Table 2 shows the fatty acid compos

Table 2 shows the fatty acid composition and trans fatty acids of
RBHB, RBDF added (2–6%) and control meatball samples. While the
ratio of total unsaturated fatty acids to total saturated fatty acids
was 0.98, 0.98 and 1.00 in the RBHB added samples 2%, 4% and
6% respectively, 0.97, 0.97 and 0.97 in the RBDF added samples
2%, 4% and 6% respectively, it was 0.96 for the control meatballs
(Table 2). There were significant differences (P < 0.05) between
amounts of total unsaturated fatty acids of RBHB added meatballs
and the control (Table 2). There were not significant differences
(P < 0.05) between amounts of total unsaturated fatty acids of
RBDF added meatballs and the control. The values of total saturated
and polyunsaturated fatty acids were similar to those
reported by Dawkins, Phelps, McMillin, and Forrester (1999). Diets
with high monounsaturated fatty acid content have been associated
with decreases in the incidence coronary heart disease
(Keys, 1970). In order to lower the rates of heart diseases, cardiologists
and nutritionists advise consumers to reduce the overall
intake of saturated fatty acids which is thought to stimulate the
production of low density lipoproteins (LDL). Additionally,
consumers are advised to increase the overall intake of

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของกรดไขมันและไขมันทรานส์กรดของ
RBHB, RBDF เพิ่ม (2-6%) และการควบคุมตัวอย่างลูกชิ้น ในขณะที่
อัตราส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งหมดรวมกรดไขมันอิ่มตัว
เท่ากับ 0.98, 0.98 และ 1.00 ใน RBHB เพิ่มตัวอย่าง 2%, 4% และ
6% ตามลำดับ 0.97, 0.97 และ 0.97 ใน RBDF เพิ่มตัวอย่าง
2%, 4% และ 6% ตามลำดับมันเป็น 0.96 สำหรับลูกชิ้นควบคุม
(ตารางที่ 2) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05)
ปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งหมดของ RBHB เพิ่มลูกชิ้น
และการควบคุม (ตารางที่ 2) มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
(P <0.05) ปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวรวมของ
RBDF เพิ่มลูกชิ้นและการควบคุม ค่าของอิ่มตัวรวม
กรดไขมันไม่อิ่มตัวและมีความคล้ายคลึงกับ
รายงานโดยว์คินส์เฟลป์ส McMillin และ Forrester (1999) อาหาร
ที่มีเนื้อหากรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงได้รับการเชื่อมโยง
กับการลดลงของอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
(Keys, 1970) เพื่อที่จะลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ, โรคหัวใจ
และนักโภชนาการแนะนำให้ผู้บริโภคในการลดโดยรวม
ปริมาณของกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งคิดว่าจะช่วยกระตุ้น
การผลิตของความหนาแน่นต่ำ lipoproteins (LDL) นอกจากนี้
ผู้บริโภคจะได้รับคำแนะนำที่จะเพิ่มการบริโภคโดยรวมของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 2 แสดงส่วนประกอบของกรดไขมัน และกรดไขมันของrbhb rbdf , เพิ่ม ( 2 – 6 % ) และตัวอย่างลูกชิ้นควบคุม ในขณะที่โดยอัตราส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวกรดไขมันไม่อิ่มตัวโดยเท่ากับ 0.98 , 0.98 และ 1.00 ใน rbhb เพิ่มตัวอย่าง 2 % , 4 % และ6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ , 0.97 0.97 0.97 วิเคราะห์ข้อมูลใน rbdf เพิ่มตัวอย่าง2% , 4% และ 6% ตามลำดับ มันจ่ายสำหรับลูกชิ้นควบคุม( ตารางที่ 2 ) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) ระหว่างรวมปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวของ rbhb เพิ่มลูกชิ้นและกลุ่มควบคุม ( ตารางที่ 2 ) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) ระหว่างปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวของทั้งหมดrbdf เพิ่มลูกชิ้นและการควบคุม ค่าของทั้งหมดที่อิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือ คล้ายกับที่รายงานโดย ดอว์ เฟลป์ส เมิ่กมิลิน , และ ฟอร์เรสเตอร์ ( 1999 ) อาหารที่มีกรดไขมันเนื้อหาได้เกี่ยวข้องกับการลดลงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ( กุญแจ , 1970 ) เพื่อลดอัตราการของโรคหัวใจ โรคหัวใจและนักโภชนาการแนะนำให้ผู้บริโภคลดโดยรวมบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นความคิดที่จะกระตุ้นการผลิตของไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ ( LDL ) นอกจากนี้ผู้บริโภคควรที่จะเพิ่มการบริโภคโดยรวมของ