1. พิษภัยของบุหรี่ ควันบุหรี่มีสารประกอบที่เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็ง ไ การแปล - 1. พิษภัยของบุหรี่ ควันบุหรี่มีสารประกอบที่เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็ง ไ ไทย วิธีการพูด

1. พิษภัยของบุหรี่ ควันบุหรี่มีสารป

1. พิษภัยของบุหรี่
ควันบุหรี่มีสารประกอบที่เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็ง ได้แก่สารประกอบ
ต่าง ๆคือ
1.1 สารประกอบในบุหรี่ ควันบุหรี่ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บุหรี่มีสารประกอบทางเคมี
มากกว่า 7,000 ชนิด ในจานวนนี้เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งไม่ต่ากว่า 72 ชนิด (ประกิต วาที
สาธกกิจ: 2554) นอกเหนือไปจากสารเสพติดและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสารประกอบที่
สาคัญ เช่น
1) นิโคติน (Nicotine) เป็นสารที่ทาให้ติดบุหรี่ ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมอง เป็นทั้งตัวกระตุ้นและกดประสาทส่วนกลาง ถ้าได้รับสารนี้ในปริมาณน้อย เช่น จากการสูบบุหรี่ 1-2 มวนแรก อาจกระตุ้นทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ถ้าสูบหลายมวนก็จะกดประสาทส่วนกลาง ทาให้ความรู้สึกต่าง ๆ ช้าลงร้อยละ 95 ของนิโคตินจะไปจับอยู่ที่ปอด บางส่วนจับอยู่ที่เยื่อหุ้มริมฝีปาก และบางส่วนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด มีผลโดยตรงต่อต่อมหมวกไต ก่อให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน (Epinephrine) ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ และเต้นไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนและขาหดตัวเพิ่มไขมันในเส้นเลือด บุหรี่ 1 มวนจะมีนิโคติน 0.8-1.8 มิลลิกรัม บุหรี่ก้นกรองไม่ได้ช่วยให้ร่างกายได้รับโคตินน้อยลง
2) ทาร์ (Tar) สารทาร์หรือน้ามันดิน มีลักษณะเหนียวประกอบด้วยสารหลายชนิดเกาะกันเป็นสารสีน้าตาลเข้ม เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น ปอด กล่องเสียง หลอดลม หลอดอาหาร ไต กระเพาะปัสสาวะ และอวัยวะอื่น ๆ ร้อยละ 50 ของทาร์จะไปจับที่ปอดทาให้เกิดการระคายเคือง เป็นสาเหตุของการไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะ ผู้ที่สูบบุหรี่วันละซอง ปอดจะได้รับสารทาร์เข้าไปประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ ประมาณ 110 กรัมต่อปี (บุหรี่ไทยมีสารทาร์อยู่ 12-24มิลลิกรัม/มวน)
3) คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbonmonoxide) เป็นก๊าซที่มีความเข้มข้นที่ออกมาพร้อมกับควันบุหรี่ สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วทาลายความสามารถในการจับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงตามปกติ ทาให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง เกิดการขาดออกซิเจน หัวใจต้องทางานหนักขึ้น ทาให้มึนงง หัวใจเต้นเร็วขึ้น เหนื่อยง่าย เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังทาให้เกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้กล้ามเนื้อแขนขาไม่มีแรง

4) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nitrogen dioxide) เป็นก๊าซพิษที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม ทำผนังถุงลมบางและโป่งพอง ถุงลมเล็กๆ แตกรวมกันเป็นถุงลมใหญ่ ทาให้จานวน ถุงลมน้อยลงการยืดหยุ่นในการหายใจเข้า-ออกลดลง ทาให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเกิดอาการแน่นหน้าอก ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย
5) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) เป็นก๊าซพิษที่ทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนต้น ทาให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง มีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะเป็นประจาโดยเฉพาะในตอนเช้าจะมีเสมหะมากขึ้น
6) สารกัมมันตรังสี โพโลเนียม 210 (Polonium 210) เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีในควันบุหรี่ สารนี้ให้รังสีอัลฟา ซึ่งเป็นสาเหตุทาให้เกิดมะเร็งปอด และควันบุหรี่ยังเป็นพาหะที่มีประสิทธิภาพร้ายแรงในการนาสารกัมมันตภาพรังสี ทาให้ผู้ที่อยู่รอบข้างได้รับสารพิษนี้เข้าไปกับลมหายใจด้วย
7) แร่ธาตุต่างๆ แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โปแตสเซียม แคดเมียม ทองแดง นิเกิล โครเมียม พบได้ในควัน บุหรี่ ธาตุเหล่านี้เป็นสารตกค้างในใบยาสูบ เป็นสารที่ก่อให้เกิดภาวะเป็นพิษต่อร่างกายได้โดยเฉพาะ นิเกิล เมื่อทาปฎิกริยากับสารเคมีอื่นๆ จะเป็นสารพิษที่ทาให้เกิดโรคมะเร็งได้นอกจากนี้ในควันบุหรี่ยังพบสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายชนิดอื่นๆอีกหลายชนิด เช่น สารหนู สารปรอท สารไนโตรซามีน สารฟอร์มาดีไฮด์ เป็นต้น
1.2 สารปรุงแต่ง ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่า นอกจากสารเคมีที่มีอยู่ในใบยาสูบตามธรรมชาติบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ก็ได้เติมสารเคมีอื่น ๆ เข้าไปในบุหรี่ ทั้งที่ผสมรวมเข้าไปกับใบยาสูบและในกระดาษมวนบุหรี่ สารเหล่านี้เรียกรวม ๆ ว่าสารปรุงแต่ง ( additives) เพื่อเพิ่มรสชาติ ทำให้ลำคอโล่ง รสชาตินุ่มนวลไม่บาดคอ (เช่น น้าตาล เมนทอล กานพลู) เพื่อให้มีกลิ่นหอม (เช่น ลิ้นกวาง- coumarin) เพื่อให้เก็บได้ทนนาน (เช่น สารกันบูด สารกันเชื้อราสารกันชื้น) สารบางชนิดเป็นตัวเพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคติน (แอมโมเนีย) สารปรุงแต่งเหล่านี้บางชนิดโดยตัวเองไม่มีอันตราย หรือหากนาไปใส่ในอาหารรับประทานก็เป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัย แต่เมื่อนามาใส่ในบุหรี่และถูกเผาไหม้ร่วมกับสารเคมีอื่นๆอีกหลายชนิด จะกลายเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้สารปรุงแต่งที่พบว่ามีการนามาใส่ในบุหรี่มีจานวนมากกว่า 2,000 ชนิด บุหรี่แต่ละตราจะผสมสารปรุงแต่งประมาณไม่เกิน 100 ชนิด ในจานวนนี้พบว่ามีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายร้ายแรงในจานวนสารปรุงแต่งกลิ่นรสบุหรี่ 700 ชนิดที่บริษัทบุหรี่สหรัฐอเมริการายงานต่อรัฐบาลมีสารเคมี 13 ชนิดที่คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ห้ามใช้ผสมในอาหาร และจานวน 5 ชนิดเป็นสารอันตราย ระดับที่องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประกาศห้ามนาไปทิ้งในบริเวณกาจัดขยะบริษัทบุหรี่ในยุโรป และบริษัทบุหรี่ในนิวซีแลนด์รายงานต่อรัฐบาลนิวซีแลนด์ว่า มีสารปรุงแต่งกลิ่นรสถึง กว่า 2,000 ชนิด ขณะที่โรงงานยาสูบของประเทศไทยรายงานว่า มีการเติมสารปรุงแต่งในบุหรี่แต่ละตรา 15-20 ชนิด ตัวอย่างสารปรุงแต่งในบุหรี่ที่พบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
