The negative attitudes, stigmatizat

The negative attitudes, stigmatization, and discrimination associated with mental illness are an important health issue. Consequences for persons with mental illness are the obvious risk of exclusion and that others will reject them (Angermeyer & Dietrich 2006). Stigmatization and discrimination form a great barrier to recovery (Sartorius 2002) and social integration (Hansson et al. 2014). Stigma could be referred to as a social construct, and according to Link and Phelan (2001), stigmatization occurs when people distinguish and label human differences, place persons in categories so as to separate ‘them’ from ‘us’, and when these persons experience status loss and discrimination (Link & Phelan 2001). Thus, stigmatization refers to access to a form of power in relation to which elements of labelling, stereotyping, status loss, and discrimination co-occur. Attitudes, on the other hand, include affective, cognitive, and behavioural responses to, in this case, persons with mental illness (Altmann 2008). There is a growing awareness among mental health staff that mental illness is surrounded by negative attitudes and stigmatization. The focus in the present study is on nursing staff, and on factors that may influence their attitudes and beliefs in a positive direction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลบ ๆ stigmatization และการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยทางจิตมีปัญหาสุขภาพที่สำคัญ ผลที่ตามมาสำหรับคนเจ็บป่วยทางจิตมีความชัดเจนของข้อยกเว้นและที่อื่น ๆ จะปฏิเสธพวกเขา (Angermeyer & 2006 ษั) Stigmatization และเลือกปฏิบัติแบบการป้องกันที่ดีการกู้คืน (บริษัทซาร์โทเรียส 2002) และบูรณาการสังคม (แฮนส์สัน et al. 2014) ตีตราอาจจะเรียกว่าโครงสร้างทางสังคม และตามลิงค์และ Phelan (2001), stigmatization เกิดขึ้น เมื่อคนแยกแยะ และฉลากแตกต่างมนุษย์ บุคคลสถานที่ประเภทเพื่อแยก 'พวกเขา' จาก 'เรา' และ เมื่อบุคคลเหล่านี้พบสูญเสียสถานะและการเลือกปฏิบัติ (การเชื่อมโยงและ Phelan 2001) ดังนั้น stigmatization อ้างถึงในรูปแบบของพลังงานที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของสถานะติดฉลาก ทัศนคติทั่วไป ต่อ สูญเสีย และเลือกปฏิบัติร่วมเกิดขึ้น ทัศนคติ คง ด้วยการ ตอบผล ความรู้ และพฤติกรรมในกรณีนี้ คนเจ็บป่วยทางจิต (Altmann 2008) มีจิตสำนึกเติบโตจิตใจพนักงานที่เจ็บป่วยทางจิตอยู่ท่ามกลางลบ ๆ และ stigmatization ในการศึกษาปัจจุบันเป็นพยาบาลพนักงาน และปัจจัยที่อาจมีอิทธิพลต่อทัศนคติและความเชื่อในทิศทางบวกของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทัศนคติเชิงลบตราบาปและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยทางจิตเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ ผลที่ตามมาสำหรับผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางจิตที่มีความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดของการยกเว้นและว่าคนอื่น ๆ จะปฏิเสธพวกเขา (Angermeyer และทริช 2006) การตีตราและการเลือกปฏิบัติในรูปแบบที่ดีในการกั้นการกู้คืน (Sartorius 2002) และบูรณาการทางสังคม (Hansson et al. 2014) แผลเป็นที่อาจจะเรียกว่าเป็นโครงสร้างทางสังคมและเป็นไปตามการเชื่อมโยงและเฟลาน (2001), ตราบาปที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนเห็นความแตกต่างและป้ายความแตกต่างของมนุษย์บุคคลสถานที่ในประเภทเพื่อที่จะแยก 'พวกเขา' จาก 'เรา' และเมื่อบุคคลเหล่านี้ การสูญเสียสถานะประสบการณ์และการเลือกปฏิบัติ (เชื่อมโยงและเฟลาน 2001) ดังนั้นตราบาปหมายถึงการเข้าถึงในรูปแบบของการใช้พลังงานในความสัมพันธ์กับองค์ประกอบของการติดฉลากที่เวสูญเสียสถานะและการเลือกปฏิบัติร่วมเกิดขึ้น ทัศนคติในมืออื่น ๆ รวมถึงอารมณ์ความรู้ความเข้าใจและการตอบสนองพฤติกรรมการในกรณีนี้ผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางจิต (Altmann 2008) มีการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นในหมู่พนักงานสุขภาพจิตที่เจ็บป่วยทางจิตเป็นรายล้อมไปด้วยทัศนคติเชิงลบและตราบาป ให้ความสำคัญในการศึกษาปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลและอยู่กับปัจจัยที่อาจมีอิทธิพลทัศนคติและความเชื่อของพวกเขาในทิศทางที่เป็นบวก