Fishing is the most ancient form of

Fishing is the most ancient form of exploitation of coastal resources, preceding all other human disturbances to marine ecosystems, such as pollution, eutrophication, habitat loss, disease outbreaks, human induced climate change and species invasions [1]–[4]. Fishing has caused the worldwide depletion of large predatory fishes, including shark populations [5], [6], and driven several species across different ecosystems to ecological extinction [1]. Moreover, fishing is reported to impact fish populations since prehistoric times [2], [7]–[10], affecting species diversity and size [11], [12]. Today, fishing remains as the major source of impact upon marine and coastal environments, contributing to global biodiversity loss [13]–[15]. The continuity of unsustainable historical fishing has left few truly pristine ecosystems in the marine realm [1], [5]. In the Southwestern Atlantic, patterns of marine resources' overexploitation are similar to what have been reported worldwide [5], [14], [16], with widespread population declines and collapsed stocks [17]–[19]. It has been estimated that 23% of all Brazilian marine fish stocks are fully exploited and 33% are overexploited, including species from low trophic levels [20]–[22]. Overfishing has been changing the density and the size structure of reef fish top predators occurring in Brazil [17], [23], consequently elevating their threatened status [24], [25].

Environmental changes and lack of baselines for pristine marine ecosystems have profound implications in our perceptions of what is a natural environment [4], [26]. The compromised ability of people in perceiving environmental modifications and past ecological conditions is called the shifting baseline syndrome (SBS) [27]. This phenomenon was first noted among fisheries scientists, who perceived as a ‘natural’ baseline for stock size and composition the condition they observed at the start of their careers, while failing to incorporate past and historical data [27]–[29]. As generations change, environmental baselines become increasingly shifted, misinforming fisheries management. In order to adjust shifted environmental perceptions, old travel diaries, naturalists' observations, historical data and fishermen' anecdotes are important sources of information [28]–[32], as well archaeological and paleontological data [1], [4]. Baselines constructed from historical data are critical to better gauge and interpret long-term changes and to set appropriate targets for management and restoration [1], [4], [33].

The Local Ecological Knowledge (LEK) held by traditional fishing communities is considered an important tool for the assessment and management of tropical fisheries [29], [30], [37]. Local Ecological Knowledge is a set of perceptions and experiences of traditional communities regarding its surrounding natural environment [34], [35], this knowledge being handed-down through generations by cultural transmission [36]. This knowledge includes perceptions of fishing resources – fisheries' composition and abundance patterns, as well as fish species biological and ecological aspects [38], [39] – all of which are important to conservation and management strategies [40]. Because humans have modified natural systems, local perceptions of the status of species and ecosystem resources are unlikely to remain constant over time [41]. Thus, the SBS could influence the validity of LEK derived data, whose use for species and ecosystems assessments is becoming more common [42], [43]. However, specific conditions are