value degree prestige (Bills 2003).

value degree prestige (Bills 2003). First, employers
may view a prestigious degree as a signal of cultural
proficiency, rather than of technical ability (Bourdieu
and Passeron 1977; Kingston 1981). According to
this perspective, employers believe that elite programs
provide more effective professional socialization—
more thoroughly inculcating habits, tastes,
and dispositions consistent with the culture of the
professional field—than do lower-ranked programs.
A study of prominent British law firms suggests that
such firms recruit graduates of prestigious universities
for precisely this reason (Ashley and Empson
2013). Alternatively (or in addition), following
credentialist theory, employers may believe that a
prestigious degree reflects its holder’s innate ability,
rather than any skills gained through education
(Berg 1971). In this view, colleges and professional
schools act as certifying agencies, placing their seal of
approval on the students they admit, while the students
themselves remain essentially unchanged (Bills
2003). Consistent with these ideas, Rivera’s (2011)
study of hiring in elite law, consulting, and finance
firms in the United States shows that what matters
for such firms is admission to and enrollment in an
elite school, not the nature of the education received
there. Similarly, Ho (2009: 62–69) finds that Wall
Street investment bankers unquestioningly accept
the equation of degree prestige with innate
‘smartness’.
Thus, findings concerning the effects of degree
prestige and grades on organizational attainment are
ambiguous and may reflect processes other than the
straightforward rewarding of technical merit. With
this caveat in mind, available empirical evidence indicates
that degree prestige and grades matter, at least
at the stage of hiring into the initial professional job.
Academics with degrees from more prestigious universities
are hired into first jobs at more prestigious
destination institutions (Long, Allison, and
McGinnis 1979; Hurlbert and Rosenfeld 1992;
Merritt and Reskin 1992, 1997; Baldi 1995; Burris
2004). Similarly, lawyers with degrees from higherranked
law schools are more likely to land first jobs
in large, prestigious law firms (Hull and Nelson
2000; Dinovitzer and Garth 2007; Sander and
Bambauer 2012; Rivera 2012a). Law school grades
are also linked to jobs at elite firms (Sander and
Bambauer 2012) and, for legal scholars, elite law
schools (Merritt and Reskin 1992, 1997; McBrier
2003).
As professional careers progress, the importance
of education appears to wane. For lawyers, law
school prestige seems to have no influence on attaining
law firm partnership or an equivalent rank in
another type of legal practice setting (Kay and
Hagan 1998; Hull and Nelson 2000). Findings concerning
law school grades are mixed: some studies
find a positive effect on attaining partnership or
equivalent rank (Noonan and Corcoran 2004; Dau-
Schmidt, Galanter, Mukhopadhay, and Hull 2009),
while others find no association (Kay and Hagan
1998; Hull and Nelson 2000). For academics, in different
samples and models, degree prestige has a
positive effect (Long, Allison, and McGinniss 1993),
no effect (Hurlbert and Rosenfeld 1992; Long,
Allison, and McGinniss 1993; Hesli, Lee, and
Mitchell 2012), or even a negative effect (Ginther
and Kahn 2004) on promotion to higher rank.
Degree prestige may still be an advantage in moving
between academic employers (Allison and Long
1987; McBrier 2003).
Researchers who follow the second strategy for
assessing the role of technical ability look to subjective
performance evaluations and objective measures
of productivity. This approach is imperfect as well.
The quality of professional and expert performance
is notoriously difficult to judge (Alvesson 2001), and
when teams are involved in rendering professional
services—as they often are today—the contribution
of any one person can be hard to identify.
Supervisors’ subjective performance evaluations can
be biased or idiosyncratic.10 Quantitative productivity
measures are more readily available and hence
more commonly used, but they are restricted to
countable outputs and may capture only limited
aspects of a professional’s work.
The difficulties associated with productivity measures
are reduced in the case of scientists and academics.
Research publications are reasonably
commensurable and can be counted. They are also
indisputably important professional outputs.
Authorship (and order of authorship) can be used to
distinguish individual contributions, and metrics
such as journal ranking and citation counts can be
used to tap quality. It is well established that the
number of publications has a positive impact on

