Labile soil organic carbon fraction

Labile soil organic carbon fractions are important indicators of soil C dynamics, which is affected by different management practices. However, few studies have reported the short-term effect of a wide range of organic materials mulching on the distribution of soil total organic C (TOC) and its labile C pools in a low-productivity paddy soil. Our objective was quantify TOC and labile organic C fractions down a 0–30 cm soil profile in a 4-year field experiment receiving four organic amendments (spent mushroom compost, green manure, cattle manure and rice straw residues). Soil samples were taken from the 0–5 cm, 5–10 cm, 10–20 cm and 20–30 cm soil depths. Soil total organic carbon (TOC), total nitrogen (TN), microbial biomass C (MBC), particulate organic C (POC), potassium permanganate-oxidizable C (KMnO4-C) and dissolved organic C (DOC) were measured. Carbon management index (CMI) was also calculated. Among the four organic amendments, cattle manure showed the most profound effect on TOC, TN and labile organic C fractions and produced the highest 4-year average rice grain yield (9.67 t ha−1). The cattle manure combined with NPK resulted in the highest level of TOC (19.2 g kg−1) and TN (1.86 g kg−1) in the surface soil (0–5 cm). Additionally, KMnO4-C and MBC concentrations in the cattle manure plus NPK treatment were 1.3 and 1.5 times higher at the 0–5 cm depth, 1.4 and 1.6 times higher at the 5–10 cm depth, 1.2 and 1.4 times higher at the 10–20 cm depth compared to NPK fertilizer alone, respectively. However, POC was not sensitive to different management practices in the deeper soil layer (10–20 cm). DOC was not significantly affected by fertilization in the 0–20 cm soil layer, suggesting it was unsuitable as an early indicator of soil quality. Overall, the integrated use of cattle manure and NPK fertilizers is the most efficient management practice in improving carbon sequestering under current soil conditions. A long-term assessment is needed to confirm the most effective and sustainable management practice for improving rice grain yield and soil quality.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศษส่วนปริมาณคาร์บอนอินทรีย์ของดิน labile มีตัวชี้วัดที่สำคัญของดิน C dynamics ซึ่งเป็นผลกระทบ โดยวิธีบริหารจัดการที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ศึกษาน้อยมีรายงานผลกระทบระยะสั้นของอินทรีย์วัสดุคลุมดินในการกระจายของดินรวมอินทรีย์ C (TOC) และสระว่ายน้ำ C ของ labile ในดินต่ำผลผลิตข้าวหลากหลาย วัตถุประสงค์ของเราคือปริมาณ TOC และ C เศษอินทรีย์ labile ลงโพรไฟล์ดิน 0 – 30 เซนติเมตรในการทดลอง 4 ปีฟิลด์รับแก้ไขสี่อินทรีย์ (ใช้เวลาหมักเห็ด ปุ๋ยเขียว วัว manure และข้าวฟางตก) ดินตัวอย่างที่ถ่ายจาก 0 – 5 ซม. 5 – 10 ซม. 10 – 20 ซม. และ 20 – 30 ซม.ลึกดิน ดินอินทรีย์คาร์บอนรวม (TOC), ไนโตรเจนทั้งหมด (TN) ชีวมวลจุลินทรีย์ C (MBC), วัดอนุภาคอินทรีย์ C (POC), C oxidizable ทับทิม (KMnO4-C) และละลายอินทรีย์ C (DOC) นอกจากนี้ยังมีคำนวณดัชนีการจัดการคาร์บอน (พรบ.) หมู่ที่สี่อินทรีย์แก้ไขเพิ่มเติม มูลวัวพบ TOC, TN และ labile อินทรีย์ C เศษผลลึกซึ้งมากที่สุด และผลิตผลผลิตข้าวเฉลี่ย 4 ปีเม็ด (9.67 t ha−1) ที่สูงที่สุด วัวปุ๋ยรวมกับ NPK ผลในระดับสูงสุดของ TOC (19.2 กรัม kg−1) และ TN (1.86 g kg−1) ในผิวดิน (0-5 cm) นอกจากนี้ ความเข้มข้น KMnO4 C และ MBC ในมูลวัวพร้อมรักษา NPK ได้ 1.3 และ 1.5 เท่าสูงกว่าที่ 0 – 5 ซม.ความลึก 1.4 และ 1.6 เท่าสูงกว่าที่ 1.2 5 – 10 ซม.ความลึก และ 1.4 ครั้งสูงที่ 10 – 20 ซม.ความลึกเมื่อเทียบกับปุ๋ย NPK คนเดียว ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม POC ไม่สำคัญการบริหารที่แตกต่างกันในดินชั้นลึก (10 – 20 เซนติเมตร) เอกสารแก้ไขไม่มากมีผลกระทบ โดยปฏิสนธิในชั้น 0 – 20 ซม.ดิน แนะนำมันก็ไม่เหมาะสมเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของดินก่อน โดยรวม การใช้มูลโคและปุ๋ยแบบบูรณาการเป็นการปฏิบัติการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพสูงสุดในการปรับปรุงแนวคาร์บอนภายใต้สภาพดินปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการประเมินผลระยะยาวเพื่อยืนยันการปฏิบัติการจัดการมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากที่สุดสำหรับการปรับปรุงคุณภาพดินและผลผลิตเมล็ดข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

labile ดินอินทรีย์เศษส่วนคาร์บอนเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงของดิน C ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามการศึกษาน้อยได้มีการรายงานผลกระทบระยะสั้นของความหลากหลายของวัสดุอินทรีย์คลุมดินในการกระจายของดินรวม C อินทรีย์ (TOC) และสระว่าย C labile ของตนในผลผลิตข้าวต่ำดิน วัตถุประสงค์ของเราคือปริมาณ TOC และ labile เศษส่วน C อินทรีย์ลง 0-30 ซม. รายละเอียดของดินในการทดลองภาคสนาม 4 ปีที่ได้รับการแก้ไขสี่ฉบับอินทรีย์ (ใช้เวลาหมักเห็ดปุ๋ยพืชสดปุ๋ยคอกและฟางข้าวตกค้าง) ตัวอย่างดินที่นำมาจาก 0-5 ซม. 5-10 ซม. 10-20 ซม. และ 20-30 ซม. ความลึกของดิน ทั้งหมดในดินอินทรีย์คาร์บอน (TOC), ไนโตรเจนทั้งหมด (TN) จุลินทรีย์ชีวมวล C (MBC) อนุภาค C อินทรีย์ (POC) ด่างทับทิม-ออกซิไดซ์ C (KMnO4-C) และละลายอินทรีย์ C (DOC) ถูกวัด ดัชนีการจัดการคาร์บอน (CMI) นอกจากนี้ยังได้รับการคำนวณ ในบรรดาสี่แก้ไขอินทรีย์ปุ๋ยคอกแสดงให้เห็นผลกระทบอย่างลึกซึ้งมากที่สุดใน TOC, เทนเนสซีและ labile เศษส่วนอินทรีย์ C และผลิต 4 ปีผลผลิตข้าวเฉลี่ยสูงสุด (9.67 ตันต่อเฮกตาร์ 1) มูลวัวรวมกับ NPK ผลในระดับสูงสุดของ TOC (19.2 กรัมต่อกิโลกรัม-1) และ TN (1.86 กรัมต่อกิโลกรัม-1) ในดินพื้นผิว (0-5 ซม.) นอกจากนี้ KMnO4-C และ MBC ความเข้มข้นในการรักษาการใส่ปุ๋ยคอกบวก NPK 1.3 และ 1.5 เท่าสูงกว่าที่ระดับความลึก 0-5 ซม., 1.4 และ 1.6 เท่าสูงที่ระดับความลึก 5-10 ซม., 1.2 และ 1.4 เท่าสูงกว่าที่ 10 -20 ซม. ความลึกเมื่อเทียบกับปุ๋ย