Material loss in the production ref

Material loss in the production refers to non-productive or nonefficient
use of materials extracted from nature. MFCA is a tool that
can identify the cost of production in each sub-process as well as
categorize positive and negative products cost. For example, some
company that just applies MFCA found that its positive product is
70 percent whereas negative product can be up to 30 percent. If the
company can improve material efficiency or reduce their material
loss, their negative cost will reduce (meaning increase in profit).
This information can assist the decision making process of the top
management of the company on whether is it cost effective to
invest in reducing material loss and can help reduce negative
product cost

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สูญเสียวัตถุดิบในการผลิตหมายถึงผลิตผล หรือ nonefficientใช้วัสดุที่สกัดจากธรรมชาติ MFCA เป็นเครื่องมือที่สามารถระบุต้นทุนการผลิตในแต่ละกระบวนการย่อยรวมทั้งประเภทต้นทุนของผลิตภัณฑ์บวก และลบ ตัวอย่าง บางบริษัทที่ใช้ MFCA เพียงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของบวกร้อยละ 70 ในขณะที่สินค้าติดลบได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าการบริษัทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพวัสดุ หรือลดวัสดุของพวกเขาขาดทุน ต้นทุนของค่าลบจะลด (ความหมายเพิ่มกำไร)ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้การตัดสินใจทำการด้านบนจัดการของบริษัทว่าเป็นมันแพงไปลงทุนในการลดการสูญเสียวัสดุ และสามารถช่วยลดค่าลบต้นทุนผลิตภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสูญเสียวัตถุดิบในการผลิตหมายถึงการที่ไม่ใช่การผลิตหรือ nonefficient
การใช้วัสดุที่สกัดจากธรรมชาติ MFCA เป็นเครื่องมือที่สามารถระบุค่าใช้จ่ายของการผลิตในแต่ละขั้นตอนย่อยเช่นเดียวกับประเภทผลิตภัณฑ์บวกและลบค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่นบางบริษัท ที่เพิ่งใช้ MFCA พบว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นบวกร้อยละ70 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ในเชิงลบได้ถึงร้อยละ 30 หากบริษัท สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของวัสดุหรือลดวัสดุของพวกเขาสูญเสียค่าใช้จ่ายเชิงลบของพวกเขาจะลด(หมายถึงการเพิ่มขึ้นของกำไร). ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้กระบวนการตัดสินใจของด้านบนจัดการของ บริษัท ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพในการลงทุนในการลดการสูญเสียวัตถุดิบและสามารถช่วยลดเชิงลบต้นทุนผลิตภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูญเสียวัสดุในการผลิต หมายถึง ไม่มีการผลิต หรือ nonefficient
ใช้วัสดุที่สกัดจากธรรมชาติ mfca เป็นเครื่องมือที่
สามารถระบุต้นทุนการผลิตในแต่ละกระบวนการย่อยเช่นเดียวกับ
จัดหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์บวกและลบต้นทุน ตัวอย่างเช่นบาง บริษัท ที่เพิ่งใช้
mfca พบว่า ผลิตภัณฑ์บวกของมัน
70 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่สินค้าติดลบได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์หาก บริษัท สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของวัสดุหรือ

ลดการสูญเสียวัตถุดิบ ต้นทุนของค่าลบจะลด ( ความหมายเพิ่มกำไร ) .
ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้กระบวนการตัดสินใจของผู้บริหาร
ของ บริษัท ในว่ามันคือค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อ
ลงทุนในลดการสูญเสียวัสดุและสามารถช่วยลดต้นทุนของผลิตภัณฑ์ลบ