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าปริญญาศักดิ์ศรี (ตั๋ว 2003) นายแรกอาจดูปริญญาเกียรติเป็นสัญญาณของวัฒนธรรมความชำนาญ แทน ความสามารถทางเทคนิค (Bourdieuและ Passeron 1977 คิงส์ตัน 1981) ตามที่มุมมองนี้ นายจ้างเชื่อว่าชนชั้นสูงที่โปรแกรมให้สังคมมีประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ —เพิ่มเติมอย่างละเอียด inculcating นิสัย รสชาติและสอดคล้องกับวัฒนธรรมของสุขุมฟิลด์ระดับมืออาชีพซึ่งกว่าต่ำกว่าการจัดอันดับโปรแกรมการศึกษาของสำนักอังกฤษโดดเด่นแนะนำที่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยในวันรับสมัครบริษัทดังกล่าวเหตุผลตรงนี้ (แอชลีย์และ Empson2013) อีก (หรือแห่ง), ต่อไปนี้ทฤษฎี credentialist นายจ้างอาจเชื่อว่าเป็นปริญญาเกียรติสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถโดยธรรมชาติของเจ้าของมากกว่าทักษะใด ๆ ได้รับผ่านการศึกษา(เบิร์กลักซ์เชอรี่ 1971) ในมุมมองนี้ วิทยาลัย และมืออาชีพโรงเรียนทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรับรอง ทำตราของพวกเขาอนุมัตินักศึกษาที่พวกเขายอมรับว่า ในขณะที่นักเรียนตัวเองอยู่ (เปลี่ยนแปลงเป็นหลักสูตร2003) มีแนวความคิดนี้ ริเวอราของ Consistent (2011)ศึกษาจ้างยอดกฎหมาย ที่ปรึกษา และการเงินบริษัทในสหรัฐอเมริกาแสดงว่าอะไรเป็นเรื่องสำหรับบริษัทดังกล่าวได้เข้าศึกษาและลงทะเบียนในการโรงเรียนป้อม ธรรมชาติของการศึกษาที่ได้รับไม่มีการ ในทำนองเดียวกัน โฮจิมินห์ (2009:62 – 69) พบที่ผนังนายธนาคารลงทุนถนน unquestioningly ยอมรับสมการของเพรสทีจองศากับข้อสอบ'smartness'ดังนั้น ผลการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบขององศาเพรสทีจและเกรดในองค์กรโดยมีไม่ชัดเจน และอาจสะท้อนกระบวนการเป็นการตรงไปตรงมาให้รางวัลบุญทางเทคนิค ด้วยบ่งชี้ว่า มีหลักฐานประจักษ์ caveat นี้ในจิตใจที่ระดับเพรสทีจและเกรดสำคัญ น้อยในขั้นตอนการจ้างในงานอาชีพเบื้องต้นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติมากขึ้นด้วยจ้างงานเป็นงานแรกที่มากกว่าวันที่คุณต้องปลายทางสถาบัน (ยาว แอลลิสัน และMcGinnis 1979 Hurlbert และ Rosenfeld 1992Merritt และ Reskin 1992, 1997 เพียง 1995 Burris2004) ในทำนองเดียวกัน ทนายความ ด้วยจาก higherrankedโรงเรียนกฎหมายมีแนวโน้มไปสู่งานแรกในบริษัทกฎหมายขนาดใหญ่ ทรงเกียรติ (ฮัลล์และเนลสัน2000 Dinovitzer และการ์ธ 2007 แซนเดอร์ และBambauer 2012 ริเวอรา 2012a) กฎหมายครูนอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับงานที่บริษัทอีลิท (แซนเดอร์ และBambauer 2012) และ นักวิชาการทางกฎหมาย กฎหมายอีไลท์โรงเรียน (Merritt และ Reskin 1992, 1997 McBrier2003)เป็นการดำเนินการร่วมงานกับมืออาชีพ ความสำคัญการศึกษาปรากฏหย่อม