการ
การตรวจสอบภาพและจะต้องถูกบันทึกด้วยตนเองซึ่งสามารถ
นำข้อผิดพลาดของมนุษย์ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของแรงงานการปฏิบัติดังกล่าวเป็น
ยังสูง ข้อผิดพลาดการอ่านคาดว่าจะเกิดขึ้นในหกของทุก
100 สัตว์การประมวลผลผ่านกลไกแบบดั้งเดิมในขณะที่อุปกรณ์ RFID
คาดว่าจะผลิตเพียงหนึ่งในข้อผิดพลาดสำหรับทุกๆ 1000 สัตว์
(Trevarthen 2007) มีสี่วิธีพื้นฐานสำหรับการแนบเป็น
transponders RFID เพื่อสัตว์เสื้อดาวเทียม, แท็กหู
ฉีด transponders แก้วเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังของสัตว์หรือผ่านทาง
'ยาลูกกลอน' ที่ดาวเทียม RFID จะติดตั้งอยู่ภายในกรด
ทนที่อยู่อาศัยรูปทรงกระบอกซึ่งถูกแทรกอย่างถาวรภายใน
กระเพาะอาหารสัตว์ (Finkenzeller, 2004) การพัฒนาใหม่
ให้บรรลุแท็กขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตรและมี
ช่วงการอ่านของ 1 เมตร (มูลเล้ง et al., 2005)
ร่วมกับซอฟต์แวร์การจัดการฝูงสัตว์ RFID
ระบบการระบุสามารถรวมข้อมูลรายละเอียดเช่นบันทึก
ของการรักษาทางการแพทย์ข้อมูลประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของสัตว์
ข้อมูลประสิทธิภาพทุ่งหญ้า, การเคลื่อนไหวของสัตว์, การซื้อและการ
ขายวันที่และข้อมูลความคิดเห็นซาก ผู้อ่านสามารถเชื่อมต่อ
กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้พื้นที่ห่างไกล
การให้บริการและมีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมข้อมูล และการแบ่งปันวิธีการจัดการฐานข้อมูลข้อมูลระหว่าง
ผู้ผลิตพัสดุที่บรรจุหีบห่อหรือสัตวแพทย์ (Curkendall,
2002) นอกจากนี้ยังผ่านการใช้บัตรประจำตัวสัตว์อิเล็กทรอนิกส์
อุดหนุนขึ้นอยู่กับจำนวนของสัตว์หรือพื้นหลังทางพันธุกรรมของพวกเขา
สามารถได้รับการจัดสรรอย่างถูกต้องให้อาหารสถานีอิเล็กทรอนิกส์สามารถ
จะดำเนินการหรือการติดตามหลังของหุ้นที่ถูกขโมย (Voulodimos
et al., 2010)
การศึกษาที่ผ่านมาเพื่อให้สัตว์ขนาดเล็กพร้อมกันของ
สัตว์เช่นลูกสุกรโดยใช้ระบบป้องกันการชนกันที่ทำให้หลาย ๆ คน
การจัดการการเข้าถึงและการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลดาวเทียม พัสดุบรรจุหีบห่อหรือสัตวแพทย์ (Curkendall ที่ 2002) นอกจากนี้ยังผ่านการใช้บัตรประจำตัวสัตว์อิเล็กทรอนิกส์อุดหนุนขึ้นอยู่กับจำนวนของสัตว์หรือพื้นหลังทางพันธุกรรมของพวกเขาสามารถได้รับการจัดสรรอย่างถูกต้องให้อาหารสถานีอิเล็กทรอนิกส์สามารถจะดำเนินการหรือการติดตามหลังของหุ้นที่ถูกขโมย (Voulodimos et al., 2010) การศึกษาที่ผ่านมาเพื่อให้สัตว์ขนาดเล็กพร้อมกันของสัตว์เช่นลูกสุกรโดยใช้ระบบป้องกันการชนกันที่ทำให้หลาย ๆ คนการจัดการการเข้าถึงและการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลดาวเทียม พัสดุบรรจุหีบห่อหรือสัตวแพทย์ (Curkendall ที่ 2002) นอกจากนี้ยังผ่านการใช้บัตรประจำตัวสัตว์อิเล็กทรอนิกส์อุดหนุนขึ้นอยู่กับจำนวนของสัตว์หรือพื้นหลังทางพันธุกรรมของพวกเขาสามารถได้รับการจัดสรรอย่างถูกต้องให้อาหารสถานีอิเล็กทรอนิกส์สามารถจะดำเนินการหรือการติดตามหลังของหุ้นที่ถูกขโมย (Voulodimos et al., 2010) การศึกษาที่ผ่านมาเพื่อให้สัตว์ขนาดเล็กพร้อมกันของสัตว์เช่นลูกสุกรโดยใช้ระบบป้องกันการชนกันที่ทำให้หลาย ๆ คนการจัดการการเข้าถึงและการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลดาวเทียม สถานีให้อาหารอิเล็กทรอนิกส์สามารถ จะดำเนินการหรือการติดตามหลังของหุ้นที่ถูกขโมย (Voulodimos et al., 2010) การศึกษาที่ผ่านมาเพื่อให้สัตว์ขนาดเล็กพร้อมกันของสัตว์เช่นลูกสุกรโดยใช้ระบบป้องกันการชนกันที่ทำให้หลาย ๆ คนการจัดการการเข้าถึงและการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลดาวเทียม สถานีให้อาหารอิเล็กทรอนิกส์สามารถ จะดำเนินการหรือการติดตามหลังของหุ้นที่ถูกขโมย (Voulodimos et al., 2010) การศึกษาที่ผ่านมาเพื่อให้สัตว์ขนาดเล็กพร้อมกันของสัตว์เช่นลูกสุกรโดยใช้ระบบป้องกันการชนกันที่ทำให้หลาย ๆ คนการจัดการการเข้าถึงและการป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลดาวเทียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสภาพแวดล้อมทั่วโลก , ความตระหนัก , ความกลัวและการรับรู้ของสัตว์พาหะโรค ( เช่นโรควัวบ้าได้ เท้าและโรคปาก ) อื่นๆการพัฒนาและการใช้ของระบบที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสำหรับการระบุบุคคลและการติดตามของปศุสัตว์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของสัตว์และรวดเร็วผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบริหารงานเป็นได้มี 'rapid ติดตามกลับ ' ' ' ความสามารถในการ บัตรประจำตัวถาวรยังช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการสัตว์มากขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมีขึ้นเพื่อลดการขโมยหลักฐานการครอบครองหุ้น และปรับปรุงความโปร่งใสการรักษาความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสัตว์ผลิตภัณฑ์ ( trevarthen , 2007 )ระบบ RFID ได้รับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุ ติดตามการปศุสัตว์ เนื่องจากสิทธิบัตรแรกได้ถูกพัฒนาขึ้น( hanton และกรอง , 1981 ; มอร์ริสัน และ curkendall , 2001 ) , อิเล็กทรอนิกส์รหัสของวัวกับ RFID ได้รับมากขึ้นและมากขึ้นที่ใช้ตอนนี้เป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในฟาร์มหลาย ( ข้อมู ,2006 ) การพัฒนามาตรฐานได้ช่วยครอบครัวที่ชัดเจนการยอมรับ ( ISO , 1996 , 2003 , 2004 ) ระบบ RFID ยังสามารถปศุสัตว์การขนส่งการติดตามได้เร็วขึ้นสะอาดและ ง่าย กว่าระบบปกติ การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าระบบสามารถให้ความโปร่งใสในการเปิดรับขนส่งสัตว์ปีกและบันทึกเวลาของแต่ละด่านที่ผ่านตามเส้นทางของการขนส่ง ( chansud et al . , 2008 ; wisanmongkolและ pongpaibool , 2009 )รูปแบบดั้งเดิมของตัวสัตว์ ถือว่าด้อยกว่าในการเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี RFID ( trevarthen , 2007 ) แบบดั้งเดิมTags : หูจะหายไป 5 – 60 % ของเวลาในขณะที่หรือสักยี่ห้อโคสามารถเสียหายหรือหายไป ใช้ระบบแบบดั้งเดิมภาพการตรวจสอบและต้องบันทึกด้วยตนเองซึ่งสามารถได้อย่างง่ายดายแนะนำการผิดพลาดของมนุษย์ในขณะที่ต้นทุนค่าแรงของการปฏิบัติดังกล่าว คือยังสูง อ่านข้อผิดพลาดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในหกของทุก100 สัตว์แปรรูปผ่านกลไกแบบดั้งเดิม ในขณะที่อุปกรณ์ RFIDคาดว่าจะผลิตเพียงหนึ่งข้อผิดพลาดสำหรับทุก 1 , 000 สัตว์( trevarthen , 2007 ) มีสี่วิธีพื้นฐานสำหรับการแนบRFID เช่นกับสัตว์ : ปลอกคอส่งสัญญาณ หูแท็กฉีดกระจกเล็ก ๆของสัตว์ เช่น ใต้ผิวหนัง หรือผ่านทาง' ขยาย ' ที่ส่งสัญญาณ RFID ติดตั้งภายในเป็นกรดทน , ทรงกระบอกซึ่งใส่อย่างถาวรภายในที่อยู่อาศัยสัตว์กระเพาะ ( finkenzeller , 2004 ) พัฒนาการใหม่ให้แท็กที่มีขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตร และกับอ่านช่วง 1 M ( มุนเล้ง et al . , 2005 )ในการรวมกันกับซอฟต์แวร์การจัดการฝูง , RFID ในสัตว์ระบบกำหนดรหัสประจำตัวสามารถรวมข้อมูล เช่น ระเบียนการรักษา , ข้อมูลการเจริญเติบโตของสัตว์ข้อมูลสมรรถนะของทุ่งหญ้า , การเคลื่อนไหวของสัตว์ การซื้อ และวันที่ขาย และซาก ข้อมูลป้อนกลับ ผู้อ่านสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โฮสต์ระยะไกล ให้มีประสิทธิภาพ และการเก็บรวบรวมข้อมูลและฐานข้อมูลการจัดการและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้ผลิต ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ , บรรจุหีบห่อ หรือสัตวแพทย์ ( curkendall ,2002 ) นอกจากนี้ยังผ่านการใช้บัตรประจำตัวสัตว์อิเล็กทรอนิกส์เงินอุดหนุนตามจำนวนสัตว์ หรือพื้นหลังทางพันธุกรรมของพวกเขาจะได้รับการจัดสรรอย่างถูกต้อง อิเล็กทรอนิกส์ ป้อนสถานีได้ใช้หรือการติดตามของหุ้น ( voulodimos ถูกขโมยet al . , 2010 )การศึกษาล่าสุดระบุสัตว์ขนาดเล็กให้พร้อมกันสัตว์เช่นสุกร ใช้ anti-collision ระบบที่นำหลาย ๆการจัดการการเข้าถึงและป้องกันการชนกันของสัญญาณข้อมูล