For Weber and Thomas (2005), perfor

For Weber and Thomas (2005), performance measurement is fundamental for management once it identifies the difference between the actual performance and the performance intended to be achieved. According to Kardec and Lafraia (2002), maintenance indicators are developed and used by managers in order to achieve the goals set by companies.

The literature, in the context of maintenance, provides various expressions and terminology for performance indicators, once they eventually adapt to the reality of companies (Tavares, 1999). Indicators are usually grouped into:

 Asset management;
 Costs management;
 Manpower management;
 Maintenance activities;
 Maintenance organization.

The pursuit of World Class Excellence involves the identification and adaptation of best practices. This means changing the way of acting which obviously requires some time, from planning to implementation and evaluation of practical results.

EN15341 (2009) Standard highlights that maintenance performance is the result of complex activities, which can be evaluated by appropriate indicators to measure actual and expected results. Performance indicators are necessary to ensure stability and predictability of the maintenance process

In general, indicators are measures or numerical data set about processes that we want to control, and maintenance, generally include: availability, costs, production losses due maintenance activities, Rework, Mean Time Between Failures (MTBF), Mean Time To Repair (MTTR) and Overall Equipment Effectiveness (OEE).

Maintenance costs are linked to the adopted practices. In a unit where maintenance is performed in a reactive way, setting an unplanned corrective maintenance, costs are higher.

Paradoxically, it is important to note that not always the minimum cost is the best value. Strategic vision and proper planning for the functions related to training teams and operational resources (parts, equipment and tools) need to be considered. According to Filho (2008), performance measurement becomes useless if it is not accompanied by a group of actions. The maintenance policies and associated prevention strategy must ensure balanced improvement of performance indicators, as suggested in figure 1(Semitan, Oliveira & Maciel, 2009).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบ่งแยกและ Thomas (2005), วัดประสิทธิภาพการทำงานเป็นพื้นฐานสำหรับการจัดการเมื่อกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างประสิทธิภาพการทำงานจริงและประสิทธิภาพการทำงานที่ตั้งใจต้องทำได้ ตาม Kardec และ Lafraia (2002), ตัวบ่งชี้ที่บำรุงรักษาพัฒนา และใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด โดยบริษัทจัดการ

วรรณกรรม ในบริบทของการบำรุงรักษา แสดงนิพจน์และคำศัพท์ต่าง ๆ สำหรับตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพ เมื่อพวกเขาก็ปรับให้เข้ากับความเป็นจริงของบริษัท (Tavares, 1999) ตัวบ่งชี้มักจะแบ่งออกเป็น:

คล้ายบลจ;
คล้ายต้นทุนจัดการ;
คล้ายกำลังคนจัดการ;
คล้ายกิจกรรมบำรุงรักษา;
คล้ายบำรุงรักษาองค์กร

การแสวงหาความเป็นเลิศระดับโลกเกี่ยวข้องกับการระบุและปรับแนวทางปฏิบัติ หมายถึง การเปลี่ยนวิธีที่แน่นอนต้องใช้เวลา จากการวางแผนการดำเนินงานและการประเมินผลการปฏิบัติงานของ

EN15341 (2009) มาตรฐานเน้นว่าบำรุงรักษาประสิทธิภาพผลของกิจกรรมที่ซับซ้อน ซึ่งสามารถประเมิน โดยตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมในการวัดจริงและผลลัพธ์ที่คาดไว้ ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพจำเป็นเพื่อให้มั่นใจเสถียรภาพและแอพพลิเคชันของการบำรุงรักษา

โดยทั่วไป ตัวบ่งชี้ที่เป็นมาตรการหรือชุดข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับกระบวนการที่เราต้องการควบคุม และการบำรุงรักษา รวมโดยทั่วไป: พร้อมใช้งาน ต้นทุน ความสูญเสียในการผลิตครบกำหนดกิจกรรมบำรุงรักษา ทำใหม่ เวลาเฉลี่ยระหว่างความล้มเหลว (MTBF), เวลาการซ่อม (MTTR) และประสิทธิภาพอุปกรณ์โดยรวม (OEE) การ

