The particle size distributions of

The particle size distributions of millfeeds are shown in Fig. 1(a) and (b). Millfeed particle size distributions for the two wheat classes followed similar trends after fine grinding treatment.The mass median particle diameters of millfeeds were significantly reduced after fine-grinding treatment compared to the original millfeeds with particle diameters of 434 mm for HRS and 442 mm for HRW (P < 0.05). As the number of grinding treatments increased, the mass median particle diameters of fine-ground millfeeds declined. For HRS, the median particle diameters were 307, 260,225, and 178 mm, respectively, from the 1st grinding to the 4th grinding treatment; while for HRW, they were 319, 274, 235, and 185 mm, respectively, from the 1st grinding to the 4th grinding treatment. There was no particle larger than 500 mm after two times of fine grinding. For both HRS and HRW, the particles which passed through 500 mm sieve but retained on the top of 300 mm sieve had the largest proportion in the 1st grinding group, as for the 4th grinding group, the largest portion was the particles that passed through 212 mm sieve but retained on the top of 150 mm sieve. The particle size distributions of straight-grade flour and reconstituted WWFs are shown in Table 1. For the fine-ground WWFs of both wheat classes, the percentage of flour particles that were larger than 300 mm gradually reduced as the millfeeds had gone through a number of fine-grinding treatments; however, only the 4th grinding group showed significantly smaller WWF median diameter than the 1st grinding group (P < 0.05). All WWFs with varying fine-ground millfeeds had significantly larger median diameters than the straight-grade flour and significantly smaller median diameters than theWWF with original millfeeds (P < 0.05).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดงการกระจายขนาดอนุภาคของ millfeeds ใน Fig. 1(a) และ (b) การกระจายขนาดอนุภาค Millfeed เรียนข้าวสาลีสองตามแนวโน้มที่คล้ายกันหลังจากที่รักษาดีคัฟสมมาตรอนุภาคมัธยฐานโดยรวมของ millfeeds ได้อย่างมีนัยสำคัญลดลงหลังจากรักษาที่บดละเอียดเมื่อเทียบกับ millfeeds เดิม ด้วยอนุภาคสมมาตร 434 มม.น. และ 442 มม.สำหรับปี้ (P < 0.05) เป็นหมายเลขของบริการที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอนุภาคมัธยฐานโดยรวมของ millfeeds ปรับดินปฏิเสธ สำหรับน. สมมาตรอนุภาคมัธยฐาน มี 307, 260,225, 178 มม. ตามลำดับ จาก 1 บดบดรักษา 4 สำหรับปี้ พวก 319, 274, 235 และ 185 มม. ตามลำดับ จากบด 1 รักษาบด 4 มีอนุภาคไม่มากกว่า 500 มม.หลังจากสองครั้งของดี น.และปี้ อนุภาคที่ผ่านตะแกรง 500 มม. แต่สะสมบนตะแกรง 300 มม. มีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มบด 1 สำหรับกลุ่มบด 4 ส่วนใหญ่เป็นอนุภาคที่ผ่านตะแกรง 212 mm แต่สะสมบนตะแกรง 150 มม. การกระจายขนาดอนุภาคของแป้งตรงเกรดและ reconstituted WWFs จะแสดงในตารางที่ 1 สำหรับ WWFs ปรับพื้นของชั้นทั้งข้าวสาลี เปอร์เซ็นต์ของอนุภาคแป้งที่มีขนาดใหญ่กว่า 300 มม.ค่อย ๆ ลดลงเป็น millfeeds การเดินทางผ่านจำนวนบดละเอียดรักษา อย่างไรก็ตาม เท่านั้น 4 บดได้แสดงให้เห็นว่าเส้นมัธยฐาน WWF มากขนาดเล็กกว่ากลุ่มบด 1 (P < 0.05) WWFs ทั้งหมด ด้วย millfeeds ปรับพื้นดินแตกต่างกันมีสมมาตรเดียนมากใหญ่กว่าแป้งชั้นตรงและสมมาตรเดียนมากเล็กกว่า theWWF กับ millfeeds เดิม (P < 0.05)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกระจายขนาดอนุภาคของ millfeeds จะแสดงในรูป 1 (ก) และ (ข) การกระจายขนาดอนุภาค Millfeed สำหรับสองชั้นเรียนข้าวสาลีตามแนวโน้มที่คล้ายกันหลังจากปรับบดรักษาการแบ่งมวลขนาดอนุภาคของ millfeeds ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการปรับบดการรักษาเมื่อเทียบกับ millfeeds เดิมที่มีขนาดอนุภาคของ 434 มมชมและ 442 มมสำหรับเอช (p <0.05) ขณะที่จำนวนของการรักษาบดเพิ่มขึ้นมวลขนาดอนุภาคเฉลี่ยของ millfeeds ปรับพื้นดินลดลง สำหรับ HRS, ขนาดอนุภาคเฉลี่ยอยู่ที่ 307, 260,225 และ 178 มิลลิเมตรตามลำดับตั้งแต่วันที่ 1 ถึงที่ 4 บดบดการรักษา; ในขณะที่สำหรับเอชพวกเขา 319, 274, 235 และ 185 มมตามลำดับตั้งแต่วันที่ 1 บดการรักษาบด 4 ไม่มีอนุภาคมีขนาดใหญ่กว่า 500 มมหลังจากที่ทั้งสองช่วงเวลาของการบดละเอียด ทั้งชมและเอชอนุภาคที่ผ่านตะแกรง 500 มม แต่ก็ยังคงอยู่ด้านบนของ 300 มมตะแกรงมีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มบด 1 เป็นกลุ่มที่ 4 บด, ส่วนที่ใหญ่ที่สุดคืออนุภาคที่ผ่าน 212 มมตะแกรง แต่ก็ยังคงอยู่ด้านบนของ 150 มิลลิเมตรตะแกรง การกระจายขนาดอนุภาคของแป้งตรงเกรดและ WWFs สร้างขึ้นจะแสดงในตารางที่ 1 สำหรับ WWFs ปรับพื้นดินของทั้งสองเรียนข้าวสาลีร้อยละของแป้งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 300 มมลดลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ millfeeds ได้ไปผ่านหมายเลข ปรับบดการรักษา; แต่แค่ที่ 4 บดกลุ่มแสดงให้เห็นว่ามีขนาดเล็ก WWF เส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยกว่า 1 บดกลุ่ม (p <0.05) WWFs ทั้งหมดที่มีแตกต่างกัน millfeeds ปรับพื้นดินมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญมีขนาดใหญ่กว่าแป้งตรงเกรดและขนาดกลางอย่างมีนัยสำคัญมีขนาดเล็กกว่า theWWF กับ millfeeds เดิม (p <0.05)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกระจายของขนาดอนุภาค millfeeds แสดงในรูปที่ 1 ( a ) และ ( b ) millfeed กระจายขนาดของอนุภาคเป็นแบบที่ 2 เรียนตามแนวโน้มที่คล้ายกันหลังจากข้าวสาลีบดปรับการรักษามวลของอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของ millfeeds ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการบดละเอียด เมื่อเทียบกับ millfeeds เดิมที่มีอนุภาคขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของ 110 mm สำหรับชั่วโมงและ hrw 442 มิลลิเมตร ( P < 0.05 ) เป็นหมายเลขของการรักษาเพิ่มขึ้น มวล อนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของ millfeeds พื้นดินดีลดลง สำหรับชั่วโมง ขนาดเฉลี่ยอนุภาคมี 260225 307 , ,และ 178 มิลลิเมตร ตามลำดับ จาก 1 ถึง 4 บดบดรักษา ; ในขณะที่สำหรับ hrw จำนวน 319 , 274 , 235 , 185 มิลลิเมตร ตามลำดับ จาก 1 ใน 4 บดบดรักษา มีอนุภาคขนาดใหญ่กว่า 500 มม. หลัง 2 ครั้งก็ได้คัฟ ทั้ง hrw ชม. ,อนุภาคที่ผ่านตะแกรงขนาด 500 มม. แต่ยังคงอยู่บนด้านบนของตะแกรงขนาด 300 มม. มีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม 1 บดสำหรับบด 4 กลุ่ม ส่วนที่ใหญ่ที่สุดคืออนุภาคที่ผ่านตะแกรง 212 มม. แต่ยังคงอยู่บนด้านบนของตะแกรง 150 มิลลิเมตร การกระจายขนาดของอนุภาคเป็นแบบแป้งเกรดตรงและสร้าง wwfs แสดงในตารางที่ 1สำหรับการปรับ wwfs พื้นดินทั้งข้าวสาลีชั้นเรียน เปอร์เซ็นต์แป้งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 300 มิลลิเมตร ค่อยๆ ลดลงเป็น millfeeds ได้ผ่านหมายเลขของทรีทเม้นต์เพื่อบดละเอียด อย่างไรก็ตาม เพียง 4 กลุ่ม พบมีขนาดเล็กหรือกลางบดบดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 กลุ่ม ( p < 0.05 )wwfs ทั้งหมดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ millfeeds พื้นดินดีที่มีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางกว่าแป้งเกรดตรงมีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยกว่า thewwf กับ millfeeds เดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 )