A case in point is the 2005 increas

A case in point is the 2005 increase in gasoline prices in the United States. This generally caused an increase in the unit cost of each personal or business trip in the short run. Users with elastic demand reduces their trips, while those with inelastic demand had the same number of trips after the change. In either case, the end result was a negative gain in user benefits. Another example is the user subsidization that typically occurs in some developing countries. When transportation users are subsidized by the government, this lowers the supply curve because the unit cost of each trip is reduced. This leads to increased travel (where demand is elastic) and increased benefits (for either elastic or inelastic demand). The removal of subsidies or the imposition of taxes has the opposite effect.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีในจุดการ 2005 เพิ่มขึ้นราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกา นี้โดยทั่วไปเกิดจากการเพิ่มในต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละบุคคล หรือธุรกิจการเดินทางในระยะสั้น ผู้ใช้ที่ มีความยืดหยุ่นช่วยลดตัวเดิน ขณะที่อุปสงค์ inelastic จำนวนเที่ยวเดียวหลังจากการเปลี่ยนแปลง ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นการเพิ่มลบผู้ใช้ประโยชน์ใน อีกตัวอย่างคือ subsidization ผู้ใช้ที่มักจะเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา เมื่อผู้ขนส่งมีเงินอุดหนุนจากรัฐบาล นี้ลดโค้งอุปทานเนื่องจากต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละเที่ยวจะลดลง นี้นำไปสู่การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น (ซึ่งต้องเป็นยางยืด) และเพิ่มผลประโยชน์ (ความต้องการยืดหยุ่น หรือ inelastic) เงินอุดหนุนการกำจัดหรือการจัดเก็บภาษีของภาษีมีผลตรงข้าม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดในกรณีเป็นปี 2005 การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมักจะเกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละการเดินทางส่วนบุคคลหรือธุรกิจในระยะสั้น ผู้ใช้ที่มีความต้องการความยืดหยุ่นช่วยลดการเดินทางของพวกเขาในขณะที่ผู้ที่มีความต้องการที่ไม่ยืดหยุ่นมีหมายเลขเดียวกันของการเดินทางหลังการเปลี่ยนแปลง ในทั้งสองกรณีผลลัพธ์ที่ได้เป็นกำไรติดลบในผลประโยชน์ของผู้ใช้ อีกตัวอย่างหนึ่งคือการอุดหนุนผู้ใช้ที่มักจะเกิดขึ้นในบางประเทศที่กำลังพัฒนา เมื่อผู้ใช้ยานพาหนะท​​ี่มีการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลนี้ช่วยลดเส้นอุปทานเพราะต้นทุนต่อหน่วยของการเดินทางแต่ละครั้งจะลดลง นี้นำไปสู่​​การเดินทางที่เพิ่มขึ้น (ที่มีความต้องการความยืดหยุ่น) และผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น (ทั้งความต้องการความยืดหยุ่นหรือไม่ยืดหยุ่น) การกำจัดของเงินอุดหนุนหรือการจัดเก็บภาษีของภาษีที่มีผลในทางตรงกันข้าม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรณีในจุดคือ 2005 เพิ่มในราคาของน้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกา นี้โดยทั่วไปจะเกิดเพิ่มขึ้นในต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละบุคคลหรือการเดินทางธุรกิจในระยะสั้น ผู้ใช้มีความต้องการที่ยืดหยุ่นช่วยลดการเดินทางของพวกเขาในขณะที่ผู้ที่มีความต้องการ ซึ่งมีหมายเลขเดียวกันของทริปหลังจากการเปลี่ยนแปลง ในทั้งสองกรณี , ผลลัพธ์ที่ได้คือการได้รับเป็นประโยชน์ของผู้ใช้ อีกตัวอย่างคือ การที่ผู้ใช้มักจะเกิดขึ้นในบางประเทศที่กำลังพัฒนา เมื่อผู้ใช้รถเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งช่วยลดเส้นอุปทาน เพราะต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละเที่ยวจะลดลง นี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นเดินทาง ( ที่อุปสงค์มีความยืดหยุ่น ) และเพิ่มประโยชน์ ( เพื่อให้ยืดหยุ่นหรือความต้องการที่ยืดหยุ่น ) การกำจัดของเงินอุดหนุนหรือการจัดเก็บภาษีได้ผลตรงกันข้าม