1) แอมโมเนีย (Ammonia) แอมโมเนียและสารประกอบของแอมโมเนียเป็นตัวเพิ่มนิโคตินอิสระ ( Freenicotine) ทำให้เพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคติน เป็นสารที่ก่อให้เกิดการ ระคายเคืองเนื้อเยื่อนัยน์ตาหลอดลม ผิวหนัง ทาให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ ไอมีเสมหะมาก
2) โกโก้ (cocoa) ทำให้เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็ง อนุญาตให้มีได้ในบุหรี่ไม่เกินร้อยละ 5 ของน้าหนักยาสูบ
3) ลิ้นกวาง (Coumarin) นิยมใส่เพื่อเพิ่มกลิ่น (กลิ่นวานิลา) และรสชาติของบุหรี่ โดยเฉพาะในบุหรี่ที่มีทาร์ต่ำ สารนี้เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับ ใช้เป็นสารฆ่าหนูและเป็นสารก่อมะเร็ง ในประเทศอังกฤษไม่อนุญาตให้ใส่ในอาหาร
4) กานพลู (Clove) ใส่เพื่อช่วยทาให้สูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อเผาไหม้จะเกิด eugenol ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ทาให้ชาเฉพาะที่ และกดประสาทส่วนกลาง คล้ายบาร์บิทูเรต (barbiturates) และแอลกอฮอล์ สารนี้ทาให้เกิดเลือดออกในลาไส้ เลือดคั่งในปอด ถุงลมโป่งพอง น้าท่วมปอด
5) Diethyl glycol (DEG) เป็นสารเพิ่มจุดเยือกแข็งที่เติมในหม้อน้ารถยนต์ เมื่อใส่ในบุหรี่จะ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
1. พิษภัยของบุหรี่ ควันบุหรี่มีสารประกอบที่เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งได้แก่สารประกอบต่างๆคือ1.1 สารประกอบในบุหรี่ควันบุหรี่ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บุหรี่มีสารประกอบทางเคมีสิ่งในจานวนนี้เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งไม่ต่ากว่า 72 สิ่งมากกว่า 7000 (ประกิตวาทีสาธกกิจ: 2554) นอกเหนือไปจากสารเสพติดและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสารประกอบที่สาคัญเช่น1) นิโคติน (นิโคติน) เป็นสารที่ทาให้ติดบุหรี่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองเป็นทั้งตัวกระตุ้นและกดประสาทส่วนกลางถ้าได้รับสารนี้ในปริมาณน้อยเช่น 1-2 จากการสูบบุหรี่มวนแรกอาจกระตุ้นทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแต่ถ้าสูบหลายมวนก็จะกดประสาทส่วนกลางทาให้ความรู้สึกต่างๆ ช้าลงร้อยละ 95 ของนิโคตินจะไปจับอยู่ที่ปอดบางส่วนจับอยู่ที่เยื่อหุ้มริมฝีปากและบางส่วนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดมีผลโดยตรงต่อต่อมหมวกไตก่อให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน (อะดรีนาลิน) ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติและเต้นไม่เป็นจังหวะหลอดเลือดที่แขนและขาหดตัวเพิ่มไขมันในเส้นเลือดบุหรี่ 1 มวนจะมีนิโคติน 0.8-1.8 มิลลิกรัมบุหรี่ก้นกรองไม่ได้ช่วยให้ร่างกายได้รับโคตินน้อยลง2) ทาร์ (Tar) สารทาร์หรือน้ามันดินมีลักษณะเหนียวประกอบด้วยสารหลายชนิดเกาะกันเป็นสารสีน้าตาลเข้มเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ได้เช่นปอดกล่องเสียงหลอดลมหลอดอาหารไตกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะอื่นๆ ร้อยละ 50 ของทาร์จะไปจับที่ปอดทาให้เกิดการระคายเคืองเป็นสาเหตุของการไอเรื้อรังไอมีเสมหะผู้ที่สูบบุหรี่วันละซองปอดจะได้รับสารทาร์เข้าไปประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อวันหรือประมาณ 110 กรัมต่อปี (บุหรี่ไทยมีสารทาร์อยู่ 12-24มิลลิกรัม/มวน)3) คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbonmonoxide) เป็นก๊าซที่มีความเข้มข้นที่ออกมาพร้อมกับควันบุหรี่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วทาลายความสามารถในการจับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงตามปกติทาให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเกิดการขาดออกซิเจนหัวใจต้องทางานหนักขึ้นทาให้มึนงงหัวใจเต้นเร็วขึ้นเหนื่อยง่ายเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจนอกจากนี้ยังทาให้เกิดอาการปวดศีรษะคลื่นไส้กล้ามเนื้อแขนขาไม่มีแรง4) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (ไนโตรเจนไดออกไซด์) เป็นก๊าซพิษที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลมทำผนังถุงลมบางและโป่งพองถุงลมเล็ก ๆ แตกรวมกันเป็นถุงลมใหญ่ทาให้จานวนถุงลมน้อยลงการยืดหยุ่นในการหายใจเข้าออกลดลงทาให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเกิดอาการแน่นหน้าอกไอเรื้อรังหอบเหนื่อย5) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (ไฮโดรเจนไซยาไนด์) เป็นก๊าซพิษที่ทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนต้นทาให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรังมีอาการไอเรื้อรังมีเสมหะเป็นประจาโดยเฉพาะในตอนเช้าจะมีเสมหะมากขึ้น6 สารกัมมันตรังสีโพโลเนียม 210 (พอโลเนียม 210) เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีในควันบุหรี่สารนี้ให้รังสีอัลฟาซึ่งเป็นสาเหตุทาให้เกิดมะเร็งปอดและควันบุหรี่ยังเป็นพาหะที่มีประสิทธิภาพร้ายแรงในการนาสารกัมมันตภาพรังสีทาให้ผู้ที่อยู่รอบข้างได้รับสารพิษนี้เข้าไปกับลมหายใจด้วย7) แร่ธาตุต่าง ๆ แร่ธาตุต่างๆ เช่นโปแตสเซียมแคดเมียมทองแดงนิเกิลโครเมียมพบได้ในควันบุหรี่ธาตุเหล่านี้เป็นสารตกค้างในใบยาสูบเป็นสารที่ก่อให้เกิดภาวะเป็นพิษต่อร่างกายได้โดยเฉพาะนิเกิลเมื่อทาปฎิกริยากับสารเคมีอื่น ๆ จะเป็นสารพิษที่ทาให้เกิดโรคมะเร็งได้นอกจากนี้ในควันบุหรี่ยังพบสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดเช่นสารหนูสารปรอทสารไนโตรซามีนสารฟอร์มาดีไฮด์เป็นต้น1.2 สารปรุงแต่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่านอกจากสารเคมีที่มีอยู่ในใบยาสูบตามธรรมชาติบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ก็ได้เติมสารเคมีอื่นๆ เข้าไปในบุหรี่ทั้งที่ผสมรวมเข้าไปกับใบยาสูบและในกระดาษมวนบุหรี่สารเหล่านี้เรียกรวมๆ ว่าสารปรุงแต่ง (สาร) เพื่อเพิ่มรสชาติทำให้ลำคอโล่งรสชาตินุ่มนวลไม่บาดคอ (เช่นน้าตาลเมนทอลกานพลู) เพื่อให้มีกลิ่นหอม (เช่นลิ้นกวาง-coumarin) เพื่อให้เก็บได้ทนนาน (เช่นสารกันบูดสารกันเชื้อราสารกันชื้น) สารบางชนิดเป็นตัวเพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคติน (แอมโมเนีย) สารปรุงแต่งเหล่านี้บางชนิดโดยตัวเองไม่มีอันตรายหรือหากนาไปใส่ในอาหารรับประทานก็เป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัยแต่เมื่อนามาใส่ในบุหรี่และถูกเผาไหม้ร่วมกับสารเคมีอื่นๆอีกหลายชนิดจะกลายเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้สารปรุงแต่งที่พบว่ามีการนามาใส่ในบุหรี่มีจานวนมากกว่า 2000 สิ่งบุหรี่แต่ละตราจะผสมสารปรุงแต่งประมาณไม่เกิน 100 สิ่งในจานวนนี้พบว่ามีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายร้ายแรงในจานวนสารปรุงแต่งกลิ่นรสบุหรี่ 700 ชนิดที่บริษัทบุหรี่สหรัฐอเมริการายงานต่อรัฐบาลมีสารเคมี 13 ชนิดที่คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ห้ามใช้ผสมในอาหารและจานวน 5 ชนิดเป็นสารอันตรายระดับที่องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประกาศห้ามนาไปทิ้งในบริเวณกาจัดขยะบริษัทบุหรี่ในยุโรปและบริษัทบุหรี่ในนิวซีแลนด์รายงานต่อรัฐบาลนิวซีแลนด์ว่ามีสารปรุงแต่งกลิ่นรสถึงกว่า 2000 สิ่งขณะที่โรงงานยาสูบของประเทศไทยรายงานว่ามีการเติมสารปรุงแต่งในบุหรี่แต่ละตรา 15-20 สิ่งตัวอย่างสารปรุงแต่งในบุหรี่ที่พบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ1) แอมโมเนีย (แอมโมเนีย) แอมโมเนียและสารประกอบของแอมโมเนียเป็นตัวเพิ่มนิโคตินอิสระ (Freenicotine) ทำให้เพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคตินเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อนัยน์ตาหลอดลมผิวหนังทาให้แสบตาแสบจมูกหลอดลมอักเสบไอมีเสมหะมาก2) ของน้าหนักยาสูบอนุญาตให้มีได้ในบุหรี่ไม่เกินร้อยละ 5 ทำให้เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งโกโก้ (โกโก้)3) ลิ้นกวาง (Coumarin) นิยมใส่เพื่อเพิ่มกลิ่น (กลิ่นวานิลา) และรสชาติของบุหรี่โดยเฉพาะในบุหรี่ที่มีทาร์ต่ำสารนี้เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับใช้เป็นสารฆ่าหนูและเป็นสารก่อมะเร็งในประเทศอังกฤษไม่อนุญาตให้ใส่ในอาหาร4) กานพลู (Clove) ใส่เพื่อช่วยทาให้สูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้นเพราะเมื่อเผาไหม้จะเกิดยูเจนอลซึ่งเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ทาให้ชาเฉพาะที่และกดประสาทส่วนกลางคล้ายบาร์บิทูเรต (barbiturates) และแอลกอฮอล์สารนี้ทาให้เกิดเลือดออกในลาไส้เลือดคั่งในปอดถุงลมโป่งพองน้าท่วมปอด5) Diethyl glycol (องศาเซลเซียส) เป็นสารเพิ่มจุดเยือกแข็งที่เติมในหม้อน้ารถยนต์เมื่อใส่ในบุหรี่จะ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
1
ได้แก่ สารประกอบ
ต่าง ๆ คือ
1.1 สารประกอบในบุหรี่
7,000 ชนิด 72 ชนิด (ประกิตวาที
สาธกกิจ: 2554)
เช่น
1) นิโคติน (Nicotine) เป็นสารที่ทาให้ติดบุหรี่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมอง ถ้าได้รับสารนี้ในปริมาณน้อยเช่นจากการสูบบุหรี่ 1-2 มวนแรก ทาให้ความรู้สึกต่าง ๆ ช้าลงร้อยละ 95 ของนิโคตินจะไปจับอยู่ที่ปอด มีผลโดยตรงต่อต่อมหมวกไตก่อให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน (อะดรีนาลีน) ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติและเต้นไม่เป็นจังหวะ บุหรี่ 1 มวนจะมีนิโคติน 0.8-1.8 มิลลิกรัม
