People have advocated barefoot runn

People have advocated barefoot running, claiming that it is better suited to human nature. Humans
usually run barefoot using a forefoot strike and run shod using a heel strike. The striking pattern was
thought to be a key factor that contributes to the benefit of barefoot running. The purpose of this study is
to use scientific data to prove that the striking pattern is more important than barefoot or shod
conditions for runners on running injuries prevention. Twelve habitually male shod runners were
recruited to run under four varying conditions: barefoot running with a forefoot strike, barefoot running
with a heel strike, shod running with a forefoot strike, and shod running with a heel strike. Kinetic and
kinematic data and electromyography signals were recorded during the experiments. The results
showed that the lower extremity can gain more compliance when running with a forefoot strike.
Habitually shod runners can gain more shock absorption by changing the striking pattern to a forefoot
strike when running with shoes and barefoot conditions. Habitually shod runners may be subject to
injuries more easily when they run barefoot while maintaining their heel strike pattern. Higher muscle
activity in the gastrocnemius was observed when running with a forefoot strike, which may imply a
greater training load on the muscle and a tendency for injury.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนมี advocated ทำงานแบร์ฟุต อ้างว่า มันไม่เหมาะกับธรรมชาติมนุษย์ มนุษย์โดยปกติแล้วรันแบร์ฟุตใช้ตี forefoot และรัน shod ใช้ส้นตี มีรูปแบบโดดเด่นคิดว่า เป็น ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนประโยชน์ของการทำแบร์ฟุต วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่ารูปแบบโดดเด่นสำคัญกว่าแบร์ฟุต หรือ shodเงื่อนไขสำหรับรอบชิงชนะเลิศในการทำงานป้องกันการบาดเจ็บ รอบชิง shod นิตย์ชายสิบสองชนะเลิศได้พิจารณาทำสี่ภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกัน: แบร์ฟุตทำ ด้วยตี forefoot เท้าเปล่าบนรันมีส้นตี shod รันกับตี forefoot และ shod ทำ ด้วยส้นตี เคลื่อนไหว และข้อมูลจลน์และ electromyography สัญญาณได้รับการบันทึกในระหว่างการทดลอง ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ปลายล่างสามารถรับปฏิบัติตามกฎระเบียบเพิ่มเติมเมื่อทำงานกับตี forefootรอบชิงชนะเลิศนิตย์ shod สามารถได้รับการดูดซึมช็อกเพิ่มเติม โดยเปลี่ยนรูปแบบโดดเด่นเป็น forefootนัดหยุดงานเมื่อทำงานกับแบร์ฟุตเงื่อนไขและรองเท้า รอบชิงชนะเลิศนิตย์ shod อาจขึ้นอยู่กับบาดเจ็บได้ง่ายขึ้นเมื่อพวกเขาวิ่งแบร์ฟุตขณะที่ยังคงรูปแบบของส้นตี กล้ามเนื้อสูงกิจกรรมใน gastrocnemius ถูกตรวจสอบเมื่อใช้กับตี forefoot ซึ่งอาจเป็นสิทธิ์แบบโหลดฝึกมากกว่ากล้ามเนื้อและแนวโน้มการบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนได้สนับสนุนเท้าเปล่าทำงานอ้างว่ามันจะดีกว่าเหมาะกับธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์
มักจะใช้เท้าเปล่าโดยใช้เท้าหน้าการนัดหยุดงานและเรียกใช้หุ้มส้นตี รูปแบบที่โดดเด่นได้รับ
ความคิดที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการวิ่งด้วยเท้าเปล่า วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ
การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ารูปแบบที่โดดเด่นมีความสำคัญมากกว่าเท้าเปล่าหรือหุ้ม
เงื่อนไขสำหรับนักวิ่งในการทำงานการป้องกันการบาดเจ็บ สิบสองนักวิ่งชายหุ้มประจำได้
รับคัดเลือกให้ทำงานภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างสี่: วิ่งเท้าเปล่าด้วยการตีเท้าหน้าเท้าเปล่าทำงาน
ด้วยการตีส้นหุ้มทำงานกับการนัดหยุดเท้าและหุ้มทำงานกับการนัดหยุดงานส้นเท้า การเคลื่อนไหวและ
ข้อมูลและสัญญาณคลื่นไฟฟ้าจลนศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในระหว่างการทดลอง ผลการ
ศึกษาพบว่าขาจะได้รับการปฏิบัติตามมากขึ้นเมื่อทำงานกับตีเท้า
วิ่งสวมเป็นประจำจะได้รับแรงกระแทกมากขึ้นโดยการเปลี่ยนรูปแบบที่โดดเด่นที่จะเท้า
นัดหยุดงานเมื่อทำงานกับรองเท้าและเงื่อนไขเท้าเปล่า เป็นปกติวิสัยวิ่งหุ้มอาจจะเป็นเรื่องที่
ได้รับบาดเจ็บได้ง่ายมากขึ้นเมื่อพวกเขาวิ่งเท้าเปล่าในขณะที่ยังคงรักษารูปแบบการตีส้นของพวกเขา กล้ามเนื้อสูงกว่า
กิจกรรมใน gastrocnemius ถูกพบเมื่อทำงานด้วยการตีเท้าซึ่งอาจบ่งบอกถึงการ
โหลดการฝึกอบรมมากขึ้นในกล้ามเนื้อและแนวโน้มสำหรับการบาดเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีคนสนับสนุน วิ่งเท้าเปล่า ที่บอกว่ามันเหมาะกับธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์มักจะวิ่งเท้าเปล่าใช้
ตีและเรียกใช้ปลายเท้าหุ้มส้นตี รูปแบบโดดเด่นคือ
คิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้ประโยชน์ของการวิ่งเท้าเปล่า วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ
การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่ารูปแบบโดดเด่นสำคัญกว่าเท้าเปล่าหรือหุ้ม
เงื่อนไขสำหรับนักวิ่งที่วิ่งการป้องกันการบาดเจ็บ 12 นิสัยชายสวมวิ่ง
เลือกที่จะวิ่งตามสี่เงื่อนไขที่แตกต่าง : Barefoot วิ่งด้วยปลายเท้าตีเท้าเปล่าวิ่ง
ที่มีส้นตี สวมวิ่งด้วยปลายเท้าปะทะ และสวมวิ่งที่มีส้นตีพลังงานจลน์และจลน์และสัญญาณคลื่นไฟฟ้า
ข้อมูลถูกบันทึกไว้ในระหว่างการทดลอง ผลลัพธ์
พบว่ารยางค์ล่างสามารถได้รับการปฏิบัติมากขึ้นเมื่อวิ่งด้วยปลายเท้าตี .
นิสัยสวมวิ่งสามารถได้รับเพิ่มเติมการดูดซึมช็อก โดยเปลี่ยนรูปแบบ ตื่นตาตื่นใจกับปลายเท้า
ตีเมื่อวิ่งด้วยเท้าเปล่า รองเท้า และ เงื่อนไขนิสัยสวมวิ่งอาจบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น
เมื่อพวกเขาวิ่งเท้าเปล่าในขณะที่รักษารูปแบบของส้นตี . สูงกว่ากล้ามเนื้อ
กิจกรรมในการเกิดพบว่าเมื่อวิ่งด้วยปลายเท้าตี ซึ่งอาจบ่งบอกถึง
มากกว่าการฝึกอบรมโหลดบนกล้ามเนื้อและแนวโน้มสำหรับการบาดเจ็บ