When matter undergoes transformatio

When matter undergoes transformations that change its chemical and physical properties then that transformation was brought about by a chemical reaction. On the other hand chemical reactions can only take place if there is sufficient energy to make the reaction proceed. Therefore energy is a prerequisite for chemical reactions.

Energy can come in many forms e.g., heat, work, light, kinetic, potential, chemical etc.. Moreover, energy can itself transform among these various forms. For example a ball at the edge of a table has zero kinetic energy and positive potential energy. If the ball drops it will have zero portential energy and positive kinetic energy the instant it hits the floor. However the sum of the potential abnd kinetic energy is the same throughout the ball's dropping history. Therefore energy has neither been created or destroyed but has transformed from potential to kinetic energy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเรื่องทนี้แปลงที่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมี และกายภาพแล้วแปลงที่ถูกนำมาเกี่ยวกับ โดยปฏิกิริยาเคมี ใน ปฏิกิริยาเคมีสามารถนำถ้ามีพลังงานเพียงพอจะทำให้ปฏิกิริยาดำเนินต่อไป ดังนั้น พลังงานเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับปฏิกิริยาเคมีพลังงานสามารถมาในหลายรูปแบบเช่น ความ ร้อน ทำงาน แสง เดิม ๆ ศักยภาพ สารเคมีฯลฯ ... นอกจากนี้ พลังงานสามารถเองแปลงในหมู่เหล่านี้แบบฟอร์มต่าง ๆ ตัวอย่าง ลูกที่ขอบของตารางมีพลังงานจลน์และพลังงานศักย์บวกศูนย์ หยดน้ำลูกก็จะได้ศูนย์ portential พลังงานและพลังงานจลน์บวกทันทีที่คุณต้องการพื้น อย่างไรก็ตาม การผลรวมของพลังงานจลน์ abnd อาจจะเหมือนกันตลอดทั้งลูกของตกประวัติศาสตร์ ดังนั้น พลังงานไม่ถูกสร้าง หรือถูกทำลาย แต่ได้เปลี่ยนจากศักยภาพการพลังงานจลน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเรื่องผ่านการเปลี่ยนแปลงที่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีและทางกายภาพของมันแล้วการเปลี่ยนแปลงที่ถูกนำมาจากปฏิกิริยาทางเคมี ในปฏิกิริยาเคมีมืออื่น ๆ สามารถใช้สถานที่หากมีพลังงานเพียงพอที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาดำเนินการต่อไป พลังงานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับปฏิกิริยาเคมี. พลังงานสามารถมาในหลายรูปแบบเช่นความร้อน, การทำงาน, แสง, การเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมี ฯลฯ .. นอกจากนี้พลังงานที่ตัวเองสามารถเปลี่ยนรูปแบบในหมู่ต่างๆเหล่านี้ ตัวอย่างเช่นลูกที่ขอบของตารางมีศูนย์พลังงานจลน์และพลังงานศักย์เชิงบวก ถ้าลูกลดลงก็จะมีพลังงานเป็นศูนย์ portential และพลังงานจลน์บวกทันทีที่มันจะกระทบพื้น แต่ผลรวมของพลังงานที่มีศักยภาพ abnd การเคลื่อนไหวจะเหมือนกันตลอดประวัติศาสตร์วางลูก พลังงานจึงไม่ถูกสร้างหรือทำลาย แต่ได้เปลี่ยนจากศักยภาพที่จะพลังงานจลน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเรื่องผ่านการเปลี่ยนแปลงของลักษณะทางกายภาพและทางเคมีที่เปลี่ยนแปลงถูกนำเกี่ยวกับ โดยปฏิกิริยาทางเคมี บนมืออื่น ๆปฏิกิริยาสามารถเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะทำให้ปฏิกิริยาต่อไป ดังนั้นพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปฏิกิริยาทางเคมี

พลังงานสามารถมาในหลายรูปแบบ เช่น ความร้อน งาน แสง จลน์ศักยภาพทางเคมี ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถแปลงพลังงานในรูปแบบต่าง ๆเหล่านี้เอง . ตัวอย่างลูกที่ขอบของตารางมีศูนย์พลังงานและศักยภาพเชิงพลังงานบวก ถ้าลูกบอลมันจะมีศูนย์ portential พลังงานจลน์บวกทันทีที่มันกระทบพื้นแต่ผลรวมของศักยภาพ abnd พลังงานจลน์เป็นเดียวกันตลอดบอลตกประวัติศาสตร์ ดังนั้นพลังงานที่ไม่เคยถูกสร้างขึ้นหรือทำลาย แต่ได้เปลี่ยนจากศักยภาพของพลังงานจลน์