ทาร์ (Tar) สารทาร์หรือน้ามันดิน ๆ ได้เช่นปอดกล่องเสียงหลอดลมหลอดอาหารไตกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะอื่น ๆ ร้อยละ 50 เป็นสาเหตุของการไอเรื้อรังไอมีเสมหะผู้ที่สูบบุหรี่วันละซองปอดจะได้รับสารทาร์เข้าไปประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อวันหรือประมาณ 110 กรัมต่อปี (บุหรี่ไทยมีสารทาร์อยู่ 12-24 มิลลิกรัม / มวน )
3) คาร์บอนมอนอกไซด์ (คาร์บอนมอนอกไซด์) ทาให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเกิดการขาดออกซิเจนหัวใจต้องทางานหนักขึ้นทาให้มึนงงหัวใจเต้นเร็วขึ้นเหนื่อยง่ายเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ คลื่นไส้กล้ามเนื้อแขนขาไม่มีแรง4) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (ก๊าซไนโตรเจน) ทำผนังถุงลมบางและโป่งพองถุงลมเล็ก ๆ แตกรวมกันเป็นถุงลมใหญ่ทาให้จานวน ทาให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ไอเรื้อรังหอบเหนื่อย5) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (ไฮโดรเจนไซยาไนด์) ทาให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรังมีอาการไอเรื้อรัง สารกัมมันตรังสีโพโลเนียม 210 (พอโลเนียม 210) สารนี้ให้รังสีอัลฟาซึ่งเป็นสาเหตุทาให้เกิดมะเร็งปอด แร่ธาตุต่างๆแร่ธาตุต่าง ๆ เช่นโปแตสเซียมแคดเมียมทองแดงนิเกิลโครเมียมพบได้ในควันบุหรี่ นิเกิลเมื่อทาปฎิกริยากับสารเคมีอื่น ๆ เช่นสารหนูสารปรอทสารไนโตรซามีนสารฟอร์มาดีไฮด์เป็นต้น1.2 สารปรุงแต่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่า ๆ เข้าไปในบุหรี่ สารเหล่านี้เรียกรวม ๆ ว่าสารปรุงแต่ง (สารเติมแต่ง) เพื่อเพิ่มรสชาติทำให้ลำคอโล่งรสชาตินุ่มนวลไม่บาดคอ (เช่นน้าตาลเมนทอลกานพลู) เพื่อให้มีกลิ่นหอม (เช่นลิ้นกวาง - coumarin) เพื่อให้เก็บได้ทนนาน ( เช่นสารกันบูดสารกันเชื้อราสารกันชื้น) (แอมโมเนีย) 2,000 ชนิด 100 ชนิด 700 13 ชนิดที่คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯห้ามใช้ผสมในอาหารและจานวน 5 ชนิดเป็นสารอันตราย มีสารปรุงแต่งกลิ่นรสถึงกว่า 2,000 ชนิด 15-20 ชนิด แอมโมเนีย (Ammonia) (Freenicotine) ทำให้เพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคตินเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อนัยน์ตาหลอดลมผิวหนังทาให้แสบตาแสบจมูกหลอดลมอักเสบไอมีเสมหะมาก2) โกโก้ (โกโก้) ทำให้เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็ง 5 ของน้าหนักยาสูบ3) ลิ้นกวาง (Coumarin) นิยมใส่เพื่อเพิ่มกลิ่น (กลิ่นวานิลา) และรสชาติของบุหรี่โดยเฉพาะในบุหรี่ที่มีทาร์ต่ำสารนี้เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับ กานพลู (Clove) เพราะเมื่อเผาไหม้จะเกิด eugenol และกดประสาทส่วนกลางคล้ายบาร์บิทูเรต (barbiturates) และแอลกอฮอล์สารนี้ทาให้เกิดเลือดออกในลาไส้เลือดคั่งในปอดถุงลมโป่งพองน้าท่วมปอด5) Diethyl ไกลคอล (DEG) เมื่อใส่ในบุหรี่จะ










การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
1 . พิษภัยของบุหรี่


ควันบุหรี่มีสารประกอบที่เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งได้แก่สารประกอบต่างๆคือ 1.1 สารประกอบในบุหรี่ควันบุหรี่ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บุหรี่มีสารประกอบทางเคมี
มากกว่า 7000 ชนิดในจานวนนี้เป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งไม่ต่ากว่า 72 ชนิด ( ประกิตวาที
สาธกกิจ : 2554 ) นอกเหนือไปจากสารเสพติดและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสารประกอบที่เช่น

สาคัญ1 ) นิโคติน ( นิโคติน ) เป็นสารที่ทาให้ติดบุหรี่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองเป็นทั้งตัวกระตุ้นและกดประสาทส่วนกลางถ้าได้รับสารนี้ในปริมาณน้อยเช่นจากการสูบบุหรี่มวนแรกอาจกระตุ้นทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า 1-2ทาให้ความรู้สึกต่างจะช้าลงร้อยละ 95 ของนิโคตินจะไปจับอยู่ที่ปอดบางส่วนจับอยู่ที่เยื่อหุ้มริมฝีปากและบางส่วนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดมีผลโดยตรงต่อต่อมหมวกไตก่อให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน ( epinephrine )หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติและเต้นไม่เป็นจังหวะหลอดเลือดที่แขนและขาหดตัวเพิ่มไขมันในเส้นเลือดบุหรี่ 1 มวนจะมีนิโคติน 08-1.8 มิลลิกรัมบุหรี่ก้นกรองไม่ได้ช่วยให้ร่างกายได้รับโคตินน้อยลง
2 ) ทาร์ ( TAR ) สารทาร์หรือน้ามันดินมีลักษณะเหนียวประกอบด้วยสารหลายชนิดเกาะกันเป็นสารสีน้าตาลเข้มเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะต่างจะได้เช่นปอดกล่องเสียงหลอดลมหลอดอาหารไตกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะอื่นไม่มี50 ของทาร์จะไปจับที่ปอดทาให้เกิดการระคายเคืองเป็นสาเหตุของการไอเรื้อรังไอมีเสมหะผู้ที่สูบบุหรี่วันละซองปอดจะได้รับสารทาร์เข้าไปประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อวันค็อคประมาณ 110 กรัมต่อปี ( บุหรี่ไทยมีสารทาร์อยู่3 ) คาร์บอนมอนอกไซด์ ( ไซด์ ) เป็นก๊าซที่มีความเข้มข้นที่ออกมาพร้อมกับควันบุหรี่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วทาลายความสามารถในการจับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงตามปกติเกิดการขาดออกซิเจนหัวใจต้องทางานหนักขึ้นทาให้มึนงงหัวใจเต้นเร็วขึ้นเหนื่อยง่ายเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจนอกจากนี้ยังทาให้เกิดอาการปวดศีรษะคลื่นไส้กล้ามเนื้อแขนขาไม่มีแรง

4 ) ไนโตรเจนไดออกไซด์ ( ไนโตรเจนไดออกไซด์ ) เป็นก๊าซพิษที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลมทำผนังถุงลมบางและโป่งพองถุงลมเล็กๆแตกรวมกันเป็นถุงลมใหญ่ทาให้จานวนทาให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเกิดอาการแน่นหน้าอกไอเรื้อรังหอบเหนื่อย
5 ) ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ( ไฮโดรเจนไซยาไนด์ ) เป็นก๊าซพิษที่ทาลายเยื่อบุหลอดลมส่วนต้นทาให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรังมีอาการไอเรื้อรังมีเสมหะเป็นประจาโดยเฉพาะในตอนเช้าจะมีเสมหะมากขึ้น
