The objective of this paper is to a

The objective of this paper is to assess the relationship between residential crime and the built environment that reflects the principles of crime prevention through environmental design (CPTED) at the neighbourhood level. Using crime data for Seattle, this study investigated the effectiveness of CPTED principles associated with two different space design approaches (i.e., permeable space and defensible space) with respect to reducing residential crime. For the analysis, 1407 cases of residential crime (i.e., burglaries and robberies) were extracted from the Seattle crime incidents report. To identify the spatially unbiased distribution of residential crime, an area-standardized crime measure (i.e., crime density) was used in the analysis. The regression results showed that the proportion of the residential area, the average number of building storeys, bus-stop density, street density, and intersection density was significantly related to residential crime when the model was controlled for population density, neighbourhood median household income, and the distance of the neighbourhood from the closest police station. The findings indicated that land use diversity along with improved street connectivity has an adverse effect on prevention of residential crime. Increases in bus-stop density and street density in neighbourhoods were negatively related to residential crime. The study calls for the refinement of CPTED concepts to increase the discriminative controllability of potential crime attractors/generators and preventers in the neighbourhood.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของเอกสารนี้คือการ ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นที่สะท้อนถึงหลักการของการป้องกันอาชญากรรมผ่านการออกแบบสิ่งแวดล้อม (CPTED) ในระดับพื้นที่ ใช้ข้อมูลอาชญากรรมซีแอตเทิล ศึกษานี้ตรวจสอบประสิทธิภาพของหลัก CPTED ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แตกต่างกันสองการออกแบบวิธี (เช่น พื้นที่ได้และพื้นที่ defensible) เกี่ยวกับการลดอาชญากรรมที่อยู่อาศัย สำหรับวิเคราะห์ 1407 รายการกรณีที่อยู่อาศัยอาชญากรรม (เช่น burglaries และโจรกรรม) ที่สกัดจากซีแอตเทิลอาชญากรรมปัญหารายงาน การวัดมาตรฐานพื้นที่อาชญากรรม (เช่น อาชญากรรมความหนาแน่น) ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อระบุการกระจาย spatially เป็นที่อยู่อาศัยอาชญากรรม ผลการถดถอยแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของพื้นที่อยู่อาศัย จำนวนชั้น ป้ายรถประจำทางความหนาแน่น ความหนาแน่นของถนน และแยกความหนาแน่นเฉลี่ยถูกมากเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่อาศัยเมื่อแบบควบคุมความหนาแน่นประชากร พื้นที่ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยรายได้ครัวเรือน และระยะทางของพื้นที่ใกล้เคียงจากสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ผลการวิจัยระบุว่า ความหลากหลายในการใช้ที่ดินพร้อมกับเชื่อมต่อถนนที่ปรับปรุงมีผลป้องกันอาชญากรรมที่อยู่อาศัย ป้ายรถประจำทางความหนาแน่นและความหนาแน่นของถนนในละแวกใกล้เคียงมีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องส่งให้ที่อยู่อาศัย การศึกษาเรียกอย่างแนวคิด CPTED เพื่อเพิ่มการควบคุมถัง discriminative