Fig. 1 shows that COD, which was pr

Fig. 1 shows that COD, which was present as acetate, was constantly being removed from the synthetic wastewater according to the influent and effluent analysis.
The system also demonstrated a remarkable potential of nitrification as well as phosphate removal during a steady-state cycle at 30°C, 40°C and 50°C. Throughout the anoxic feeding phase, cycle profile measurements revealed that acetate was utilized to 34.15% in SBR30, 51.22% in SBR40 and 38.79% in SBR50.
Simultaneously, phosphate was released during the anoxic feeding phase. Subsequently, the rest of the acetate was utilized in the period of aerobic cycle while phosphate was removed. The removal efficiency for the biological phosphorus improved gradually during the aerobic phase and achieved an average removal rate of 72.46% at 50°C, followed by 68.50% and 67.00% at 30°C and 40°C, respectively which is comparable to previous study by Ebrahimi et al. (2010) in treating synthetic wastewater using biogranules.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fig. 1 แสดงว่า COD ซึ่งถูกนำเสนอเป็น acetate ได้ตลอดเวลาถูกเอาออกจากน้ำเสียสังเคราะห์ตามวิเคราะห์ influent และน้ำทิ้ง ระบบยังแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของการอนาม็อกซ์กำจัดฟอสเฟตในระหว่างวงจรท่อนที่ 30° C, 40° C และ 50 องศาเซลเซียส ตลอดระยะให้อาหาร anoxic วัดโพรไฟล์วงจรเปิดเผยว่า มีใช้ acetate 34.15% ใน SBR30, 51.22% ใน SBR40 และ 38.79% ใน SBR50 พร้อมกัน ฟอสเฟตถูกปล่อยออกมาในระหว่างขั้นตอนให้อาหาร anoxic ในเวลาต่อมา ส่วนเหลือของ acetate มีใช้ในรอบระยะเวลาของรอบการเต้นแอโรบิกขณะฟอสเฟตถูกเอาออก ประสิทธิภาพการกำจัดฟอสฟอรัสทางชีวภาพดีขึ้นค่อย ๆ ระยะแอโรบิก และประสบความสำเร็จมีอัตราเฉลี่ยเอา% 72.46 ที่ 50° C ตาม ด้วย 67.00% ที่ 30° C 40° C และ 68.50% ตามลำดับซึ่งเทียบได้กับการศึกษาก่อนหน้านี้โดย Ebrahimi et al. (2010) ในการรักษาน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ biogranules

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ 1 แสดงให้เห็นว่าซีโอดีซึ่งปัจจุบันเป็นอะซิเตทได้รับการอย่างต่อเนื่องถูกลบออกจากน้ำเสียสังเคราะห์ตามอิทธิพลและการวิเคราะห์น้ำเสีย.
ระบบยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นของไนตริฟิเคเช่นเดียวกับการกำจัดฟอสเฟตในช่วงวงจร steady-state ที่ 30 ° C, 40 ° C และ 50 ° C ตลอดระยะการให้อาหารซิกวัดรายละเอียดวงจรเปิดเผยว่าอะซิเตทถูกนำมาใช้เพื่อ 34.15% ใน SBR30, 51.22% ใน SBR40 และ 38.79% ใน SBR50.
พร้อมกันฟอสเฟตได้รับการปล่อยตัวในช่วงการให้อาหารซิก ต่อจากนั้นส่วนที่เหลือของอะซิเตทที่ถูกนำมาใช้ในช่วงเวลาของวงจรแอโรบิกในขณะที่ฟอสเฟตจะถูกลบออก สำหรับประสิทธิภาพในการกำจัดฟอสฟอรัสทางชีวภาพค่อยๆดีขึ้นในระหว่างขั้นตอนแอโรบิกและประสบความสำเร็จอัตราการกำจัดเฉลี่ย 72.46% ที่ 50 องศาเซลเซียสตามด้วย 68.50% และ 67.00% ณ วันที่ 30 องศาเซลเซียสและ 40 องศาเซลเซียสตามลำดับซึ่งก็เปรียบได้กับการศึกษาก่อนหน้า โดย Ebrahimi et al, (2010) ในการรักษาน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ biogranules

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 1 แสดงให้เห็นว่า คอด ซึ่งปัจจุบันเป็นอะซิเตตจะถูกเอาออกจากน้ำเสียสังเคราะห์จากการวิเคราะห์ระบบน้ำทิ้ง
ระบบยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นของปริมาณเช่นเดียวกับการกำจัดฟอสเฟตในช่วงสภาวะคงตัววงจรที่ 30 องศา C 40 ° C และ 50 องศา ตลอดระยะแบ่งอาหาร ,ประวัติวัดรอบ พบว่า นักเรียน 34.15 อะซิเตทใน sbr30 51.22 % , 70 % และใน sbr40 sbr50 .
พร้อมกัน , ฟอสเฟตถูกปล่อยออกมาในระหว่างขั้นตอนการให้อาหารซิก . และส่วนที่เหลือของอะซิเตตจะใช้ในช่วงของวัฏจักรแอโรบิกในขณะที่ฟอสเฟตจะถูกลบออกประสิทธิภาพการกำจัดฟอสฟอรัสทางชีวภาพที่ค่อยๆดีขึ้นในระหว่างขั้นตอนแอโรบิก และบรรลุอัตราการกำจัดเฉลี่ย 72.46 % ที่ 50 ° C ตามด้วย 68.50 ร้อยละ 67.00 % 30 ° C และ 40 ° C ตามลำดับ ซึ่งก็เปรียบได้กับการศึกษาก่อนหน้าโดย ebrahimi et al . ( 2010 ) ในน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ biogranules .