Romeo and Juliet is at least partly

Romeo and Juliet is at least partly a tragedy about the clash between private love (you and your honey) and public interest (convenient marriages, or paying bills, or raising a family). We may not have quite the same roadblocks that Romeo and Juliet have, but intense, passionate love can be just as antisocial in the 21st century as it was in the 16th century. How do you negotiate the minefield? Well, hopefully better than Romeo and Juliet did.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรมิโอและจูเลียตได้น้อยบางส่วนเป็นโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างความรักส่วนตัว (คุณและคุณน้ำผึ้ง) และสาธารณประโยชน์ (สมรสสะดวก จ่ายบิล หรือเลี้ยงครอบครัว) เราไม่อาจค่อนข้าง roadblocks เดียวที่โรมิโอและจูเลียตที่มี แต่ความรักรุนแรง หลงใหลได้เพียงเป็น antisocial ในศตวรรษที่ 21 ก็ในศตวรรษ 16 คุณเจรจาระเบิดได้อย่างไร ดี หวังดีกว่าโรมิโอและจูเลียตก็

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรมิโอและจูเลียตเป็นอย่างน้อยส่วนหนึ่งโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างความรักส่วนตัว (คุณน้ำผึ้งคุณ) และความสนใจของประชาชน (การแต่งงานที่สะดวกสบายหรือการจ่ายเงินค่าหรือยกครอบครัว) เราอาจจะไม่ได้มีค่อนข้างอุปสรรคเดียวกับที่โรมิโอและจูเลียตมี แต่ความรุนแรงความรักความรักสามารถเช่นเดียวกับสังคมในศตวรรษที่ 21 มันเป็นในศตวรรษที่ 16 ที่คุณเจรจาเขตที่วางทุ่นระเบิดได้อย่างไร? ดีหวังว่าจะดีขึ้นกว่าที่โรมิโอและจูเลียตได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรมิโอ กับ จูเลียตเป็นอย่างน้อยส่วนหนึ่งเป็นโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างความรักส่วนตัว ( คุณน้ำผึ้งของคุณ ) และผลประโยชน์สาธารณะ ( การแต่งงาน สะดวก หรือ จ่ายบิล หรือเลี้ยงครอบครัว ) เราไม่อาจจะค่อนข้างเดียวกันบนถนนว่า โรมิโอ และ จูเลียต แต่รุนแรง ความรักจะเป็นเพียงว่าเป็นพวกต่อต้านสังคมในศตวรรษที่ 21 ก็คือในศตวรรษที่ 16 คุณเจรจาปัญหา ?หวังว่าดีกว่า โรมิโอ และ จูเลียตทำ