Paphiopedilum callosum seedlings we

Paphiopedilum callosum seedlings were grown on half strength macro- and micro-elements of
Murashige and Skoog (1962) (1/2 MS) medium supplemented with cytokinins 6-benzylaminopurine
(BAP) and 1-phenyl-3-(1,2,3-thiadiazol-5-yl)-urea (TDZ) alone or in combination with auxin, 2,4-
dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D). Three months after incubation, shoots in the medium with 0.5 µM
TDZ produced 1.6 ± 0.40 shoots/explant. In addition, it was found that 1/2 MS medium without plant
growth regulators produced more roots (1.80 ± 0.20) per shoot and longer roots (30.40 ± 8.04 mm) than
1/2 MS with 0.5 µM TDZ combined with 50 µM 2,4-D. The 1/2 MS medium with BAP at 10 and 50 µM
resulted in 2.30 ± 1.42 and 2.20 ± 1.03 shoots/explant, while 1/2 MS medium without plant growth
regulators resulted in 100% root induction with an average 3.70 ± 0.62 roots/explant and mean root
length 34.01 ± 4.87 mm. Overall, BAP appeared to elicit the best shoot multiplication in response with
P. callosum shoot explants compared with either 2,4-D or TDZ. The combined effects of TDZ and BAP
may be worthwhile investigating in future shoot proliferation experiments. Root induction appeared to
be restorable if TDZ is removed and BAP reduced, as the presence of BAP at the lower concentrations
tested did not appear to completely inhibit root induction (unlike TDZ). Hopefully, the current study
will assist with future development of ex situ conservation methods with endangered Thai orchids.
Keywords: Paphiopedilum callosum, in vitro culture, TDZ, 2, 4-D

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รองเท้านารีคางกบกล้าไม้ที่ปลูกบนครึ่งแรงโคไมโครองค์ประกอบของMurashige และ Skoog (1962) (1/2 MS) สื่อเสริม ด้วย cytokinins 6-benzylaminopurine(BAP) และ 1-phenyl-3-(1,2,3-thiadiazol-5-yl)-urea (TDZ) เพียงอย่างเดียว หรือร่วมกับออกซิน 2, 4 -กรด dichlorophenoxyacetic (2, 4-D) สามเดือนหลังจากการบ่มเพาะวิสาหกิจ หน่อในสื่อกับ 0.5 µMTDZ ผลิต 1.6 ± 0.40 ยอด/explant นอกจากนี้ พบกลาง 1/2 MS ที่ไม่ มีโรงงานเร็คกูเลเตอร์เติบโตผลิตรากเพิ่มเติม (1.80 ± 0.20 ต่อยิง) และรากยาว (30.40 ±มม. 8.04) มากกว่าMS 1/2 กับ 0.5 µM TDZ รวมกับ 50 µM 2, 4 ดี กลาง 1/2 MS กับ BAP ที่ 10 และ 50 µMส่งผลให้ 2.30 ± 1.42 และ 2.20 ± 1.03 ยอด/explant ในขณะที่ขนาดกลาง 1/2 MS ไม่เจริญเติบโตของพืชเร็คกูเลเตอร์ให้เหนี่ยวนำราก 100% ค่าเฉลี่ย 3.70 ± 0.62 ราก/explant และรากหมายถึงความยาว 34.01 ± 4.87 mm. โดยรวม BAP ปรากฏเพื่อให้ได้ รับการคูณยิงดีที่สุดในการตอบสนองด้วยคางกบ P. ยิงเปรียบเทียบกับ 2, 4-D หรือ TDZ explants ผลรวมของ TDZ และ BAPอาจจะคุ้มค่าตรวจทดลองยิงแพร่หลายในอนาคต เหนี่ยวนำรากปรากฏให้เป็น restorable ถ้าเอา TDZ และ BAP ลด เป็นสถานะของ BAP ในความเข้มข้นต่ำกว่าทดสอบไม่ปรากฏสมบูรณ์ยับยั้งเหนี่ยวนำราก (ต่างจาก TDZ) หวังว่า การศึกษาปัจจุบันจะช่วยให้ มีการพัฒนาในอนาคตของอดีตวิธีอนุรักษ์ซิกับกล้วยไม้ใกล้สูญพันธุ์คำสำคัญ: รองเท้านารีคางกบ เพาะ TDZ, 2, 4-D