ทนายความ กฎหมายศักดิ์ศรีโรงเรียนน่าจะ มีอิทธิพลไม่มีการบรรลุห้างหุ้นส่วนบริษัทกฎหมายหรือตำแหน่งเทียบเท่าในอีกชนิดหนึ่งของการปฏิบัติตามกฎหมาย (เคย์ และHagan 1998 ฮัลล์และเนลสัน 2000) ผลการวิจัยเกี่ยวกับผสมเกรดโรงเรียนกฎหมาย: ศึกษาบางพบผลดีต่อการบรรลุห้างหุ้นส่วน หรือเทียบเท่าตำแหน่ง (นูนันและ Corcoran 2004 เดา-Schmidt, Galanter, Mukhopadhay และฮัลล์ 2009),ในขณะที่คนอื่นค้นหาความสัมพันธ์ไม่ (เคย์และ Haganปี 1998 ฮัลล์และเนลสัน 2000) สำหรับนักวิชาการ ในต่างตัวอย่างและรูปแบบ มีศักดิ์ศรีระดับการผลบวก (ยาว แอลลิสัน และ McGinniss 1993),ไม่มีผล (Hurlbert และ Rosenfeld 1992 ยาวแอลลิสัน และ McGinniss 1993 Hesli ลี และMitchell 2012), หรือแม้แต่ผลกระทบ (Gintherและคาห์น 2004) ในการเลื่อนยศสูงขึ้นระดับเพรสทีจยังอาจเป็นประโยชน์ในการย้ายระหว่างนายจ้างศึกษา (แอลลิสันและยาว1987 McBrier 2003)นักวิจัยที่ปฏิบัติตามกลยุทธ์ที่สองสำหรับประเมินบทบาทของความสามารถทางเทคนิคมองตามอัตวิสัยการประเมินประสิทธิภาพและประเมินวัตถุประสงค์ของผลผลิต วิธีการนี้จะไม่สมบูรณ์เช่นคุณภาพของผู้เชี่ยวชาญ และมืออาชีพฉาวยากที่จะตัดสิน (Alvesson 2001), และเมื่อทีมงานเกี่ยวข้องในภาพมืออาชีพบริการ — พวกเขามักจะมีวันนี้ซึ่งผลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ยากที่จะระบุสามารถประเมินประสิทธิภาพตามอัตวิสัยของผู้บังคับบัญชามีความโน้มเอียง หรือ idiosyncratic.10 ผลผลิตเชิงปริมาณมาตรการมีมากขึ้น และดังนั้นเพิ่มเติมใช้ แต่พวกเขาถูกจำกัดแสดงผลนับได้ และอาจจับภาพเฉพาะจำกัดลักษณะของการทำงานของมืออาชีพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเพิ่มผลผลิตจะลดลงในกรณีของนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการนักวิจัยสมเหตุสมผลcommensurable และสามารถนับ อีกทั้งยังindisputably สำคัญอาชีพเอาท์พุตเสีย (และสั่งเสีย) สามารถใช้ในการแยกแต่ละผลงาน และเครื่องมือวัดสมุดรายวันการจัดอันดับและอ้างอิง นับได้ใช้การตรวจสอบคุณภาพ ถูกกำหนดขึ้นดีที่นี้จำนวนสื่อสิ่งพิมพ์มีผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศักดิ์ศรีระดับค่า (บิล 2003) ครั้งแรกที่นายจ้าง
อาจดูมีระดับมีชื่อเสียงเป็นสัญญาณของวัฒนธรรม
ความสามารถมากกว่าความสามารถทางเทคนิค (Bourdieu
และ Passeron 1977; Kingston 1981) ตาม
มุมมองนี้นายจ้างเชื่อว่าโปรแกรมยอด
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น socialization- มืออาชีพ
มากขึ้นอย่างทั่วถึงปลูกฝังนิสัยรสนิยม
และการแสดงออกที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของ
สนามกว่าทำโปรแกรมการจัดอันดับที่ต่ำกว่ามืออาชีพ.
การศึกษาที่โดดเด่น บริษัท กฎหมายอังกฤษแสดงให้เห็นว่า
