In 1938 Otto Hahn and Fritz Strassm

In 1938 Otto Hahn and Fritz Strassmann discovered nuclear fission with radiochemical methods, and in 1939 Lise Meitner and Otto Robert Frisch wrote the first theoretical interpretation of the fission process, which was later improved by Niels Bohr and John A. Wheeler. Further developments took place during World War II, which led to the practical application of radar and the development and use of the atomic bomb. Though the process had begun with the invention of the cyclotron by Ernest O. Lawrence in the 1930s, physics in the postwar period entered into a phase of what historians have called "Big Science", requiring massive machines, budgets, and laboratories in order to test their theories and move into new frontiers. The primary patron of physics became state governments, who recognized that the support of "basic" research could often lead to technologies useful to both military and industrial applications. Currently, general relativity and quantum mechanics are inconsistent with each other, and efforts are underway to unify the tw

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค.ศ. 1938 ออตโตแฟง Fritz Strassmann พบและนิวเคลียร์ฟิชชัน ด้วยวิธี radiochemical และในปีพ.ศ. 2482 Lise Meitner และออตโต Robert Frisch เขียนการตีความทฤษฎีแรกของกระบวนการฟิชชัน ซึ่งภายหลังถูกปรับปรุง โดยจำลองของบอร์ของ Niels และ John A. ล้อ การพัฒนาเกิดขึ้นในระหว่างสงครามโลก ซึ่งนำไปสู่การทำงานของเรดาร์ และการพัฒนาและการใช้ระเบิดปรมาณู แม้ว่ากระบวนการได้เริ่ม มีการประดิษฐ์ cyclotron โดยลอว์เรนซ์โอ Ernest ในทศวรรษ 1930 ฟิสิกส์ในช่วงหลังสงครามที่ป้อนในขั้นตอนของสิ่งที่นักประวัติศาสตร์ได้เรียก "ใหญ่ศาสตร์ ต้องการเครื่องขนาดใหญ่ งบประมาณ และห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบทฤษฎีของพวกเขา และย้ายเข้าสู่เขตแดนใหม่ขึ้น อุปถัมภ์หลักของฟิสิกส์กลายเป็น รัฐรัฐบาล ใครรู้จักว่า การสนับสนุนของ "พื้นฐาน" วิจัยอาจนำไปสู่เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในการใช้งานทั้งทางทหาร และอุตสาหกรรมมักจะ ปัจจุบัน กลศาสตร์ควอนตัมและทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปไม่สอดคล้องกัน และยังรวมการ tw

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1938 อ็อตโตฮาห์นและฟริตซ์ Strassmann ค้นพบนิวเคลียร์ด้วยวิธีการ radiochemical และในปี 1939 Lise Meitner และอ็อตโตโรเบิร์ต Frisch เขียนตีความทฤษฎีแรกของกระบวนการฟิชชันซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในภายหลังโดยนีลส์บอและจอห์นเอวีลเลอร์ การพัฒนาต่อไปเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งนำไปสู่​​การใช้ประโยชน์ของเรดาร์และการพัฒนาและการใช้ระเบิดปรมาณู แม้ว่ากระบวนการได้เริ่มต้นด้วยการประดิษฐ์ของ cyclotron โดยเออร์เนสทุมอเรนซ์ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ฟิสิกส์ในสมัย​​หลังสงครามที่ป้อนเข้าสู่ขั้นตอนของสิ่งที่นักประวัติศาสตร์ได้เรียกว่า "บิ๊กวิทยาศาสตร์" ซึ่งได้กำหนดให้เครื่องขนาดใหญ่งบประมาณและห้องปฏิบัติการเพื่อ ทดสอบทฤษฎีของพวกเขาและย้ายเข้าไปอยู่ในเขตแดนใหม่ ผู้มีพระคุณหลักของฟิสิกส์กลายเป็นรัฐบาลของรัฐที่ได้รับการยอมรับว่าการสนับสนุนของการวิจัย "พื้นฐาน" มักจะนำไปสู่​​เทคโนโลยีที่มีประโยชน์ทั้งทางทหารและการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม ปัจจุบันพัทธภาพทั่วไปและควอนตัมกลศาสตร์ไม่สอดคล้องกับแต่ละอื่น ๆ และกำลังพยายามที่จะรวมกันทีดับบลิว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2481 ออทโท ฮาน และ ฟริทซ์ strassmann ค้นพบการแบ่งแยกนิวเคลียสด้วยวิธี radiochemical และในปี 1939 ลิซ ไมท์เนอร์กับอ๊อตโต้โรเบิร์ตฟริสช์เขียนตีความทฤษฎีแรกของกระบวนการฟิชชันซึ่งภายหลังถูกพัฒนาโดยนีลส์ โบร์ และ จอห์น เอ. วีลเลอร์ ต่อไปเอาสถานที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งนำไปสู่การใช้ประโยชน์ของเรดาร์และการพัฒนาและการใช้ระเบิดปรมาณู แม้ว่ากระบวนการได้เริ่มมีการประดิษฐ์เครื่องแยกปรมาณูโดย Ernest O . Lawrence ใน 1930 , ฟิสิกส์ในสมัยหลังสงคราม เข้าไปในเฟสของสิ่งที่มีนักประวัติศาสตร์เรียกว่า " วิทยาศาสตร์ " โดยเครื่องจักรขนาดใหญ่ งบประมาณ และห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบทฤษฎีและย้ายเข้าไปในพรมแดนใหม่ ผู้อุปถัมภ์หลักของฟิสิกส์ เป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับว่า การสนับสนุนของ " การวิจัยพื้นฐาน " มักจะนำไปสู่เทคโนโลยีมีประโยชน์ทั้งทหารและอุตสาหกรรม ในปัจจุบัน ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปและกลศาสตร์ควอนตัมที่สอดคล้องกับแต่ละอื่น ๆและมีความพยายามดำเนินการเพื่อรวมกันด่วน