By the Han period, Taoism took on c

By the Han period, Taoism took on connotations of magic as well. The Taoist religion aimed to enhance vitality and life by living in accord with nature's shifting balance. Legends arose that Taoist masters learned to extend their lives indefinitely, to fly through the clouds, to become invisible. In the late Han period, a fragmentary anonymous work called, A Chart of the Magic Art of Being Invisible appears, apparently a compendium of the techniques of the Taoist adepts (see Birrell 41). Many of these beliefs originated in literal readings of the Tao-te Ching and the Chuang-Tzu--especially in passages that were probably meant to be read allegorically. In any case, hordes of alchemists and magicians streamed into the Han courts where they attempted to refine crass material substances and make men immortal. From the imagery in Taoist poetry, they created a complex symbolism based on red. The holy color red represented the alchemical furnace and its beautiful, red-robed patron goddess. Another common symbol was the Manchurian crane, a symbol of longevity with the red spot of divinity on its crown. Cinnabar, that red compound of mercury and sulfur, was thought to have magical potency because it could be turned into a silvery liquid and then back into a solid. They valued gold--one of the few substances known to be indestructible (Schafer 62). They experimented with jade, which traditionally had preservative powers against decay.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยช่วงเวลาฮัน, เต๋าเอาในความหมายของเวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี ศาสนาหมายถึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพลังและมีชีวิตโดยอาศัยอยู่ในสอดคล้องกับความสมดุลของธรรมชาติขยับ ตำนานเกิดขึ้นที่โทหมายถึงเรียนรู้ที่จะขยายชีวิตของพวกเขาไปเรื่อย ๆ จะบินผ่านเมฆจะกลายเป็นมองไม่เห็น ในช่วงเวลาฮันสายงานที่ไม่ระบุชื่อเป็นชิ้นเป็นอันที่เรียกว่าแผนภูมิของศิลปะมายากลของการเป็นที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นให้เห็นได้ชัดว่าบทสรุปของเทคนิคของการอุทิศตัวหมายถึง (ดู birrell 41) หลายความเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นในการอ่านที่แท้จริงของเต่า-Te Ching และ Chuang-tzu - โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเดินที่อาจมีความหมายที่จะอ่าน allegorically ในกรณีใด ๆพยุหะของนักเล่นแร่แปรธาตุและนักมายากลสตรีมลงไปในสนามฮันที่พวกเขาพยายามที่จะปรับแต่งสารวัสดุหยาบและทำให้คนที่เป็นอมตะ จากภาพในบทกวีหมายถึงพวกเขาสร้างสัญลักษณ์ซับซ้อนขึ้นอยู่กับสีแดง สีแดงศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวแทนของเตาเล่นแร่แปรธาตุและสวยงามสีแดงเสื้อคลุมเทพธิดาผู้มีพระคุณของ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่พบมากเป็นเครนแมนจูเรียสัญลักษณ์ของอายุยืนด้วยจุดสีแดงของพระเจ้าบนมงกุฎของ ชาด, ว่าสารสีแดงของปรอทและกำมะถันเป็นความคิดที่มีความแรงขลังเพราะมันอาจจะกลายเป็นของเหลวสีเงินและจากนั้นกลับเข้ามาในที่มั่นคง พวกเขามีมูลค่าทอง - หนึ่งในสารไม่กี่ที่รู้จักกันจะไม่สามารถทำลายได้ (Schafer 62) พวกเขาทดลองกับหยกซึ่งเป็นประเพณีที่มีอำนาจกับการสลายตัวของสารกันบูด
