A dialplan function is needed here

A dialplan function is needed here instead of just a simple variable since the CallerID information is stored in data structures on the instance of ast_channel. The dialplan function code knows how to set and retrieve the values from these data structures.

Another example of using a dialplan function is for adding custom information into the call logs, which are referred to as CDRs (Call Detail Records). The CDR function allows the retrieval of call detail record information, as well as adding custom information.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟังก์ชัน dialplan ต้องที่นี่แทนเพียงตัวแปรง่ายเนื่องจากเก็บข้อมูล CallerID ในโครงสร้างข้อมูลบนอินสแตนซ์ของ ast_channel รหัสฟังก์ชัน dialplan รู้วิธีตั้งค่า และรับค่าจากโครงสร้างข้อมูลเหล่านี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการใช้ฟังก์ชัน dialplan สำหรับการเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเองลงในแฟ้มบันทึกการโทร ซึ่งจะเรียกว่า CDRs (เรียกระเบียนรายละเอียด) ฟังก์ชัน CDR เรียกโทรรายละเอียดบันทึกข้อมูล รวมทั้งข้อมูลที่กำหนดเองเพิ่มได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังก์ชั่น dialplan เป็นสิ่งจำเป็นที่นี่แทนเพียงตัวแปรง่ายตั้งแต่ CallerID ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในโครงสร้างข้อมูลในตัวอย่างของ ast_channel รหัสฟังก์ชัน dialplan รู้วิธีการตั้งค่าและเรียกค่าจากข้อมูลเหล่านี้โครงสร้าง. ตัวอย่างของการใช้ฟังก์ชั่น dialplan อีกอย่างหนึ่งคือการเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเองลงบันทึกการโทรซึ่งจะเรียกว่า CDRs (โทรรายละเอียดเรคคอร์ด) ฟังก์ชั่น CDR ช่วยดึงข้อมูลบันทึกรายละเอียดการโทรเช่นเดียวกับการเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็น dialplan ฟังก์ชันที่นี่ต้องการ แทนที่จะเป็นแค่ตัวแปร เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในโครงสร้าง CallerID ข้อมูลในอินสแตนซ์ของ ast_channel . การ dialplan ฟังก์ชัน รหัส รู้วิธีการตั้งค่าและเรียกค่าที่ได้จากข้อมูลเหล่านี้ โครงสร้าง

อีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ dialplan ฟังก์ชันสำหรับการเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเองลงในบันทึกการโทร ,ซึ่งจะเรียกว่า CDRs ( บันทึกการโทรรายละเอียด ฟังก์ชัน CDR ให้เรียกข้อมูลบันทึกรายละเอียดโทร ตลอดจนการเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเอง