Participating vs. Non-Participating

Participating vs. Non-Participating Insurance Policies
This concept primarily related to the topic of life insurance. Both types of insurance policies, term and cash value, can act as either participating or non-participating (par or non-par, respectively). Most policies are par policies.

Par Policies
Insurance companies will charge higher than necessary premiums with the intent of returning the excess. Excess premiums are charged because the insurance company will operate based on more conservative estimates. For example, they will base premiums on higher operating costs and lower rates of return than are actually expected. This allows the insurance company to better protect against non-diversifiable (highly correlated) risk. In the end, this is better for the individual in that their insurance company bears less insolvency risk, and their expected costs are lower, resulting in lower premiums in the long run. Par policies are essentially a form of risk sharing where the insurance company shifts a portion of risk to policyholders.

Though the factors and assumptions (interest rates, mortality rates, expenses) that dividend formulas are based on change year to year, the insurance company will not vary dividends from year to year. Instead, they will alter dividend formulas periodically based on experience and anticipated future factors. The previous statements apply to whole life insurance. Universal life insurance policy dividend rates can adjust much more frequently, even monthly.

Return of excess premiums through dividends to the policyholder are not taxable because, unlike with investments, they are not earnings but return of excess premium payments. There are different ways in which these dividends can be utilized. Two of the most common ways are to apply them towards the cost of the future premiums (lowering premium payments), or to use them to increase the face value of the policy (paid-up additions).

Non-Par Policies
Insurance companies charge premiums that are estimated to meet expenses. Non-par premiums are usually lower than premiums for par policies.

Par policies can end up costing less than non-par policies if maintained long-term. With cash value policies, the dividend will typically increase as the policy’s cash value increases.

Insurance agents will show “illustrated dividends” when selling policies. Illustrated dividends are current or expected dividend rates. Though these tables may be attractive, keep in mind that they are for illustrative purposes only and actual experience may differ.

There exists an argument on risk bearing with participating whole life policies. In the article detailing whole life insurance I stated that, from the perspective of the policyholder, whole life policies are essentially risk free because the insurance company bears all risk. Above I stated that with participating whole life policies the insurance company shifts some risk to the policyholder. The simple answer is that dividends for whole life policies reflect long-term trends in interest rates, costs, and expenses. This long-term affiliation has a dulling effect on changes in these trends, making dividends less volatile. Essentially, with participating whole life policies a risk does exist, but this risk is relatively insignificant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เข้าร่วมกับกรมธรรม์ประกันภัยที่ไม่ร่วมรายการ แนวคิดนี้เป็นหลักการที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของประกันชีวิต ประกัน ระยะเวลา และเงินสดค่า ทั้งสองชนิดสามารถทำหน้าที่เป็นส่วนร่วมหรือไม่ร่วมรายการ (ตราไว้หรือไม่ตราไว้ ตามลำดับ) นโยบายส่วนใหญ่เป็นนโยบายตรานโยบายตราบริษัทประกันภัยจะคิดค่าธรรมเนียมสูงกว่าเบี้ยประกันที่จำเป็น ด้วยเจตนาส่วนเกินกลับมา เบี้ยเกินจะมีค่าเนื่องจากบริษัทประกันภัยจะทำงานตามประมาณการระมัดระวังมากขึ้น เช่น พวกเขาจะขึ้นเบี้ยค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าที่คาดไว้จริง ๆ นี้ช่วยให้บริษัทประกันภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง (สูงมีความสัมพันธ์) -diversifiable ดีกว่า ในสุด นี้ดีกว่าสำหรับแต่ละบุคคลในการที่บริษัทประกันภัยมีความเสี่ยงล้มละลายน้อย และค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะส่งผลให้ค่าในระยะยาว ต่ำ นโยบายตรามีฟอร์มของความเสี่ยงร่วมกันที่บริษัทประกันภัยกะส่วนของความเสี่ยงที่ผู้ถือกรมธรรม์เป็นหลักแม้ว่าปัจจัยและสมมติฐาน (อัตราดอกเบี้ย อัตราการตาย ค่าใช้จ่าย) ตามสูตรเงินปันผลจะเปลี่ยนแปลงไปปี บริษัทประกันภัยจะไม่ได้เงินปันผลปี แทน พวกเขาจะเปลี่ยนสูตรเป็นระยะ ๆ ตามประสบการณ์ และคาดว่าในอนาคตปัจจัยเงิน คำสั่งก่อนหน้านี้ใช้ประกันชีวิตทั้งนั้น ราคาพิเศษประกันชีวิตสากลนโยบายเงินปันผลสามารถปรับบ่อยครั้งมากขึ้น แม้แต่รายเดือนคืนเบี้ยประกันส่วนเกินผ่านเงินปันผลให้ผู้ถือกรมธรรม์ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ ไม่เหมือนกับการลงทุน พวกเขาจะไม่กำไรแต่การคืนเงินส่วนเกินพรีเมี่ยม มีหลายวิธีที่สามารถใช้เงินปนผล 2 วิธีธรรมดาที่สุดคือการนำไปใช้ต่อค่าใช้จ่ายของเบี้ยประกันในอนาคต (ลดเงินพรีเมี่ยม), หรือใช้ในการเพิ่มมูลค่าของนโยบาย (ชำระเพิ่ม)นโยบายไม่ใช่ตราบริษัทประกันคิดค่าเบี้ยที่ประมาณกับค่าใช้จ่าย ไม่ใช่ตราที่ระลึกมักจะต่ำกว่าค่าจ้างพิเศษสำหรับนโยบายตรานโยบายตราสามารถจบค่าต้นทุนน้อยกว่าไม่ใช่ตรานโยบายถ้ารักษาระยะยาว นโยบายค่าเงินสด เงินปันผลจะเพิ่มขึ้นเป็นนโยบายการเพิ่มค่าของเงินสดโดยทั่วไปตัวแทนประกันจะแสดง "แสดงเงินปันผล" เมื่อขายนโยบาย แสดงเงินปันผลมีอัตราเงินปันผลปัจจุบัน หรือที่คาดไว้ ว่าตารางเหล่านี้อาจจะน่าสนใจ โปรดจำไว้ว่ามีการจำลอง และประสบการณ์จริงอาจแตกต่าง กันมีการโต้แย้งบนแบริ่งทั้งชีวิตเข้าร่วมนโยบายความเสี่ยง ในบทความประกันชีวิตทั้งรายละเอียด จะระบุว่า จากมุมมองของผู้ถือกรมธรรม์ นโยบายทั้งชีวิตมีหลักไร้ความเสี่ยง เพราะบริษัทประกันภัยมีความเสี่ยงทั้งหมด ข้างต้นจะระบุว่า ตามนโยบายทั้งชีวิตร่วม บริษัทประกันภัยกะความเสี่ยงบางอย่างที่ผู้ถือกรมธรรม์ คำตอบง่าย ๆ คือ เงินปันผลสำหรับนโยบายทั้งชีวิตสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มระยะยาวในอัตราดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่าย และ เข้าสังกัดนี้ระยะยาวมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้วยการขจัดในแนวโน้มเหล่านี้ ทำให้ปันผลน้อยระเหย หลัก ทั้งชีวิตเข้าร่วมนโยบาย ความเสี่ยงมีอยู่ แต่ความเสี่ยงนี้จะค่อนข้างสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การมีส่วนร่วมกับการที่ไม่ร่วมนโยบายการประกัน