NPK เพียงอย่างเดียวตามลำดับ อย่างไรก็ตาม POC ไม่ได้มีความไวต่อการจัดการที่แตกต่างกันในชั้นดินลึก (10-20 ซม.) DOC ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการปฏิสนธิในชั้นดิน 0-20 ซม. บอกว่ามันเป็นที่ไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นตัวบ่งชี้แรกของคุณภาพดิน โดยรวม, การใช้งานแบบบูรณาการของการใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ย NPK คือการปฏิบัติจัดการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการปรับปรุง sequestering คาร์บอนภายใต้สภาพดินในปัจจุบัน การประเมินในระยะยาวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืนยันการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและยั่งยืนสำหรับการปรับปรุงผลผลิตข้าวและคุณภาพดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินอินทรีย์คาร์บอนที่เศษส่วนเป็นตัวชี้วัดสำคัญของดิน C พลวัต ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการบริหารที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาน้อย รายงานผลระยะสั้นในช่วงกว้างของวัสดุคลุมดินอินทรีย์ในการกระจายของดินอินทรีย์ทั้งหมด C ( TOC ) และที่ C สระว่ายน้ำในดินนาที่มีประสิทธิภาพ . วัตถุประสงค์ของเราคือปริมาณ TOC ที่อินทรีย์และ C เศษส่วนลง 0 – 30 ซม. ดินโปรไฟล์ในแปลงทดลอง 4 ปีได้รับ 4 แก้ไขเพิ่มเติม ( ใช้เห็ดอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด มูลสัตว์ และเศษฟางข้าว ) ตัวอย่างดินจาก 0 – 5 เซนติเมตร 5 – 10 ซม. 10 – 20 ซม. และ 20 – 30 ซม. ดินที่ความลึก ดินอินทรีย์คาร์บอนทั้งหมด ( TOC ) ไนโตรเจน ( TN ) มวลชีวภาพ C ( MBC ) อนุภาคอินทรีย์ C ( POC ) , โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต oxidizable C ( kmno4-c ) และละลายอินทรีย์ C ( DOC ) วัด ดัชนีการจัดการคาร์บอน ( CMI ) ก็คำนวณไว้แล้ว ระหว่างสี่อินทรีย์แก้ไข ปุ๋ยคอก พบผลลึกซึ้งที่สุดใน TOC ไนโตรเจนและอินทรีย์ C ที่เศษส่วน และผลิตข้าวเฉลี่ยสูงสุด 4 ผลผลิต ( 9.67 T ฮา− 1 ) ใช้ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ย NPK ผลในระดับของ TOC ( กก. 19.2 กรัม− 1 ) และ TN ( กก. 1.86 G − 1 ) ในดิน ( 0 – 5 ซม. ) นอกจากนี้ kmno4-c MBC และความเข้มข้นในการรักษา คือ ให้ปุ๋ยคอกบวก 1.3 และ 1.5 เท่าสูงกว่าที่ 0 – 5 เซนติเมตร ความลึก 1.4 และ 1.6 เท่าสูงกว่าที่ 5 – 10 เซนติเมตร , 1.2 และ 1.4 เท่า สูงกว่าเมื่อ 10 - 20 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับ NPK ปุ๋ยคนเดียว ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไม่ไวต่อการปฏิบัติการด้านการจัดการต่าง ๆ ในดินชั้นลึก ( 10 – 20 ซม. ) หมอไม่มีผลต่อโดยการปฏิสนธิใน 0 - 20 ซม. ดินว่า มันไม่เหมาะสมเป็นตัวบ่งชี้ต้นของคุณภาพดิน โดยรวมแล้ว การใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ย คือ การจัดการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการปรับปรุงการปฏิบัติคาร์บอน sequestering ภายใต้สภาพดินในปัจจุบัน การประเมินระยะยาว ก็ต้องยืนยัน มีประสิทธิภาพมากที่สุด และฝึกการจัดการที่ยั่งยืนสำหรับการปรับปรุงผลผลิตข้าวและคุณภาพดิน