AbstractTwo cases of human fungal i

Abstract
Two cases of human fungal infections caused by members of the genus Phialemonium, a genus proposed by Gams and McGinnis (1983) for fungi intermediate between the genera Acremonium and Phialophora, are presented. The first case was a phaeohyphomycotic cyst on the foot of a renal transplant recipient. The fungus was detected by direct examination and histopathology and was recovered by several procedures over 4 months. It was flat, glabrous, and white becoming yellow with the production of a diffusible yellow pigment; it had conidiophores that were mostly solitary and lateral and terminal phialides and adelophialides with distinct collarettes producing cylindrical to curved conidia. The isolate resembled both Phialemonium dimorphosporum and Phialemonium curvatum, although its characteristics were more consistent with those of the latter. The second case was peritonitis in a renal transplant recipient. The fungus was white-to-cream colored and yeast like, but later became black with a green diffusible pigment, and produced obovoid conidia; it was easily identified as Phialemonium obovatum. Difficulties encountered in the identification and taxonomy of members of this genus highlight the need for standardized conditions, e.g., potato dextrose agar culture incubated at 24 to 25 degrees C for morphologic comparisons, to control significant variations due to culture conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อมีแสดงสองกรณีของมนุษย์ติดเชื้อราเกิดจากสมาชิกของสกุล Phialemonium สกุลที่เสนอ โดย Gams และ McGinnis (1983) สำหรับเชื้อรากลางระหว่างในสกุล Acremonium และ Phialophora กรณีแรก phaeohyphomycotic ถุงน้ำที่เท้าของผู้รับการปลูกถ่ายไตได้ เชื้อราตรวจพบ โดยการตรวจสอบโดยตรงและจุลพยาธิวิทยา และถูกกู้คืน ด้วยหลายขั้นตอนกว่า 4 เดือน แบน glabrous และสีขาวเป็นสีเหลือง ด้วยผงสีเหลือง diffusible มันมี conidiophores ที่ได้ส่วนใหญ่ปัจเจก และด้านข้าง และเทอร์มินัล phialides และ adelophialides กับ collarettes มาผลิตให้ conidia โค้งทรงกระบอก แยกคล้ายกับ Phialemonium dimorphosporum และ Phialemonium curvatum ถึงแม้ว่าลักษณะของมันได้มากขึ้นสอดคล้องกับหลัง กรณีที่สองมี peritonitis ในผู้รับการปลูกถ่ายไต เชื้อรามีสีขาวกับครีมสียีสต์ชอบ แต่ภายหลังกลายเป็นสีดำ มีเม็ดสี diffusible เป็นสีเขียว และผลิต obovoid conidia ง่าย ๆ มันก็ระบุไว้เป็น Phialemonium obovatum ปัญหาพบในการระบุและจำแนกประเภทของสมาชิกของสกุลนี้จุดเด่นต้องการเงื่อนไขมาตรฐาน เช่น มันฝรั่งขึ้น agar วัฒนธรรม incubated ที่ 24-25 องศา C สำหรับ morphologic เปรียบเทียบ การควบคุมความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากวัฒนธรรมเงื่อนไข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อสองกรณีของการติดเชื้อราที่เกิดจากมนุษย์สมาชิกประเภท Phialemonium ที่สกุลเสนอโดย Gams และ McGinnis (1983) สำหรับเชื้อรากลางระหว่างสกุล Acremonium และ Phialophora จะนำเสนอ
กรณีแรกเป็นถุง phaeohyphomycotic บนเท้าของผู้รับการปลูกถ่ายไต เชื้อราที่ตรวจพบโดยการตรวจทางตรงและจุลพยาธิวิทยาและได้รับการกู้คืนโดยหลายขั้นตอนกว่า 4 เดือน มันเป็นแบนหัวล้านและสีขาวกลายเป็นสีเหลืองที่มีการผลิตเม็ดสีเหลืองแพร่นั้น มันมี conidiophores ที่ส่วนใหญ่เป็นโดดเดี่ยวและด้านข้างและ phialides terminal และ adelophialides กับการผลิตที่แตกต่างกัน collarettes ทรงกระบอกจะ conidia โค้ง แยกคล้าย dimorphosporum Phialemonium และ Phialemonium curvatum แม้ว่าลักษณะของมันได้มากขึ้นสอดคล้องกับบรรดาของหลัง กรณีที่สองคือเยื่อบุช่องท้องในผู้รับการปลูกถ่ายไต เชื้อราเป็นสีขาวไปสีครีมและยีสต์เหมือน แต่ต่อมากลายเป็นสีดำกับสีเขียวแพร่และผลิตสปอร์ obovoid; มันก็ระบุได้อย่างง่ายดายเป็น Phialemonium obovatum ปัญหาที่พบในการระบุและอนุกรมวิธานของสมาชิกประเภทนี้เน้นถึงความจำเป็นสำหรับเงื่อนไขที่ได้มาตรฐานเช่นวัฒนธรรม dextrose agar มันฝรั่งบ่มที่ 24-25 องศาเซลเซียสสำหรับการเปรียบเทียบรูปร่างในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสภาพวัฒนธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
2 กรณีของมนุษย์ เชื้อราการติดเชื้อเกิดจากสมาชิกของสกุล phialemonium , สกุลและเสนอโดย Gams เมิ่กกีเนิส ( 1983 ) กลางระหว่างสกุลโรคเชื้อรา และไฟ โลโฟร่า , นำเสนอ กรณีแรก คือ ซีสต์ phaeohyphomycotic บนเท้าของผู้รับการปลูกถ่ายไตเชื้อราที่ตรวจพบโดยการสอบตรงและการเปลี่ยนแปลงและกู้คืนโดยวิธีการหลายกว่า 4 เดือน มันแบน glabrous สีขาวกลายเป็นสีเหลืองกับการผลิตของซ่านสีเหลืองสี มันมี conidiophores ที่ส่วนใหญ่โดดเดี่ยวและด้านข้างและปลาย phialides adelophialides แตกต่างกันและกับ collarettes การผลิตเพื่อสร้างรูปทรงกระบอกโค้งแยกมีทั้ง phialemonium และ dimorphosporum phialemonium curvatum ถึงแม้ว่าลักษณะของมันมีมากขึ้นสอดคล้องกับที่หลัง คดีที่สองเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบในผู้รับการปลูกถ่ายไต . เชื้อราและยีสต์ เช่น สีขาว สีครีม แต่ภายหลังก็กลายเป็นสีดำกับสีเขียว ซ่านสี และผลิต obovoid โคนิ ;มันได้อย่างง่ายดายระบุเป็น phialemonium obovatum . ปัญหาที่พบในการจำแนกและอนุกรมวิธานของสมาชิกประเภทนี้เน้นความต้องการเงื่อนไขมาตรฐาน เช่น อาหาร potato dextrose agar เพาะบ่มที่อุณหภูมิ 24 - 25 องศา C การเปรียบเทียบรูปร่าง เพื่อควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเนื่องจากสภาพวัฒนธรรม