.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยระยะเวลาฮั่น Taoism เอาบนหมายถึงวิเศษเช่น ศาสนาเต๋ามีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพลัง และชีวิต โดยอาศัยอยู่ในสอดคล้องกับธรรมชาติของขยับยอดดุล ตำนานเกิดขึ้นว่า ต้นเต๋ารู้ต่อชีวิตของพวกเขาโดยไม่จำกัดเวลา บินผ่านเมฆ หาย ในช่วงปลายของฮั่น งานไม่ fragmentary เรียก แผนภูมิของการมหัศจรรย์ศิลปะของการมองแล้ว เห็นได้ชัดว่า ย่อเทคนิคของ adepts เต๋า (ดู Birrell 41) หลายความเชื่อเหล่านี้มาในอ่านตามตัวอักษรของชิงเต่าติและสำนักงานใหญ่ในช่วงซู่ — โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางเดินที่ได้อาจหมายถึงการอ่าน allegorically ในกรณีใดๆ ส่งกระแสพยุหะของ alchemists และมายากลข้อมูลเป็นฮั่นศาลที่พวกเขาพยายามที่จะคัดสรรสาร crass วัสดุ และทำให้มนุษย์เป็นอมตะ จากภาพในบทกวีเต๋า พวกเขาสร้างสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนขึ้นอยู่กับสีแดง ศักดิ์สิทธิ์สีแดงแทนเตา alchemical และเทพธิดาสวยงาม สีแดง robed สมาชิกของ สัญลักษณ์อื่นทั่วไปเครน Manchurian เป็นสัญลักษณ์ของลักษณะ มีจุดสีแดงของ divinity ในมงกุฎนั้น Cinnabar สารประกอบที่สีแดงของสารปรอทและกำมะถัน ไม่คิดว่า จะมีศักยภาพของขลัง เพราะมันสามารถเปลี่ยนน้ำยาเงิน และกลับเป็นของแข็ง พวกเขามูลค่าทอง - สารบางอย่าง ทำลาย (Schafer 62) อย่างใดอย่างหนึ่ง พวกเขาเบื้องกับ jade ซึ่งประเพณีมี preservative อำนาจกับผุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยช่วงเวลาที่หาญลัทธิเต๋าในความหมายของ Magic เป็นอย่างดี ศาสนา Taoist ที่เพื่อเป็นการเสริมสร้างชีวิตและกระปรี้กระเปร่าโดยอาศัยอยู่ในแนวทางของธรรมชาติด้วยการเปลี่ยนความสมดุล ตำนานที่ลุกขึ้นมาสเตอร์ Taoist เรียนรู้ที่จะขยายความเป็นอยู่ของพวกเขาไม่มีกำหนดจะบินผ่านก้อนเมฆที่จะทำให้มองไม่เห็น ในช่วงเวลาที่หาญทำงานแบบไม่ระบุชื่อกระท่อนกระแท่นที่เรียกว่าแผนที่น่ามหัศจรรย์ใจของศิลปะของการล่องหนจะปรากฏขึ้นเห็นได้ชัดว่าบทสรุปของเทคนิคของ adepts Taoist (ดูที่ birrell 41 ) จำนวนมากของความเชื่อเหล่านี้มีต้นกำเนิดในการอ่านตามตัวหนังสือของชิงเต่า - TE และ chuang-tzu โดยเฉพาะในทางเดินที่อยู่จะอ่าน allegorically อาจจะ ในกรณีใดๆพยุหเสนาของนักแสดงกลและนักเล่นแร่แปรธาตุสตรีมเข้าสู่สนาม Han สถานที่ซึ่งพวกเขาพยายามที่จะแก้ไขสารทึบและวัสดุทำให้คนเป็นอมตะ จาก ภาพ ในบทกวี Taoist พวกเขาสร้างสัญลักษณ์คอมเพล็กซ์ที่ใช้สีแดง สีแดงบริสุทธิ์แทนเตาหลอม alchemical และเทพธิดาผู้อุปการะสีแดงสวมชุดที่สวยงาม สัญลักษณ์ทั่วไปอีกคนหนึ่งถูกปั้นจั่นชาวแมนจูได้สัญลักษณ์ของแบตเตอร์ควบคู่กันไปด้วยจุดสีแดงของพระเจ้าใน Crown ได้ เสนที่ผสมสีแดงของกำมะถันและสารปรอทก็คิดว่าจะมีแรงน่ามหัศจรรย์ใจเพราะมันไม่ได้เปิดเข้าไปในของเหลวสีเงินและจากนั้นจึงกลับเข้าไปในที่แข็งแกร่ง พวกเขามีมูลค่าทองซึ่งเป็นหนึ่งในสารไม่มากนักที่รู้จักกันในชื่อจะไม่สามารถจะทำลายได้( schafer 62 ) พวกเขาทดลองพร้อมด้วยสีเขียวหยกซึ่งเป็นความโดดเด่นตามแบบดั้งเดิมมีอำนาจสารกันบูดกับฟันผุ.