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รองเท้านารี callosum
ต้นกล้าปลูกในครึ่งแมโครความแข็งแรงและองค์ประกอบขนาดเล็กของอาหารสูตรMurashige และ Skoog (1962) (1/2 MS) เสริมด้วย cytokinins 6 benzylaminopurine
(BAP) และ 1-phenyl-3 (1,2,3 -thiadiazol-5-YL) -urea (TDZ) เพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับออกซิน, 2,4-
กรด dichlorophenoxyacetic (2,4-D) สามเดือนหลังจากการบ่มยิงในระยะกลางที่มี 0.5 ไมครอน
TDZ ผลิต 1.6 ± 0.40 หน่อ / ชิ้น นอกจากนี้ยังพบว่า 1/2 สูตร MS
ที่ไม่ปลูกพืชควบคุมการเจริญเติบโตของรากผลิตมากขึ้น(1.80 ± 0.20) ต่อยอดและรากอีกต่อไป (30.40 ± 8.04 มิลลิเมตร) กว่า
1/2 MS ที่ TDZ 0.5 ไมครอนรวมกับ 50 ไมครอน 2 4-D 1/2 MS ขนาดกลางที่มี BAP ที่ 10 และ 50
ไมครอนมีผลใน2.30 ± 1.42 และ 2.20 ± 1.03 หน่อ / ชิ้นขณะที่ 1/2 สูตร MS
โดยไม่ต้องเจริญเติบโตของพืชกำกับดูแลผลในการเหนี่ยวนำราก100% โดยมีค่าเฉลี่ย 3.70 ± 0.62 ราก /
ชิ้นส่วนและหมายถึงรากความยาว34.01 ± 4.87 มิลลิเมตร โดยรวม, BAP
ปรากฏตัวที่จะล้วงเอายิงคูณที่ดีที่สุดในการตอบสนองกับพี callosum ยิงชิ้นเมื่อเทียบกับทั้ง 2,4-D หรือ TDZ ผลรวมของ TDZ และ BAP
อาจจะคุ้มค่าการตรวจสอบต่อไปในอนาคตการขยายการทดลองยิง การเหนี่ยวนำรากที่ดูเหมือนจะเป็น restorable ถ้า TDZ ออกและ BAP ลดลงขณะที่การปรากฏตัวของ BAP ที่มีความเข้มข้นต่ำกว่าการทดสอบไม่ปรากฏว่าสมบูรณ์ยับยั้งการเหนี่ยวนำราก(เหมือน TDZ) หวังว่าการศึกษาในปัจจุบันจะช่วยให้มีการพัฒนาในอนาคตของวิธีการอนุรักษ์แหล่งกำเนิดอดีตกับกล้วยไม้ไทยที่ใกล้สูญพันธุ์. คำสำคัญ: รองเท้านารีคางกบในหลอดทดลองวัฒนธรรม TDZ, 2, 4-D

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รองเท้านารีขาวสตูลต้นกล้าปลูกในแมโคร - แรงครึ่งหนึ่งและองค์ประกอบขนาดเล็กของอาหารสูตร Murashige and Skoog ( 1962 )
( 1 / 2 ms ) เติมไซโตไคนิน 6-benzylaminopurine
( BAP ) และ 1-phenyl-3 - ( 1,2,3-thiadiazol-5-yl ) ยูเรีย ( TDZ ) คนเดียวหรือใช้ร่วมกับออกซิน -
2 , 4 , dichlorophenoxyacetic acid ( 2 , 4-D ) สามเดือนหลังจากบ่ม ยิงในกลาง 0.5 µ M
ยอดผลิต 16 ± 0.40 ยอด / ชิ้นส่วนพืช . นอกจากนี้ยังพบว่า 1 / 2 MS ที่ปราศจากสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
ผลิตรากมากขึ้น ( 1.80 ± 0.20 ) ต่อต้น และรากยาว ( 30.40 ± 38 มม. กว่า )
1 / 2 นางสาว 0.5 µ M ดัดแปลงรวมกับ 50 µ M 2 , 4-D 1 / 2 สูตร MS ที่มี BAP 10 และ 50 µ M
( 2.30 ± 1.42 และ 2.20 ± 1.03 ยอด / ชิ้นส่วนพืช ในขณะที่ 1 / 2 MS ที่ปราศจาก
การเจริญเติบโตของพืชควบคุมผล 100% ชักนำรากเฉลี่ย 3.70 ±ระหว่างรากและราก
/ ต่อหมายถึงความยาว 34.01 ± 4.87 มิลลิเมตร โดยรวม และดูเหมือนจะกระตุ้นคูณยิงที่ดีที่สุดในการตอบสนองกับ
หน้าคาโลซัมยิง เลี้ยง เมื่อเทียบกับทั้ง 2 หรือ TDZ . ผลรวมของยอดและ BAP
อาจจะคุ้มค่าการตรวจสอบในการทดลองการยิงต่อไปชักนำรากปรากฏว่า
เป็นผู้ช่วยฟื้นฟู ถ้ายอดจะถูกลบออกและ BAP ลดลงเป็นตนที่ลดความเข้มข้นของ BAP
ทดสอบไม่ปรากฏสมบูรณ์ยับยั้งการเหนี่ยวนำราก ( ซึ่งแตกต่างจากยอด ) หวังว่า
การศึกษาในปัจจุบัน จะช่วยในการพัฒนาในอนาคตของวิธีการการอนุรักษ์อดีตกับกล้วยไม้ไทยใกล้สูญพันธุ์
คำสำคัญ : รองเท้านารีขาวสตูล , วัฒนธรรม , การดัดแปลง , 2 , 4-D