ค่าบำรุงรักษาเชื่อมโยงกับแนวทางปฏิบัตินำมาใช้ ในหน่วยบำรุงรักษาที่จะดำเนินในปฏิกิริยา การบำรุงรักษาการแก้ไขไม่ได้วางแผน ต้นทุนสูงขึ้น

Paradoxically มันเป็นสิ่งสำคัญโปรดทราบว่า ไม่ต้นทุนต่ำสุดเป็นค่าที่ดี วิสัยทัศน์กลยุทธ์และวางแผนเหมาะสมสำหรับการทำงานเกี่ยวข้องกับทีมงานฝึกอบรม และจำเป็นต้องพิจารณาการดำเนินงานทรัพยากร (ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และเครื่องมือ) ตาม Filho (2008), การวัดประสิทธิภาพจะไร้ประโยชน์ถ้าไม่ได้มา โดยการกระทำ บำรุงรักษานโยบายและกลยุทธ์การป้องกันที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบปรับปรุงสมดุลของตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพ แนะนำว่าในรูปที่ 1 (Semitan, Oliveira & Maciel, 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับเวเบอร์และโทมัส (2005), การวัดประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นพื้นฐานสำหรับการจัดการเมื่อมีการระบุความแตกต่างระหว่างผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงและประสิทธิภาพการทำงานที่ตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จ ตามที่คาร์เด็คและ Lafraia (2002) ตัวชี้วัดการบำรุงรักษามีการพัฒนาและนำมาใช้โดยผู้บริหารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดโดย บริษัทวรรณกรรมในบริบทของการบำรุงรักษาให้การแสดงออกที่แตกต่างกันและคำศัพท์สำหรับตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานครั้งเดียวในที่สุดพวกเขาปรับตัวเข้ากับ ความเป็นจริงของ บริษัท (ทาวาเรส, 1999) ตัวชี้วัดที่มักจะถูกแบ่งออกเป็น: บริหารสินทรัพย์; ค่าใช้จ่ายในการบริหารการจัดการกำลังคน; กิจกรรมการบำรุงรักษาองค์กรบำรุงรักษาแสวงหาความเป็นเลิศระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับบัตรประจำตัวและการปรับตัวของการปฏิบัติที่ดีที่สุด ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนวิธีการแสดงที่เห็นได้ชัดว่าต้องมีบางครั้งจากการวางแผนการดำเนินงานและการประเมินผลการปฏิบัติผลEN15341 (2009) มาตรฐานเน้นที่ผลการดำเนินงานการบำรุงรักษาเป็นผลมาจากกิจกรรมที่ซับซ้อนซึ่งสามารถประเมินได้โดยตัวชี้วัดที่เหมาะสมในการวัดที่เกิดขึ้นจริงและ ผลที่คาดหวัง ตัวชี้วัดที่มีความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจเสถียรภาพและการคาดการณ์ของการบำรุงรักษาโดยทั่วไปชี้มาตรการหรือข้อมูลตัวเลขที่กำหนดเกี่ยวกับกระบวนการที่เราต้องการที่จะควบคุมและการบำรุงรักษาโดยทั่วไปรวมถึง: ความพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูญเสียการผลิตกิจกรรมการบำรุงรักษาที่กำหนด Rework, ค่าเฉลี่ย เวลาระหว่างความล้มเหลว (MTBF) ค่าเฉลี่ยเวลาในการซ่อม (MTTR) และประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (OEE) ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่เชื่อมโยงกับการปฏิบัติที่นำมาใช้ ในหน่วยที่การบำรุงรักษาจะดำเนินการในทางปฏิกิริยาการตั้งค่าการบำรุงรักษาที่ถูกต้องโดยไม่ได้วางแผนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นขัดแย้งมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบที่ไม่เคยมีค่าใช้จ่ายต่ำสุดคือค่าที่ดีที่สุด วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และการวางแผนที่เหมาะสมสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมทีมงานและทรัพยากรในการดำเนินงาน (ชิ้นส่วนอุปกรณ์และเครื่องมือ) จะต้องพิจารณา ตาม Filho (2008) การวัดประสิทธิภาพการทำงานจะกลายเป็นไร้ประโยชน์หากยังไม่ได้มาพร้อมกับกลุ่มของการกระทำ นโยบายการบำรุงรักษาและกลยุทธ์การป้องกันที่เกี่ยวข้องจะต้องให้แน่ใจว่าการปรับปรุงความสมดุลของตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานตามที่แนะนำในรูปที่ 1 (Semitan, Oliveira & Maciel 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับเวเบอร์และโทมัส ( 2005 ) , การวัดประสิทธิภาพเป็นพื้นฐานสำหรับการจัดการเมื่อมันระบุความแตกต่างระหว่างการปฏิบัติงานจริงกับงานที่มุ่งหวังจะสำเร็จ ตาม kardec lafraia ( 2002 ) และ ตัวชี้วัด ดูแลพัฒนาและใช้โดยผู้จัดการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดโดย บริษัท

วรรณกรรม ในบริบทของการบำรุงรักษามีการแสดงต่างๆและคำศัพท์สำหรับตัวชี้วัด เมื่อพวกเขาจะปรับให้เข้ากับความเป็นจริงของบริษัท ( ทาวาเรส , 1999 ) ตัวชี้วัดที่มักจะแบ่งออกเป็น :

สินทรัพย์การจัดการ ;
ต้นทุนการจัดการ ; การจัดการกำลังคน ;
กิจกรรมการบำรุงรักษา ; องค์กรการบำรุงรักษา


 .การแสวงหาความเป็นเลิศระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับการระบุและการปรับตัวของการปฏิบัติที่ดีที่สุด นี้หมายถึงการเปลี่ยนวิธีการทำที่แน่นอนต้องมีเวลา จากการวางแผนการดำเนินงานและประเมินผลการปฏิบัติ

en15341 ( 2009 ) เน้นมาตรฐานประสิทธิภาพการบำรุงรักษาผลของกิจกรรมที่ซับซ้อนซึ่งสามารถประเมินได้โดยตัวชี้วัดที่เหมาะสมในการวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงและที่คาดหวัง ตัวชี้วัดที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจเสถียรภาพและความสามารถในการทำนายของกระบวนการรักษา

โดยทั่วไปตัวชี้วัดที่เป็นวัด หรือข้อมูลตัวเลขชุดเกี่ยวกับกระบวนการที่เราต้องการควบคุมและดูแลโดยทั่วไป ได้แก่ ความพร้อมใช้งาน ต้นทุนการผลิต ขาดทุนกิจกรรมการบำรุงรักษาเนื่องจากเวลาที่ใช้เวลาเฉลี่ยระหว่างความล้มเหลว ( MTBF ) หมายถึงเวลาที่จะซ่อมแซม ( MTTR ) และประสิทธิผลของอุปกรณ์โดยรวม ( OEE ) .

การบำรุงรักษาค่าใช้จ่ายเชื่อมโยงกับลูกบุญธรรม ) ในหน่วยที่ดูแลจะดำเนินการใน 3 วิธี การซ่อมบำรุง แก้ไข ปัญหา ต้นทุนจะสูงขึ้น

อย่างผิดธรรมดา , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่าไม่เสมอ อย่างน้อยมีต้นทุนที่คุ้มค่าวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์และการวางแผนที่เหมาะสมสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับทีมฝึกอบรมและทรัพยากรดำเนินงาน ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และเครื่องมือ ) ต้องได้รับการพิจารณา ตามฟิลโฮ ( 2008 ) , การวัดประสิทธิภาพจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ได้พร้อมกับกลุ่มของการกระทำ การรักษาและป้องกัน ต้องให้แน่ใจว่านโยบายที่เกี่ยวข้องกลยุทธ์การปรับปรุงสมดุลของตัวชี้วัดประสิทธิภาพเป็นข้อเสนอแนะในรูปที่ 1 ( semitan โอลิเวียร่า , มาร์เซล & , 2009 )