6 ) สารกัมมันตรังสีโพโลเนียม 210 ( พอโลเนียม 210 ) เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีในควันบุหรี่สารนี้ให้รังสีอัลฟาซึ่งเป็นสาเหตุทาให้เกิดมะเร็งปอดและควันบุหรี่ยังเป็นพาหะที่มีประสิทธิภาพร้ายแรงในการนาสารกัมมันตภาพรังสี7 ) แร่ธาตุต่างๆแร่ธาตุต่างจะเช่นโปแตสเซียมแคดเมียมทองแดงนิเกิลโครเมียมพบได้ในควันบุหรี่ธาตุเหล่านี้เป็นสารตกค้างในใบยาสูบเป็นสารที่ก่อให้เกิดภาวะเป็นพิษต่อร่างกายได้โดยเฉพาะนิเกิลจะเป็นสารพิษที่ทาให้เกิดโรคมะเร็งได้นอกจากนี้ในควันบุหรี่ยังพบสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดเช่นสารหนูสารปรอทสารไนโตรซามีนสารฟอร์มาดีไฮด์เป็นต้น
1 .2 สารปรุงแต่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่านอกจากสารเคมีที่มีอยู่ในใบยาสูบตามธรรมชาติบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ก็ได้เติมสารเคมีอื่นจะเข้าไปในบุหรี่ทั้งที่ผสมรวมเข้าไปกับใบยาสูบและในกระดาษมวนบุหรี่จะว่าสารปรุงแต่ง ( สาร ) เพื่อเพิ่มรสชาติทำให้ลำคอโล่งรสชาตินุ่มนวลไม่บาดคอ ( เช่นน้าตาลเมนทอลกานพลู ) เพื่อให้มีกลิ่นหอม ( เช่นลิ้นกวาง - coumarin ) เพื่อให้เก็บได้ทนนาน ( เช่นสารกันบูดสารกันเชื้อราสารกันชื้น )( แอมโมเนีย ) สารปรุงแต่งเหล่านี้บางชนิดโดยตัวเองไม่มีอันตรายหรือหากนาไปใส่ในอาหารรับประทานก็เป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัยแต่เมื่อนามาใส่ในบุหรี่และถูกเผาไหม้ร่วมกับสารเคมีอื่นๆอีกหลายชนิด2000 ชนิดบุหรี่แต่ละตราจะผสมสารปรุงแต่งประมาณไม่เกิน 100 ชนิดในจานวนนี้พบว่ามีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายร้ายแรงในจานวนสารปรุงแต่งกลิ่นรสบุหรี่ 700 ชนิดที่บริษัทบุหรี่สหรัฐอเมริการายงานต่อรัฐบาลมีสารเคมี 13ห้ามใช้ผสมในอาหารและจานวน 5 ชนิดเป็นสารอันตรายระดับที่องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประกาศห้ามนาไปทิ้งในบริเวณกาจัดขยะบริษัทบุหรี่ในยุโรปและบริษัทบุหรี่ในนิวซีแลนด์รายงานต่อรัฐบาลนิวซีแลนด์ว่ากว่า 2000 ชนิดขณะที่โรงงานยาสูบของประเทศไทยรายงานว่ามีการเติมสารปรุงแต่งในบุหรี่แต่ละตรา 15-20 ชนิดตัวอย่างสารปรุงแต่งในบุหรี่ที่พบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
1 ) แอมโมเนีย ( แอมโมเนีย ) แอมโมเนียและสารประกอบของแอมโมเนียเป็นตัวเพิ่มนิโคตินอิสระ ( freenicotine ) ทำให้เพิ่มฤทธิ์เสพติดของนิโคตินเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อนัยน์ตาหลอดลมผิวหนังทาให้แสบตาแสบจมูกไอมีเสมหะมาก
2 ) โกโก้ ( โกโก้ ) ทำให้เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งอนุญาตให้มีได้ในบุหรี่ไม่เกินร้อยละของน้าหนักยาสูบ
53 ) ลิ้นกวาง ( coumarin ) นิยมใส่เพื่อเพิ่มกลิ่น ( กลิ่นวานิลา ) และรสชาติของบุหรี่โดยเฉพาะในบุหรี่ที่มีทาร์ต่ำสารนี้เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับใช้เป็นสารฆ่าหนูและเป็นสารก่อมะเร็ง4 ) กานพลู ( กานพลู ) ใส่เพื่อช่วยทาให้สูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้นเพราะเมื่อเผาไหม้จะเกิดสำหรับซึ่งเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ทาให้ชาเฉพาะที่และกดประสาทส่วนกลางคล้ายบาร์บิทูเรต ( barbiturates ) และแอลกอฮอล์เลือดคั่งในปอดถุงลมโป่งพองน้าท่วมปอด
5 ) ไดไกลคอล ( องศา ) เป็นสารเพิ่มจุดเยือกแข็งที่เติมในหม้อน้ารถยนต์เมื่อใส่ในบุหรี่จะ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: