Thailand had been a kingdom under a

Thailand had been a kingdom under absolute monarchy for over seven centuries before 1932.
As a result of imperialism, the kings began a reform at some degrees. The king was the president of the government, consulted with his counsillors, mainly his relatives. Though the significant reform happened in the Rama V's reign, the kingdom still had no national assembly. The men of the royal blood held the positions in the government as ministers. The situation became tense after the World War I. The economic crisis attacked the country. The young generation of students and intellectuals studying in Europe began criticizing the crown's government as backward, corrupt, and ineffective. On June 24, 1932, troops in Bangkok seized government buildings and some key ministers. The so-called 1932 Revolution took place. Its leaders were both bureaucrats and young military officers, crying for the national reform, including the first written constitution. After negotiation with the king, Rama VII, and the kingdom's elite, the changes took place, ending absolute rule by the king. The king remained the titular head of state, but the constitutional government ruled the country with the prime minister as its head. The general election was held with the birth of the first national assembly.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยเคยเป็นราชอาณาจักรภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มานานกว่าเจ็ดศตวรรษก่อน 1932.
เป็นผลมาจากลัทธิจักรวรรดินิยมกษัตริย์เริ่มปฏิรูปที่องศาบาง กษัตริย์เป็นประธานของรัฐบาลปรึกษากับ counsillors ของเขาส่วนใหญ่เป็นญาติของเขา แม้ว่าการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระรามวีราชอาณาจักรยังคงไม่ได้มีสมัชชาแห่งชาติคนเลือดพระราชดำรงตำแหน่งในรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลายเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ฉัน วิกฤตเศรษฐกิจทำร้ายประเทศ คนรุ่นใหม่ของนักศึกษาและปัญญาชนที่กำลังศึกษาอยู่ในยุโรปเริ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมงกุฎในฐานะย้อนหลังเสียหายและไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1932,ทหารในกรุงเทพฯยึดสถานที่ราชการและบางส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่สำคัญ ที่เรียกว่าการปฏิวัติ 1932 ที่เกิดขึ้น ผู้นำทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทหารหนุ่มร้องไห้เพื่อการปฏิรูประดับชาติรวมทั้งรัฐธรรมนูญครั้งแรกที่เขียน หลังจากการเจรจาต่อรองกับกษัตริย์พระราม vii, และยอดของอาณาจักรการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสิ้นสุดระบอบการปกครองโดยพระมหากษัตริย์กษัตริย์ยังคงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าของรัฐ แต่รัฐบาลตามรัฐธรรมนูญปกครองประเทศกับนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าของ การเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นกับการเกิดของสมัชชาแห่งชาติเป็นครั้งแรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยเคยเป็นอาณาจักรภายใต้สมบูรณาญาสิทธิราชย์เจ็ดศตวรรษก่อน 1932.
จากลัทธิจักรวรรดินิยม กษัตริย์เริ่มปฏิรูปในบางองศา พระประธานของรัฐบาล ขอคำปรึกษากับเขา counsillors ส่วนใหญ่เป็นญาติได้ แม้ว่าการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นในรัชกาลของจุลจอมเกล้า ราชอาณาจักรยังมีสมัชชาแห่งชาติไม่ คนของราชตระกูลจัดตำแหน่งในรัฐบาลเป็นรัฐมนตรี สถานการณ์เริ่ม ตึงเครียดหลังจากสงครามโลก วิกฤตเศรษฐกิจโจมตีประเทศ คนรุ่นใหม่ของนักศึกษาและนักวิชาการศึกษาในยุโรปเริ่มวิจารณ์รัฐบาลของคราวน์ย้อนหลัง เสียหาย และไม่มีประสิทธิภาพ บน 24 มิถุนายน 1932 ทหารในกรุงเทพยึดอาคารรัฐบาลและรัฐมนตรีบางคีย์ การปฏิวัติปี 1932 เรียกเอาสถาน Bureaucrats และหนุ่มทหารหน้าที่ ร้องไห้สำหรับการปฏิรูปแห่งชาติ รวมถึงรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษรครั้งแรกของผู้นำได้ หลังจากเจรจากับกษัตริย์ พระราม VII และชนชั้นสูงของราชอาณาจักร การเปลี่ยนแปลงเอาเพลส กฎสัมบูรณ์โดยสิ้นสุด พระมหากษัตริย์ยังคง titular ประมุขแห่งรัฐ แต่รัฐบาลรัฐธรรมนูญปกครองประเทศ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าของ การเลือกตั้งทั่วไปถูกจัดขึ้น ด้วยการเกิดของสมัชชาแห่งชาติครั้งแรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยได้รับการราชอาณาจักร ภายใต้ ระบบราชาธิปไตยอย่างแท้จริงสำหรับในช่วงเวลาหลายศตวรรษก่อน .1932 .
เป็นผลมาจากลัทธิกษัตริย์ที่เริ่มการปฏิรูปที่องศาบางอย่าง กษัตริย์ที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของรัฐบาลที่ปรึกษากับ counsillors ญาติของเขาเขาเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าการปฏิรูปอย่างมีนัยสำคัญที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ที่ประเทศไทยจะยังไม่มีชุดประจำชาติคนที่มีเลือด Royal ที่ซึ่งจัดขึ้นที่ตำแหน่งในรัฐบาลที่เป็นรัฐมนตรี สถานการณ์ที่ตึงเครียดหลังจากกลายเป็นสงครามโลกที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่ถูกโจมตีประเทศ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของนักเรียนและปัญญาชนการศึกษาในยุโรปเริ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของ Crown ย้อนหลังไปเป็นความเสียหายและไม่มี ประสิทธิภาพ บนวันที่ 24 มิถุนายน .1932ทหารในกรุงเทพฯยึดอาคารรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีสำคัญบางประการ .1932 การปฏิวัติที่เรียกกันว่าได้เกิดขึ้น ผู้นำของตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารและเจ้าหน้าที่ผู้ร้องให้มีการปฏิรูประดับชาติรวมถึงรัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นครั้งแรกได้ หลังจากการเจรจาต่อรองกับกษัตริย์รัชกาลที่๗และสโมสรชั้นนำของประเทศไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นการสิ้นสุดการทำงานไม่ว่าในกรณีใดๆกฎโดยกษัตริย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดีหัวโดยตำแหน่งที่ของรัฐแต่รัฐบาลรัฐธรรมนูญปกครองประเทศที่มีนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าของพื้นที่ การเลือกตั้งทั่วไปที่มีขึ้นพร้อมด้วยการเกิดของที่ประชุมแห่งชาติครั้งแรกที่