บริษัท ดังกล่าวรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง
สำหรับการได้อย่างแม่นยำด้วยเหตุนี้ (แอชลีย์และเอ็มสัน
2013) อีกทางเลือกหนึ่ง (หรือนอกเหนือ) ตาม
ทฤษฎี credentialist นายจ้างอาจเชื่อว่า
คุณวุฒิการศึกษาสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถโดยธรรมชาติของผู้ถือของ
มากกว่าทักษะการใด ๆ ที่ได้รับผ่านการศึกษา
(Berg 1971) ในมุมมองนี้วิทยาลัยและเป็นมืออาชีพ
โรงเรียนทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองวางตราประทับของการ
อนุมัตินักเรียนที่พวกเขายอมรับว่าขณะที่นักเรียน
ตัวเองยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง (บิล
2003) สอดคล้องกับความคิดเหล่านี้ริเวร่า (2011)
การศึกษาการจ้างงานในกฎหมายยอดการให้คำปรึกษาและการเงิน
บริษัท ในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญ
สำหรับ บริษัท ดังกล่าวคือการเข้าสู่และการลงทะเบียนใน
โรงเรียนยอดไม่ธรรมชาติของการศึกษาที่ได้รับ
มี . ในทำนองเดียวกันโฮ (2009: 62-69) พบว่าผนัง
วาณิชธนกิจถนนปริยายยอมรับ
สมศักดิ์ศรีของการศึกษาระดับปริญญาที่มีมา แต่กำเนิด
'เก่ง'.
ดังนั้นผลการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการศึกษาระดับปริญญา
ศักดิ์ศรีและผลการเรียนในความสำเร็จขององค์กรมีความ
คลุมเครือและอาจสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการอื่น ๆ กว่า
ที่คุ้มค่าของบุญทางเทคนิคตรงไปตรงมา ด้วย
ข้อแม้ในใจนี้หลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีอยู่แสดงให้เห็น
ว่าการศึกษาระดับปริญญาศักดิ์ศรีและผลการเรียนเรื่องอย่างน้อย
ในขั้นตอนของการจ้างงานที่เป็นมืออาชีพเริ่มต้น.
นักวิชาการที่มีองศาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากขึ้น
ได้รับการว่าจ้างเป็นงานแรกที่มีชื่อเสียงมากขึ้น
สถาบันปลายทาง (ยาว แอลลิสันและ
McGinnis 1979; Hurlbert และแจสัน 1992;
ริตต์และ Reskin 1992, 1997; Baldi 1995; Burris
2004) ในทำนองเดียวกันกับทนายความองศาจาก higherranked
โรงเรียนกฎหมายมีแนวโน้มที่จะที่ดินงานแรก
ในขนาดใหญ่ บริษัท กฎหมายที่มีชื่อเสียง (ฮัลล์และเนลสัน
2000; Dinovitzer และการ์ ธ 2007; ซานเดอร์และ
Bambauer 2012; ริเวร่า 2012a) โรงเรียนเกรดกฎหมาย
มีการเชื่อมโยงไปยังงานที่ บริษัท ยอด (ซานเดอร์และ
Bambauer 2012) และสำหรับนักวิชาการนักกฎหมายกฎหมายยอด
โรงเรียน (ริตต์และ Reskin 1992, 1997; McBrier
2003).
ในฐานะที่เป็นความคืบหน้าการแนะแนวอาชีพ, ความสำคัญ
ของการศึกษาที่ดูเหมือนจะจางหายไป . สำหรับทนายความกฎหมาย
ศักดิ์ศรีโรงเรียนดูเหมือนว่าจะมีไม่มีผลต่อการบรรลุ
หุ้นส่วน บริษัท กฎหมายหรือตำแหน่งเทียบเท่าใน
ประเภทของการตั้งค่าการปฏิบัติตามกฎหมายอื่น (เคย์และ
เฮอแกน 1998 ฮัลล์และเนลสัน 2000) ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ
เกรดโรงเรียนกฎหมายผสม: บางการศึกษา
พบว่ามีผลกระทบในเชิงบวกต่อการบรรลุห้างหุ้นส่วนหรือ
ตำแหน่งเทียบเท่า (นันและคอร์โคแร 2004; Dau-
มิดท์ Galanter, Mukhopadhay และฮัลล์ 2009)
ขณะที่คนอื่นหาสมาคมไม่มี (เคย์และเฮอแกน
1998; ฮัลล์และเนลสัน 2000) สำหรับนักวิชาการที่แตกต่างกันใน
ตัวอย่างและรูปแบบการศึกษาระดับปริญญาศักดิ์ศรีมี
ผลในเชิงบวก (ยาวแอลลิสันและ McGinniss 1993),
ไม่มีผลกระทบ (Hurlbert และแจสัน 1992; ยาว,
อัลลิสันและ McGinniss 1993; Hesli ลีและ
มิทเชล 2012), หรือแม้กระทั่งผลกระทบเชิงลบ (Ginther
. และคาห์น 2004) โปรโมชั่นในการจัดอันดับที่สูงขึ้น
ศักดิ์ศรีปริญญาอาจจะยังคงความได้เปรียบในการเคลื่อนย้าย
ระหว่างนายจ้างวิชาการ (แอลลิสันและยาว
1987; McBrier 2003).
นักวิจัยที่ปฏิบัติตามกลยุทธ์ที่สองสำหรับ
การประเมินบทบาทของ ดูความสามารถทางเทคนิคที่จะอัตนัย
การประเมินผลการปฏิบัติงานและมาตรการวัตถุประสงค์
ของการผลิต วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน.
คุณภาพของผลการดำเนินงานที่เป็นมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญ
เป็นอย่างฉาวโฉ่ยากที่จะตัดสิน (Alvesson 2001) และ
เมื่อทีมมีส่วนร่วมในการแสดงผลระดับมืออาชีพ
บริการที่พวกเขามักจะมีวันนี้ที่การมีส่วนร่วม
ของสมาชิกคนใดคนหนึ่งสามารถยากที่จะ ระบุ.
ผู้บังคับบัญชา 'การประเมินผลการปฏิบัติงานอัตนัยสามารถ
จะลำเอียงหรือ idiosyncratic.10 ปริมาณผลผลิต
มีมากขึ้นมาตรการที่พร้อมใช้งานและด้วยเหตุนี้
ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่พวกเขาถูก จำกัด
เอาท์พุทนับและอาจจับที่ จำกัด เพียง
แง่มุมของการทำงานของมืออาชีพ.
ความยากลำบากที่เกี่ยวข้องกับการผลิต มาตรการที่
จะลดลงในกรณีของนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการ.
สิ่งพิมพ์วิจัยมีเหตุผล
สมน้ำสมเนื้อและสามารถนับ พวกเขายังมี
ความสำคัญยกเอาท์พุทเป็นมืออาชีพ.
ประพันธ์ (และคำสั่งของผลงาน) สามารถใช้ในการ
แยกแยะความแตกต่างของแต่ละบุคคลมีส่วนร่วมและตัวชี้วัด
เช่นวารสารการจัดอันดับและจำนวนการอ้างอิงที่สามารถ
ใช้ในการแตะที่มีคุณภาพ มันเป็นที่ยอมรับกันดีว่า
จำนวนของสิ่งพิมพ์ที่มีผลกระทบในเชิงบวกต่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศักดิ์ศรีระดับค่า ( ตั๋วปี ) แรก , นายจ้าง
อาจดูปริญญาอันทรงเกียรติเป็นสัญญาณของถิ่นวัฒนธรรม
มากกว่าความสามารถทางเทคนิคและ บูร์ดิเยอ
passeron 1977 ; Kingston 1981 ) ตาม
มุมมองนี้นายจ้างเชื่อว่ายอดโปรแกรม
-
การเข้าสู่อาชีพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ละเอียดขึ้น เพื่อพัฒนานิสัย รสนิยม
และมีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของมืออาชีพด้านการทำอันดับต่ํากว่า

