Evaluative forensic science opinion

Evaluative forensic science opinions should be presented in a form that can be accommodated within that process of criminal proof demanded by judges and applied by juries. This is a non-mathematical inductive process that seeks‘the inference to best explanation’ to a standard of proof beyond reasonable doubt. The question posed is not the mathematical probability of the prosecution hypothesis but whether, having regard to all the evidence properly before the court, the prosecution hypothesis is the only explicable hypothesis, in the sense that no reasonably possible defence hypothesis remains open. To ensure that a jury remains focused on applying this legal standard it is argued that evaluative forensic science evidence tendered by the prosecution should be expressed not as a likelihood ratio that emphasises the greater likelihood offinding evidence if the prosecution’s contentions are true, but in a form that emphasises the ranges of explanations for the evidence consistent with the defence case and that must be excluded as a reasonable possibility having regard to all the evidence before the accused can be convicted. It is argued that this can be achieved through expression in terms of a frequency or range.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดเห็นประเมินทั้งภาพนิติวิทยาศาสตร์ควรนำเสนอในรูปแบบที่สามารถเข้าพักภายในที่กระบวนการในการพิสูจน์ความผิดทางอาญาโดยคณะกรรมการตัดสิน และใช้ โดย juries นี้เป็นกระบวนการอุปนัยทางคณิตศาสตร์ไม่ใช่สรุปว่า seeks'the การอธิบายที่ดีที่สุด ' ที่มีมาตรฐานในการพิสูจน์ที่สมเหตุสมผลไม่ต้องสงสัย หมาดไม่น่าฟ้องร้องสมมติฐานทางคณิตศาสตร์ แต่ ยทั้นหลักฐานทุกอย่างถูกต้องก่อนศาล คดีสมมติฐานว่าสมมติฐานเฉพาะการตี ในแง่ที่ว่า ไม่มีเหตุผลสมควรป้องกันสมมติฐานยังคงเปิดอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่า คณะกรรมการยังคงเน้นใช้มาตรฐานนี้กฎหมายมันจะโต้เถียงว่า ควรแสดงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ประเมินทั้งภาพสถานะ โดยการฟ้องร้องไม่ได้เป็นอัตราส่วนโอกาสที่เน้นมากขึ้นโอกาส offinding หลักฐานหาก contentions ของคดีเป็นจริง แต่ในรูปแบบที่เน้นช่วงของคำอธิบายสำหรับหลักฐานที่สอดคล้องกับการป้องกัน กรณีและที่ต้องยกเว้นเป็นไปได้เหมาะสมยทั้นหลักฐานทั้งหมดก่อนการ สามารถจะตัดสินผู้ถูกกล่าวหา มันเป็นที่โต้เถียงว่า นี้สามารถทำได้ โดยการแสดงออกในแง่ของความถี่หรือช่วง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเมินความคิดเห็นของนิติวิทยาศาสตร์ควรจะนำเสนอในรูปแบบที่สามารถอาศัยในกระบวนการของการพิสูจน์ความผิดทางอาญาที่ต้องการของผู้พิพากษานั้นและนำมาใช้โดยคณะลูกขุน นี้เป็นกระบวนการที่ไม่ใช่อุปนัยทางคณิตศาสตร์ที่อนุมาน seeks'the คำอธิบายที่ดีที่สุด 'ให้มีมาตรฐานของการพิสูจน์ข้อกังขา คำถามที่ถูกวางไม่น่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ของสมมติฐานการฟ้องร้อง แต่ไม่ว่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับหลักฐานทั้งหมดอย่างถูกต้องก่อนที่ศาลสมมติฐานการฟ้องร้องเป็นเพียงสมมติฐานอธิบายได้ในแง่ที่ว่าไม่มีการป้องกันสมมติฐานที่เป็นไปได้พอสมควรยังคงเปิดอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าคณะลูกขุนยังคงมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้มาตรฐานทางกฎหมายนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ประเมินเจตนาขายโดยการฟ้องร้องควรจะแสดงไม่ได้เป็นอัตราส่วนที่เน้นความเป็นไปได้มากขึ้น offinding หลักฐานถ้าโต้แย้งของโจทก์เป็นจริง แต่ในรูปแบบที่ ที่เน้นช่วงของคำอธิบายสำหรับหลักฐานที่สอดคล้องกับกรณีการป้องกันและการที่จะต้องได้รับการยกเว้นเป็นไปได้ที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงหลักฐานทั้งหมดก่อนที่จะถูกกล่าวหาว่าสามารถตัดสินลงโทษ มันเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่านี้สามารถทำได้ผ่านการแสดงออกในแง่ของความถี่หรือช่วง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเมินผลนิติวิทยาศาสตร์ความคิดเห็นควรจะนำเสนอในรูปแบบที่สามารถอาศัยในที่กระบวนการพิสูจน์ความผิดทางอาญาที่เรียกร้องโดยผู้พิพากษาและประยุกต์โดยคณะลูกขุน . นี่ไม่ใช่คณิตศาสตร์อุปนัยขั้นตอนที่ seeks"the อนุมานจะอธิบายที่ดีที่สุดเป็นมาตรฐานการพิสูจน์ข้อสงสัย . คำถามที่ posed ไม่ใช่ความน่าจะเป็นทางคณิตศาสตร์ของอัยการสมมติฐานว่า มีเหตุให้หลักฐานทั้งหมดอย่างถูกต้องก่อนที่ศาล โจทก์เป็นเพียงสมมติฐานสมมติฐาน explicable ในความรู้สึกที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดการป้องกันสมมติฐานยังคงเปิดอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่า คณะลูกขุนยังคงมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้มาตรฐานทางกฎหมายนี้เป็นแย้งว่าประเมินนิติวิทยาศาสตร์หลักฐานเสนอโดยอัยการควรแสดงออกไม่เป็นโอกาส อัตราส่วนที่เน้นมากขึ้นโอกาส offinding หลักฐานหากมีข้อโต้แย้งของโจทก์จริง แต่ในแบบฟอร์มที่เน้นช่วงของคำอธิบายสำหรับหลักฐานที่สอดคล้องกับการป้องกัน กรณีซึ่งต้องแยกออกเป็นโอกาสที่เหมาะสม มีการพิจารณาหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่ผู้ต้องหาจะกระทำผิด มันเป็นที่ถกเถียงกันว่า นี้สามารถทำได้ผ่านการแสดงออกในแง่ของความถี่ หรือช่วง