อาจเกิดอาชญากรรมดึงดูดจุด/เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและ preventers ในพื้นที่ใกล้เคียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดอาชญากรรมที่อยู่อาศัยและการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะท้อนให้เห็นถึงหลักการของการป้องกันอาชญากรรมผ่านการออกแบบสิ่งแวดล้อม (CPTED) ในระดับพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้ข้อมูลอาชญากรรมซีแอตเติการศึกษานี้เป็นการศึกษาประสิทธิภาพของหลักการ CPTED เกี่ยวข้องกับสองวิธีออกแบบพื้นที่ที่แตกต่างกัน (เช่นพื้นที่การซึมผ่านและพื้นที่ยุทธศาสตร์) ด้วยความเคารพในการลดอาชญากรรมที่อยู่อาศัย สำหรับการวิเคราะห์, 1407 กรณีของอาชญากรรมที่อยู่อาศัย (เช่นหัวขโมยและปล้น) สกัดเข้มข้นจากซีแอตเติรายงานเหตุการณ์อาชญากรรม เพื่อแจ้งการกระจายเป็นกลางเชิงพื้นที่ของอาชญากรรมที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มาตรฐานตัวชี้วัดอาชญากรรม (เช่นความหนาแน่นอาชญากรรม) ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ผลการถดถอยแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่ค่าเฉลี่ยของจำนวนชั้นอาคารความหนาแน่นของรถบัสหยุดความหนาแน่นของถนนและความหนาแน่นของจุดตัดความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับอาชญากรรมที่อยู่อาศัยเมื่อรูปแบบที่ถูกควบคุมความหนาแน่นของประชากรย่านเฉลี่ยครัวเรือนรายได้, และระยะทางของพื้นที่ใกล้เคียงจากสถานีตำรวจที่ใกล้เคียงที่สุด ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินหลากหลายพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นมีผลกระทบต่อการป้องกันอาชญากรรมที่อยู่อาศัย การเพิ่มขึ้นของความหนาแน่นของรถบัสแบบครบวงจรและความหนาแน่นของถนนในละแวกใกล้เคียงที่มีความสัมพันธ์เชิงลบกับอาชญากรรมที่อยู่อาศัย การศึกษาเรียกร้องให้มีการปรับแต่งของแนวคิด CPTED เพื่อเพิ่มการควบคุมจำแนกศักยภาพอาชญากรรม attractors / เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและ preventers ในพื้นที่ใกล้เคียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมที่อยู่อาศัยและสร้างสภาพแวดล้อมที่สะท้อนให้เห็นถึงหลักการของการป้องกันอาชญากรรมผ่านการออกแบบสิ่งแวดล้อม ( cpted ) ในระดับใกล้เคียง ข้อมูลอาชญากรรมโดยใช้สำหรับซีแอตเทิล การศึกษานี้เป็นการศึกษาประสิทธิผลของ cpted หลักการที่เกี่ยวข้องกับสองพื้นที่ออกแบบวิธีที่แตกต่างกัน ( เช่น ซึมผ่านพื้นที่และป้องกันพื้นที่ ) ด้วยการลดอาชญากรรม ที่อยู่อาศัย สำหรับการวิเคราะห์ เปิดกรณีของอาชญากรรมที่อยู่อาศัย ( เช่น burglaries และปล้น ) สกัดจากซีแอตเทิเหตุการณ์อาชญากรรมรายงาน เพื่อระบุความแตกต่างที่ปราศจากอคติ การกระจายของอาชญากรรมที่อยู่อาศัยพื้นที่มาตรฐานวัดอาชญากรรม ( เช่นอาชญากรรมความหนาแน่น ) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ถดถอย ผลการศึกษาพบว่า สัดส่วนของพื้นที่อยู่อาศัย จำนวน ชั้น ตึก ป้ายรถเมล์ความหนาแน่นความหนาแน่นและความหนาแน่นของถนน สี่แยก มีความสัมพันธ์กับอาชญากรรมที่อยู่อาศัยเมื่อแบบจำลองควบคุมความหนาแน่น ประชากร ตาง ๆเฉลี่ยครัวเรือนรายได้ และระยะห่างของพื้นที่ใกล้เคียงจากสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ผลการวิจัยพบว่า การใช้ที่ดินความหลากหลายพร้อมกับการเชื่อมต่อถนนดีขึ้นมีผลในการป้องกันอาชญากรรมของที่อยู่อาศัย เพิ่มความหนาแน่นของป้ายรถเมล์และความหนาแน่นของถนนในละแวกใกล้เคียงมีความสัมพันธ์ทางลบกับอาชญากรรมที่อยู่อาศัย การเรียกร้องให้ปรับ cpted แนวความคิดเพื่อเพิ่มการควบคุมและศักยภาพของตัวยาป้องกันอาชญากรรม / ตลอดและในพื้นที่ใกล้เคียง