โปรแกรมการศึกษาที่โดดเด่น บริษัท กฎหมายอังกฤษแสดงให้เห็นว่า บริษัท ที่มีชื่อเสียงเช่นรับสมัคร
บัณฑิตมหาวิทยาลัย
แน่นอนเหตุผลนี้ ( แอชลีย์กับเอ็มสัน
2013 ) อีกทางเลือกหนึ่ง ( หรือเพิ่ม ) ตามทฤษฎี credentialist

นายจ้างอาจเชื่อว่าอันสะท้อนให้เห็นถึงระดับความสามารถโดยกำเนิดของผู้ถือ ,
มากกว่าทักษะใด ๆที่ได้รับผ่านการศึกษา
( Berg 1971 ) ในมุมมองนี้ , โรงเรียนวิทยาลัยและเป็นมืออาชีพ
รับรองหน่วยงานวางตราประทับของการอนุมัตินักศึกษา
พวกเขายอมรับ ในขณะที่นักเรียน
ตัวเองยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลัก ( ตั๋ว
2003 ) สอดคล้องกับแนวความคิดเหล่านี้ ริเวร่า ( 2011 )
การศึกษาการจ้างงานในยอดกฎหมาย , ปรึกษา , และ บริษัท การเงิน
ในสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับ บริษัท เช่นเรียน

และการลงทะเบียนในโรงเรียนยอด ไม่ใช่ธรรมชาติของการศึกษาที่ได้รับ
ที่นั่น ในทำนองเดียวกัน โฮ ( 2552 : 62 ( 69 ) พบว่า ถนนกำแพงการลงทุนธนาคารรับ

unquestioningly สมการของปริญญาศักดิ์ศรีกับโดยธรรมชาติ

ดังนั้น 'smartness 'ข้อมูลเกี่ยวกับผลของการศึกษาระดับปริญญา
ศักดิ์ศรีและเกรดในองค์การจะสำเร็จ
ไม่ชัดเจนและอาจสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการอื่น ๆที่คุ้มค่ากว่า
ตรงไปตรงมาบุญทางเทคนิค กับ
ข้อแม้ในใจ , หลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีอยู่บ่งชี้
ที่เพรสทีจองศาและเรื่องเกรด อย่างน้อย
ในขั้นตอนของการเช่าเป็นอาชีพเริ่มต้น
นักวิชาการที่มีองศาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากขึ้นจะได้รับการว่าจ้างในงานแรก

เพิ่มเติมที่สถาบันปลายทางอันทรงเกียรติ ( ยาว อัลลิสัน และ เ ร์ลเบิร์ต และ โรเซนเฟลด์
เมิ่กกีเนิส 1979 ; 1992 ;
Merritt และรีสกิน 1992 , 1997 ; บัลดิ 1995 ; Burris
2004 ) นอกจากนี้นักกฎหมายที่มีองศาจาก higherranked
โรงเรียนกฎหมายมักจะที่ดิน
งานแรกในขนาดใหญ่ , บริษัท กฎหมายที่มีชื่อเสียง ( เรือและเนลสัน
2000 และ dinovitzer การ์ท 2007 ; ขัดและ
bambauer 2012 ; ริเวร่า 2012a ) โรงเรียนกฎหมายเกรด
ยังเชื่อมโยงกับงานที่บริษัท อีลิท ( Sander และ
bambauer 2012 ) และ นักวิชาการด้านกฎหมาย โรงเรียนกฎหมาย
Elite ( Merritt และรีสกิน 1992 , 1997 ; mcbrier
2003 ) .
เป็นอาชีพอาชีพความก้าวหน้า , ความสําคัญ
การศึกษาปรากฏหย่อม สำหรับนักกฎหมาย กฎหมาย
ศักดิ์ศรีของโรงเรียน ดูเหมือนจะไม่มีอิทธิพลในการบรรลุ
กฎหมาย บริษัท ห้างหุ้นส่วนหรือเทียบเท่ายศ
ประเภทของการปฏิบัติตามกฎหมายการตั้งค่าอื่น ( Kay และ
Hagan 1998 ; เรือและเนลสัน 2000 ) ข้อมูลเกี่ยวกับ
เกรดโรงเรียนกฎหมายผสม : บางการศึกษา
พบผลเป็นบวกในการบรรลุหุ้นส่วนหรือเทียบเท่าตำแหน่ง ( นู๋แนนแล้ว
-
Corcoran 2004 ; เดา ชมิดท์ galanter mukhopadhay และฮัลล์ , 2009 ) ,
ขณะที่คนอื่นพบสมาคม ( เคย์และ Hagan
2541 ; เรือและเนลสัน 2000 ) สำหรับนักวิชาการ ในตัวอย่างที่แตกต่างกันและรุ่น Prestige
-
จะได้ผลเป็นบวก ( ยาว อัลลิสัน และ mcginniss 1993 ) ,
( และไม่มีผลเ ร์ลเบิร์ต โรเซนเฟลด์ 1992 ; ยาว
อัลลิสัน และ mcginniss 1993 ; hesli ลีและ
มิเชล 2012 ) หรือผลกระทบ ( จับได้
และ คาห์น 2004 ) ในการส่งเสริมให้ตำแหน่งสูง
ระดับบารมียังอาจเป็นประโยชน์ในการย้าย
ระหว่างนายจ้างวิชาการ ( แอลลิสันยาว

mcbrier 1987 ; 2546 ) นักวิจัยที่ตามกลยุทธ์ที่ 2
การประเมินบทบาทของความสามารถทางเทคนิคดูการประเมินสมรรถนะอัตนัยและวัตถุประสงค์มาตรการ

ของผลผลิต วิธีการนี้จะไม่สมบูรณ์เช่นกัน
คุณภาพของมืออาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดง
เป็นอย่างฉาวโฉ่ยากที่จะตัดสิน ( alvesson 2001 ) และ
เมื่อทีมมีส่วนร่วมในการให้บริการระดับมืออาชีพเช่นที่พวกเขามักจะมีวันนี้

ผลงานของบุคคลใด ๆหนึ่งสามารถจะยากที่จะระบุ
ศึกษานิเทศก์อัตนัยประเมินผลสามารถ
ลำเอียงหรือ idiosyncratic.10 ปริมาณผลผลิต
มาตรการเพิ่มเติมพร้อมใช้งานและด้วยเหตุนี้
มากกว่าปกติใช้แต่พวกเขาจะถูก จำกัด และได้ผล

อาจจับเท่านั้น จำกัด ลักษณะของงานที่เป็นมืออาชีพ
.
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมาตรการ
ผลผลิตจะลดลงในกรณีของนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการ .
ผลงานวิจัยสมเหตุสมผล
ที่มีขนาดเท่ากัน และสามารถนับ พวกเขายังพัฒนามืออาชีพ indisputably

ที่สำคัญผลงาน ( และคำสั่งของผู้แต่ง ) สามารถใช้
แยกแยะผลงานของแต่ละบุคคลและตัวชี้วัด เช่น วารสารและการจัดอันดับ

นับสามารถใช้ประปาที่มีคุณภาพ มันเป็นที่ยอมรับว่า
จำนวนสิ่งพิมพ์ที่มีผลกระทบเชิงบวกใน