• Borrowers use the money to buy to

• Borrowers use the money to buy tools, equipment, etc. (Bamboo to make stools, yarn to
weave into cloth, or cows to produce milk.)
• The recipients are poor people who ordinarily are not able to qualify for banking
services.
• Typically, the loans are less than $100, often as little as $12.
• Microfinancing was started by the Grameen (means village) Bank founded by economist
Muhammad Yanus in Bangladesh.
• In the midst of famine in 1976, he lent $27 to a group of villagers asked him for help. It
was a starting point.
 Figure 7: Professor Yanus talk with some of Grameen Bank's borrower
 Figure 8: Microloans helped this small textile business in Bangladesh
 Figure 9: Professor Muhammad Yanus, a founder of the Grameen Bank
• The Grameen Bank has now extended credit to nearly 7 million people.
• The idea has spread, and has been supported by multinational organizations such as IMF
or profit banks like Citigroup.
• In total, it is estimated that microfinancing has reached to 60 million people in the world
by 2007.
• It is said that 90% of the recipients of microcredit are women.
• Women’s economic status is found to be strongly related to the well-being of their
children, and the key to a healthy household environment.
• For these contributions to society, the UN proclaimed the international Year of
Microcredit in 2005.
• Furthermore, Mr. Muhammad Yanus was awarded the Novel Peace Prize in 2006.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•ผู้กู้ใช้เงินเพื่อซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ ฯลฯ
(ไม้ไผ่ที่จะทำให้อุจจาระเส้นด้ายเพื่อทอผ้าเข้าหรือวัวผลิตนม.) •ผู้รับเป็นคนยากจนที่ปกติจะไม่สามารถที่จะมีคุณสมบัติสำหรับการธนาคารบริการ. • โดยปกติแล้วการให้กู้ยืมเงินน้อยกว่า $ 100 มักจะเป็นเพียง $ 12. • microfinancing เริ่มต้นจากกรามีน (หมายถึงหมู่บ้าน) ธนาคารที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักเศรษฐศาสตร์ของมูฮัมหมัดYanus ในบังคลาเทศ. •ในท่ามกลางความอดอยากในปี 1976 เขายืม $ 27 ไปยังกลุ่ม ของชาวบ้านถามเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ มันเป็นจุดเริ่มต้น. รูปที่ 7: ศาสตราจารย์ Yanus พูดคุยกับบางส่วนของผู้กู้ของธนาคารกรามีนรูปที่ 8: เงินกู้ช่วยธุรกิจสิ่งทอขนาดเล็กนี้ในบังคลาเทศรูปที่9: ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด Yanus ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน•ธนาคารกรามีนมีตอนนี้ขยายสินเชื่อไปเกือบ 7 ล้านคน. •ความคิดที่มีการแพร่กระจายและได้รับการสนับสนุนจากองค์กรข้ามชาติเช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือธนาคารกำไรเช่นซิตี้กรุ๊ป. •ทั้งหมดก็คาดว่ามีถึง microfinancing ถึง 60 ล้านคนในโลกโดย2007 •มันบอกว่า 90% ของผู้รับของสินเชื่อเป็นผู้หญิง. •สถานะทางเศรษฐกิจของผู้หญิงที่พบว่ามีความสัมพันธ์อย่างมากกับความเป็นอยู่ของพวกเขาเด็กและกุญแจสำคัญในสภาพแวดล้อมที่ใช้ในครัวเรือนที่มีสุขภาพดี. •สำหรับผลงานเหล่านี้เพื่อ สังคมสหประชาชาติประกาศระหว่างประเทศปีสินเชื่อในปี2005 •นอกจากนี้นายมูฮัมหมัด Yanus ได้รับรางวัลสันติภาพนวนิยายในปี 2006

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- ผู้กู้ใช้เงินเพื่อซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ ฯลฯ ( ไม้ไผ่เพื่อให้อุจจาระ , ด้าย

นำมาทอเป็นผ้า หรือวัวที่ผลิตนม . )
- ผู้รับเป็นคนจน ซึ่งโดยปกติจะไม่สามารถรับบริการธนาคาร
.
- โดยปกติเงินกู้น้อยกว่า $ 100 , บ่อยๆ เป็นเพียง $ 12 .
- microfinancing เริ่มต้นจาก Grameen ( หมายถึงหมู่บ้านก่อตั้งโดยนักเศรษฐศาสตร์
) ธนาคารมูฮัมหมัดยานัสในบังคลาเทศ .
- ท่ามกลางภาวะข้าวยากหมากแพงในปี 1976 เขายืม $ 27 กลุ่มชาวบ้าน ขอให้เขาช่วย มันคือจุดเริ่มต้น
.
รูปที่ 7 : ศาสตราจารย์ยานัสพูดกับบางส่วนของธนาคารกรามีน borrower
รูปที่ 8 : microloans ช่วยเล็กๆ นี้ ธุรกิจสิ่งทอในบังกลาเทศ
รูปที่ 9 : ศาสตราจารย์มูฮัมหมัดยานัส เป็นผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน
บริการทางธนาคารกรามีนได้ขยายสินเชื่อไปเกือบ 7 ล้านคน
- ความคิดได้แพร่กระจายและได้รับการสนับสนุนโดยองค์กรข้ามชาติ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ กำไร ธนาคาร เช่น Citigroup
.
- ทั้งหมดมันคือประมาณว่า microfinancing มีถึง 60 ล้านคนทั่วโลก โดยปี 2550
.
- มัน กล่าวว่า 90% ของผู้รับ microcredit
เป็นผู้หญิง- เป็นผู้หญิงฐานะทางเศรษฐกิจ พบว่าเป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเด็ก
และกุญแจสู่สภาพแวดล้อมในครัวเรือนมีสุขภาพดี .
- สำหรับผลงานเหล่านี้กับสังคม ยูเอ็นประกาศปี Microcredit นานาชาติในปี 2005
.
- นอกจากนี้ นายมูฮัมหมัด ยานัสได้รับรางวัลรางวัลสันติภาพใหม่ในปี 2006