แนวคิดนี้เป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของการประกันชีวิต ทั้งสองประเภทของนโยบายการประกันระยะและมูลค่าเงินสดสามารถทำหน้าที่เป็นทั้งการมีส่วนร่วมหรือไม่เข้าร่วมโครงการ (หุ้นที่ตราไว้หรือไม่ที่ตราไว้หุ้นตามลำดับ) นโยบายส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายที่ตราไว้หุ้น. Par นโยบายบริษัท ประกันจะคิดค่าบริการสูงกว่าพรีเมี่ยมที่จำเป็นด้วยความตั้งใจที่จะกลับส่วนเกิน พรีเมี่ยมส่วนเกินเป็นค่าใช้จ่ายเพราะ บริษัท ประกันภัยจะดำเนินการบนพื้นฐานของการประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ตัวอย่างเช่นพวกเขาจะมีฐานเบี้ยประกันค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นและอัตราการลดลงของผลตอบแทนที่คาดว่ากว่าจริง นี้จะช่วยให้ บริษัท ประกันภัยที่ดีในการป้องกันไม่ใช่ diversifiable (ความสัมพันธ์) ความเสี่ยงจาก ในท้ายที่สุดนี้จะดีสำหรับบุคคลในการที่ บริษัท ประกันของพวกเขาความเสี่ยงล้มละลายน้อยลงและค่าใช้จ่ายของพวกเขาคาดว่าจะลดลงส่งผลให้ในพรีเมี่ยมที่ต่ำกว่าในระยะยาว นโยบายที่ตราไว้หุ้นเป็นหลักรูปแบบของการกระจายความเสี่ยงที่ บริษัท ประกันภัยกะเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงให้กับผู้ถือกรมธรรม์ที่. แม้ว่าปัจจัยและข้อสมมติฐาน (อัตราดอกเบี้ยอัตราการตายของค่าใช้จ่าย) ที่สูตรการจ่ายเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงปีที่ปี บริษัท ประกันภัยจะ ไม่ได้แตกต่างกันไปการจ่ายเงินปันผลจากปีที่ปี แต่พวกเขาจะเปลี่ยนสูตรการจ่ายเงินปันผลตามระยะ ๆ อยู่กับประสบการณ์และคาดว่าจะมีความเสี่ยงในอนาคต งบก่อนหน้านี้นำไปใช้กับทั้งประกันชีวิต ชีวิตนโยบายการประกันอัตราเงินปันผลสากลสามารถปรับบ่อยมากขึ้นแม้รายเดือน. การกลับมาของพรีเมี่ยมส่วนเกินผ่านเงินปันผลให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์จะไม่ต้องเสียภาษีเพราะไม่เหมือนกับการลงทุนที่พวกเขาจะไม่ได้กำไร แต่การกลับมาของพรีเมี่ยมชำระเงินส่วนเกิน มีวิธีการที่แตกต่างกันในการที่เงินปันผลเหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็น สองวิธีที่พบมากที่สุดที่มีการใช้พวกเขาที่มีต่อค่าใช้จ่ายของพรีเมี่ยมในอนาคต (ลดการชำระเงินพรีเมี่ยม) หรือจะใช้พวกเขาเพื่อเพิ่มมูลค่าของนโยบาย (เพิ่มเติม paid-up). พาร์ไม่ใช่นโยบายของบริษัท ประกันภัยคิดค่าเบี้ยประกัน ที่คาดว่าจะตอบสนองค่าใช้จ่าย พรีเมี่ยมที่ไม่ใช่ตราไว้หุ้นละมักจะต่ำกว่าพรีเมี่ยมสำหรับนโยบายที่ตราไว้หุ้น. นโยบายที่ตราไว้สามารถสิ้นสุดต้นทุนน้อยกว่านโยบายที่ไม่ใช่ตราไว้หุ้นละถ้าการบำรุงรักษาในระยะยาว กับนโยบายของมูลค่าเงินสดปันผลมักจะเพิ่มขึ้นเป็นนโยบายของการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินสด. ตัวแทนประกันภัยจะแสดง "เงินปันผลภาพประกอบ" เมื่อขายนโยบาย ภาพประกอบเงินปันผลอัตราการจ่ายเงินปันผลในปัจจุบันหรือคาดว่า แม้ว่าตารางเหล่านี้อาจจะเป็นที่น่าสนใจเก็บไว้ในใจว่าพวกเขาจะใช้เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้นและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างกัน. มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการแบกความเสี่ยงกับการมีส่วนร่วมนโยบายทั้งชีวิตอยู่ ในบทความรายละเอียดการประกันชีวิตทั้งชีวิตของผมกล่าวว่าจากมุมมองของผู้ถือกรมธรรม์นโยบายทั้งชีวิตเป็นหลักมีความเสี่ยงฟรีเพราะ บริษัท ประกันความเสี่ยงทั้งหมด ดังกล่าวข้างต้นที่ผมระบุว่ามีส่วนร่วมกับนโยบายทั้งชีวิต บริษัท ประกันความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อให้ผู้ถือกรมธรรม์ คำตอบง่ายๆคือว่าเงินปันผลสำหรับนโยบายทั้งชีวิตสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มระยะยาวในอัตราดอกเบี้ยค่าใช้จ่ายและค่าใช้จ่าย นี้ความร่วมมือในระยะยาวมีผล dulling การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเหล่านี้ทำให้เงินปันผลผันผวนน้อย เป็นหลักที่มีส่วนร่วมนโยบายทั้งชีวิตมีความเสี่ยงไม่อยู่ แต่ความเสี่ยงนี้ค่อนข้างที่ไม่มีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมโครงการ นโยบายการประกันแนวคิดนี้เป็นหลักที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของประกันชีวิต ทั้งสองประเภทของนโยบายการประกันระยะยาวและเงินสด สามารถเป็นทั้งการมีส่วนร่วม ( PAR หรือไม่ใช่หรือไม่ พาร์ ตามลำดับ ) นโยบายส่วนใหญ่มีนโยบายที่ตราไว้หุ้นละนโยบาย พาร์บริษัทประกันจะคิดค่าบริการสูงกว่าเบี้ยประกันที่จำเป็นกับเจตนาของคืนเงินส่วนเกิน เบี้ยเกินจะคิดค่าบริการ เพราะบริษัทประกันภัยจะดำเนินการตามประมาณการอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ตัวอย่างเช่นพวกเขาจะฐานเบี้ยประกันที่สูงกว่าต้นทุนและลดอัตราผลตอบแทนมากกว่าจริง ๆคาดว่า นี้จะช่วยให้ บริษัท ประกันภัยเพื่อให้การปกป้องต่อต้านไม่ใช่ diversifiable ( ระดับสูง ) ความเสี่ยง ในที่สุด นี่คือที่ดีสำหรับบุคคลในที่ บริษัท ประกันของพวกเขาหมีความเสี่ยงการล้มละลายน้อยลง และต้นทุนที่คาดว่าจะลดลง ส่งผลให้เบี้ยลดลงได้ในระยะยาว นโยบายที่ตราไว้เป็นหลักรูปแบบของความเสี่ยงที่ บริษัท ประกันกะ ส่วนฐานของความเสี่ยง .แม้ว่าปัจจัยและสมมติฐาน ( ค่าใช้จ่ายอัตราดอกเบี้ย อัตราการเสียชีวิต ) เงินปันผลสูตรจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงปี บริษัทประกันภัยจะไม่แตกต่างกันเท่าจากปี แต่พวกเขาจะดัดแปลงสูตรปันผลเป็นระยะ ๆ ตามประสบการณ์ และคาดว่าปัจจัยในอนาคต ข้อความเดิมสมัครประกันชีวิตทั้งหมด อัตราเงินปันผลกรมธรรม์ประกันชีวิตสากลสามารถปรับมากบ่อยกว่ารายเดือนได้ผลตอบแทนเงินปันผลให้ผู้ถือกรมธรรม์เบี้ยเกินผ่านไม่ต้องเสียภาษี เพราะไม่เหมือนกับการลงทุนของพวกเขาจะไม่ได้กำไรแต่ผลตอบแทนส่วนเกิน พรีเมี่ยม เงิน มีวิธีการที่แตกต่างกันในการที่ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้ สองวิธีที่พบมากที่สุดคือการใช้พวกเขาต่อต้นทุนของค่าจ้างพิเศษในอนาคต ( ลดพิเศษ เงิน ) หรือใช้พวกเขาเพื่อเพิ่มมูลค่าของนโยบาย ( จ่ายเพิ่ม )หุ้นไม่ใช่นโยบายบริษัท ประกันภัย เบี้ยประกันค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะพบค่าใช้จ่าย ไม่หุ้นเบี้ยมักจะต่ำกว่าเบี้ยนโยบายพาร์นโยบายโดยสามารถสิ้นสุดต้นทุนน้อยกว่านโยบายพาร์ไม่ถ้ารักษาในระยะยาว มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเงินสด โดยทั่วไปจะเพิ่มเป็นกรมธรรม์มูลค่าเงินสดเพิ่มขึ้นตัวแทนประกันจะแสดง " แสดงโดย " เมื่อขายนโยบาย แสดงปัจจุบันอัตราเงินปันผลหรือเงินปันผลที่คาดไว้ แม้ว่าตารางเหล่านี้อาจจะน่าสนใจ เก็บไว้ในใจว่าพวกเขามีวัตถุประสงค์เพื่อลงเท่านั้น และประสบการณ์จริง อาจแตกต่างออกไปมีอาร์กิวเมนต์ในความเสี่ยงต่อการมีส่วนร่วมทั้งชีวิตนโยบาย ในบทความรายละเอียดทั้งประกันชีวิต ระบุว่าจากมุมมองของ policyholder ชีวิตทั้งนโยบายเป็นหลัก ความเสี่ยงฟรี เพราะ บริษัท ประกันภัยมีความเสี่ยงทั้งหมด ข้างต้นที่ผมกล่าวว่า ด้วยนโยบาย บริษัท ประกันภัยที่เข้าร่วมทั้งหมดชีวิตกะบางความเสี่ยงที่ผู้ถือกรมธรรม์ . คำตอบง่าย ๆ คือ เงินปันผลสำหรับชีวิตทั้งนโยบายที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มระยะยาวในอัตราดอกเบี้ย ต้นทุน และค่าใช้จ่าย ความร่วมมือระยะยาวนี้มี dulling มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มเหล่านี้ ทำให้ปันผลผันผวนน้อยลง เป็นหลัก ด้วยการเข้าร่วมทั้งหมดชีวิตนโยบายความเสี่ยงมีอยู่จริง แต่ความเสี่ยงนี้จะค่อนข้างน้อย