required for SBS to occur, which include a combination of environmental events and observer perceptions [44]. Here we combine multiple sources of information to understand the status of local fisheries of Arraial do Cabo, Rio de Janeiro state, Southeastern Brazil (Fig. 1). Specifically, we aim to (i) investigate the occurrence of SBS among fishermen communities of Arraial do Cabo; (ii) utilize LEK to obtain past estimates of abundance and population trends for exploited fish species; and (iii) demonstrate the importance of anecdotal data to adjust perceptions regarding marine resources in the subtropical coast of Brazil

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตกปลายังเป็นแบบโบราณที่สุดของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่ง ก่อนอื่นทั้งหมดรบกวนมนุษย์กับระบบนิเวศทางทะเล มลพิษ เค อยู่อาศัยสูญเสีย โรค ระบาด มนุษย์ที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและพันธุ์รุกราน [1] – [4] ตกปลาได้เกิดจนหมดทั่วโลกของปลามหาศาลขนาดใหญ่ รวมทั้งประชากรฉลาม [5], [6], และขับเคลื่อนหลายชนิดในระบบนิเวศต่าง ๆ ให้ระบบนิเวศสูญพันธุ์ [1] นอกจากนี้ รายงานประมงส่งผลกระทบต่อประชากรปลาตั้งแต่ยุค [2], [7] – [10], ผลกระทบต่อความหลากหลายของชนิดและขนาด [11], [12] วันนี้ ประมงยังคงเป็นแหล่งที่มาสำคัญของผลกระทบเมื่อทางทะเล และชายฝั่งทะเลสภาพแวดล้อม สนับสนุนการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก [13] - [15] ความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์ประมง unsustainable จากบางระบบนิเวศอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริงในทะเลขอบเขต [1], [5] ในมหาสมุทรแอตแลนติกตะวันตกเฉียงใต้ รูปแบบของทรัพยากรทางทะเล overexploitation จะคล้ายกับสิ่งที่ได้รับทั่วโลกรายงาน [5], [14], [16], มีประชากรแพร่ปฏิเสธ และยุบหุ้น [17] - [19] มันมีการประมาณว่า 23% ของหุ้นบราซิลปลาทะเลทั้งหมดจะสามารถเต็ม และ 33% เป็น overexploited รวมถึงสายพันธุ์จากระดับชั้นอาหารต่ำ [20] - [22] Overfishing มีการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นและขนาดโครงสร้างของปะการังปลาล่าสุดเกิดขึ้นในบราซิล [17], [23], จึง ยกคามสถานะ [24], [25]เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการขาดของเส้นในระบบนิเวศทางทะเลที่เก่าแก่มีนัยลึกซึ้งในภาพลักษณ์ของเราอะไรเป็นเป็นธรรมชาติ [4], [26] ความสามารถในการถูกโจมตีของคน perceiving ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม และ ผ่านเงื่อนไขระบบนิเวศเรียกว่ากลุ่มอาการพื้นฐานเลื่อนลอย (SBS) [27] ปรากฏการณ์นี้ถูกบันทึกครั้งแรกในหมู่นักวิทยาศาสตร์ประมง ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐาน 'ธรรมชาติ' หุ้นขนาดและองค์ประกอบเงื่อนไขที่พวกเขาพบที่จุดเริ่มต้นของอาชีพของพวกเขา ในขณะที่การรวมข้อมูลอดีต และประวัติศาสตร์ [27] – [29] เป็นรุ่นเปลี่ยน สิ่งแวดล้อมเส้นกลายเป็นมากขึ้นเปลี่ยน misinforming การจัดการประมง เพื่อปรับภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมถูกเลื่อน เก่าเที่ยวไดอารีส์ นักธรรมชาติวิทยาผู้สังเกต ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และชาวประมง ' anecdotes เป็นแหล่งสำคัญของข้อมูล [28] - [32], paleontological และโบราณคดีเช่นข้อมูล [1], [4] เส้นที่สร้างขึ้นจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญ เพื่อวัด และแปลเปลี่ยนแปลงระยะยาวดีกว่า และตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับการจัดการและการฟื้นฟู [1], [4], [33]ภายในระบบนิเวศความรู้ (เล็ก) จัดขึ้น โดยชุมชนชาวประมงดั้งเดิมถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการประเมินและการจัดการของเขตร้อนประมง [29], [30], [37] ความรู้ระบบนิเวศในท้องถิ่นเป็นชุดของภาพลักษณ์และประสบการณ์ของชุมชนดั้งเดิมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติแวดล้อม [34], [35], ความรู้นี้ถูกส่งลงผ่านรุ่น โดยส่งผ่านวัฒนธรรม [36] ความรู้นี้รวมถึงภาพลักษณ์ของ ทรัพยากรประมง – องค์ประกอบของประมง และเต็มรูปแบบ ตลอดจนปลาชนิดทางชีวภาพ และระบบนิเวศด้าน [38], [39] – ทั้งหมดสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์และการจัดการกลยุทธ์ [40] เนื่องจากมนุษย์มีการปรับเปลี่ยนระบบธรรมชาติ ท้องถิ่นรับรู้สถานะของพันธุ์และระบบนิเวศทรัพยากรไม่น่าจะคงช่วงเวลา [41] ดังนั้น SBS สามารถอิทธิพลตั้งแต่เล็กมาข้อมูล ซึ่งใช้สำหรับการประเมินผลของพันธุ์และระบบนิเวศเป็นเพิ่มเติมทั่วไป [42], [43] อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเฉพาะจำเป็นสำหรับ SBS เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและนักการแนว [44] ที่นี่เรารวมแหล่งข้อมูลเพื่อให้เข้าใจสถานะของท้องถิ่นหลาย Cabo รัฐริโอเดอจาเนโร บราซิลตะวันออกเฉียงใต้ (Fig. 1) ทำการประมงของ Arraial โดยเฉพาะ เรามุ่งมั่นที่จะ (i) ตรวจสอบการเกิดขึ้นของ SBS ในหมู่ชาวประมง ชุมชน Arraial ทำ Cabo (ii) ใช้เหล็กเพื่อขอรับการประเมินความอุดมสมบูรณ์และประชากรแนวโน้มสำหรับพันธุ์ปลาสามารถ ที่ผ่านมา และ (iii) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลเล็ก ๆ เพื่อปรับภาพลักษณ์เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งแบบบราซิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตกปลาเป็นรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่งทะเลก่อนการรบกวนของมนุษย์อื่น ๆ เพื่อระบบนิเวศทางทะเลเช่นมลพิษ eutrophication, การสูญเสียที่อยู่อาศัยการระบาดของโรคเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเหนี่ยวนำให้เกิดการรุกรานของมนุษย์และสปีชีส์ [1] - [4] ตกปลาได้ก่อให้เกิดการสูญเสียทั่วโลกของปลานักล่าขนาดใหญ่รวมถึงประชากรฉลาม [5] [6] และขับเคลื่อนหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันทั่วระบบนิเวศจะสูญพันธุ์ในระบบนิเวศ [1] นอกจากนี้ยังมีรายงานการตกปลาที่จะส่งผลกระทบต่อประชากรปลาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ [2], [7] - [10] ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางสายพันธุ์และขนาด [11] [12] วันนี้ชาวประมงยังคงเป็นแหล่งที่มาของผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งที่เอื้อต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก [13] - [15] ความต่อเนื่องของการประมงที่ไม่ยั่งยืนทางประวัติศาสตร์มีเหลือไม่กี่ระบบนิเวศอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริงในดินแดนทางทะเล [1] [5] ในมหาสมุทรแอตแลนติกทิศตะวันตกเฉียงใต้รูปแบบของ overexploitation ทรัพยากรทางทะเล 'ที่มีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่ได้รับรายงานทั่วโลก [5] [14], [16] กับการลดลงของประชากรอย่างกว้างขวางและทรุดตัวลงหุ้น [17] - [19] มันมีการประเมินว่า 23% ของหุ้นทั้งหมดของปลาทะเลบราซิลจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และ 33% จะ overexploited รวมทั้งสายพันธุ์จากโภชนาการระดับต่ำ [20] - [22] overfishing ได้รับการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นและโครงสร้างขนาดของปลาในแนวปะการังล่าด้านบนที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล [17], [23] ดังนั้นการยกระดับสถานะของพวกเขาขู่ [24], [25]. การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการขาดของเส้นเขตแดนสำหรับระบบนิเวศทางทะเลที่เก่าแก่มี ความหมายที่ลึกซึ้งในการรับรู้ของเราในสิ่งที่เป็นสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ [4], [26] ความสามารถในการทำลายของประชาชนในการรับรู้การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่ผ่านมาเรียกว่ากลุ่มอาการของโรคพื้นฐานขยับ (SBS) [27] ปรากฏการณ์นี้เป็นข้อสังเกตแรกในหมู่นักวิทยาศาสตร์การประมงที่มองว่าเป็น 'ธรรมชาติ' พื้นฐานหุ้นขนาดและองค์ประกอบสภาพที่พวกเขาสังเกตเห็นจุดเริ่มต้นของอาชีพของพวกเขาในขณะที่ความล้มเหลวที่จะรวมในอดีตและข้อมูลทางประวัติศาสตร์ [27] - [29] ในฐานะที่เปลี่ยนรุ่นเส้นเขตแดนสิ่งแวดล้อมกลายเป็นขยับขึ้น misinforming จัดการประมง เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนการรับรู้สิ่งแวดล้อมไดอารี่เดินทางเก่า 'สังเกตข้อมูลทางประวัติศาสตร์และชาวประมง' ธรรมชาติเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญ [28] - [32] รวมทั้งข้อมูลทางโบราณคดีและบรรพชีวินวิทยา [1] [4] เส้นเขตแดนสร้างขึ้นจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญในการวัดที่ดีขึ้นและการตีความการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวและการกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับการจัดการและฟื้นฟู [1] [4] [33]. ความรู้ระบบนิเวศท้องถิ่น (เล็ก) ที่จัดขึ้นโดยชุมชนชาวประมงแบบดั้งเดิมคือ ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการประเมินและการจัดการของการประมงในเขตร้อน [29], [30] [37] ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศในท้องถิ่นเป็นชุดของการรับรู้และประสบการณ์ของชุมชนดั้งเดิมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยรอบ [34], [35], ความรู้นี้ถูกส่งลงผ่านรุ่นโดยส่งทางวัฒนธรรม [36] ความรู้นี้รวมถึงการรับรู้ของทรัพยากรประมง - องค์ประกอบของการประมงและรูปแบบความอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกับปลาทางชีวภาพและระบบนิเวศด้าน [38], [39] - ทั้งหมดที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์และกลยุทธ์การจัดการ [40] เพราะมนุษย์มีการปรับเปลี่ยนระบบธรรมชาติการรับรู้ในท้องถิ่นของสถานะของทรัพยากรชนิดและระบบนิเวศที่ไม่น่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป [41] ดังนั้น SBS อาจมีผลต่อความถูกต้องของเล็กที่ได้รับข้อมูลที่มีการใช้งานสำหรับการขยายพันธุ์และการประเมินผลระบบนิเวศจะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น [42], [43] อย่างไรก็ตามเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงที่จำเป็นสำหรับ SBS ที่จะเกิดขึ้นซึ่งรวมถึงการรวมกันของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการรับรู้สิ่งแวดล้อมสังเกตการณ์ [44] ที่นี่เรารวมหลายแหล่งที่มาของข้อมูลที่จะเข้าใจสถานะของการประมงในท้องถิ่นของ Arraial ทำ Cabo รัฐริโอเดอจาเนโรประเทศบราซิลตะวันออกเฉียงใต้ (รูปที่ 1). โดยเฉพาะเรามุ่งมั่นที่จะ (i) การตรวจสอบการเกิดขึ้นของ SBS ในหมู่ชุมชนชาวประมงของ Arraial ทำ Cabo; (ii) ใช้เล็กที่จะได้รับการประมาณการที่ผ่านมาของความอุดมสมบูรณ์และแนวโน้มประชากรปลาชนิดใช้ประโยชน์; และ (iii) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลพอสมควรในการปรับการรับรู้เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลในเขตร้อนของบราซิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตกปลาเป็นรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่ง ก่อนหน้านี้รบกวนมนุษย์อื่น ๆทั้งหมดในระบบนิเวศทางทะเล เช่น มลพิษ บานชื่น , การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย โรคระบาด มนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและชนิดของการรุกราน [ 1 ] - [ 4 ] ตกปลาได้เกิดจากการพร่องของปลา predatory ขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งประชากรฉลาม [ 5 ] [ 6 ]และขับเคลื่อนหลายชนิดในระบบนิเวศที่แตกต่างกันเพื่อนิเวศวิทยาการสูญพันธุ์ [ 1 ] นอกจากนี้ ชาวประมงจะรายงานผลกระทบประชากรปลาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ [ 2 ] , [ 7 ] - [ 10 ] มีผลต่อความหลากหลายของชนิดและขนาด [ 11 ] , [ 12 ] วันนี้ ชาวประมงยังคงเป็นแหล่งที่มาของผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก [ 13 ] - [ 15 ]ความต่อเนื่องของชาวประมงในอดีตไม่ยั่งยืนไปแล้วระบบนิเวศบริสุทธิ์อย่างแท้จริงน้อยในทะเลอาณาจักร [ 1 ] , [ 5 ] ในมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตก รูปแบบของการเอาเปรียบทรัพยากรทางทะเลมีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่ได้รับรายงานทั่วโลก [ 5 ] , [ 14 ] , [ 16 ] ลดลงด้วยประชากรอย่างกว้างขวางและถล่มหุ้น [ 17 ] - [ 19 ]มีการประมาณการณ์ว่า ร้อยละ 23 ของบราซิลปลาทะเลหุ้นอย่างเหมาะสมและ 33% เป็น overexploited รวมทั้งชนิดจากอันดับต่ำระดับ [ 20 ] - [ 22 ] การตกปลามากเกินไปได้รับการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นและขนาดโครงสร้างของปลาในแนวปะการังบนล่าที่เกิดขึ้นในบราซิล [ 17 ] , [ 23 ] จึงยกระดับสถานะของพวกเขาถูกคุกคาม [ 24 ] , [ 25 ] .

การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและการขาดของเส้นสำหรับระบบนิเวศทะเลล้วนมีผลกระทบลึกซึ้งในการรับรู้ของเรา อะไรคือธรรมชาติสิ่งแวดล้อม [ 4 ] [ 26 ] ความสามารถในการรับรู้ของผู้คนที่ถูกบุกรุก การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและสภาพทางนิเวศวิทยาในอดีตเรียกว่า ขยับฐาน Syndrome ( SBS ) [ 27 ] ปรากฏการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่สังเกตในหมู่นักวิทยาศาสตร์ประมงพื้นฐานที่รับรู้เป็น ' ธรรมชาติ ' ขนาดหุ้นและองค์ประกอบภาพและที่เริ่มต้นของอาชีพของพวกเขาในขณะที่การรวมที่ผ่านมาและข้อมูลทางประวัติศาสตร์ [ 27 ] - [ 29 ] เป็นรุ่นเปลี่ยนเส้นเป็นมากขึ้นสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน misinforming การจัดการประมง เพื่อปรับเปลี่ยนการรับรู้สิ่งแวดล้อม บันทึกการเดินทาง เก่านักธรรมชาตินิยม ' สังเกต ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และชาวประมง ' เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เป็นแหล่งสำคัญของข้อมูล [ 28 ] และ [ 32 ] รวมทั้งโบราณคดีและบรรพชีวินวิทยาข้อมูล [ 1 ] , [ 4 ] หมุดที่ถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์มีความสําคัญที่จะวัดดีกว่า และตีความการเปลี่ยนแปลงระยะยาวและการกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับการจัดการและฟื้นฟู [ 1 ] , [ 4 ] , [ 33 ] .

ความรู้ทางนิเวศวิทยาท้องถิ่น ( เล็ก ) ที่จัดขึ้นโดยชุมชนประมงดั้งเดิมถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินและการจัดการประมงเขตร้อน [ 29 ] [ 30 ] , [ 37 ] นิเวศวิทยาความรู้ท้องถิ่นคือชุดของการรับรู้และประสบการณ์ของชุมชนแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมโดยรอบ [ 34 ] [ 35 ]ความรู้นี้ถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น โดยถ่ายทอดวัฒนธรรม [ 36 ] ความรู้นี้รวมถึงการรับรู้ขององค์ประกอบทรัพยากรประมงและประมงและความอุดมสมบูรณ์รูปแบบเช่นเดียวกับปลาทางชีวภาพและนิเวศวิทยาด้าน [ 38 ] , [ 39 ] –ทั้งหมดที่สำคัญสำหรับการอนุรักษ์และการจัดการ [ 40 ] เพราะมนุษย์เรามีระบบธรรมชาติ การการรับรู้ในท้องถิ่นของสถานะของสายพันธุ์และทรัพยากรระบบนิเวศไม่น่าจะคงที่ตลอดเวลา [ 41 ] ดังนั้น แต่อาจมีผลต่อความถูกต้องของเล็กกลุ่มตัวอย่างที่มีใช้สปีการประเมินเป็นทั่วไปมากขึ้น [ 42 ] , [ 43 ] อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงเป็น SBS ที่จะเกิดขึ้นซึ่งรวมถึงการรวมกันของกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และผู้สังเกตการณ์อีก [ 44 ] ที่นี่เรารวมแหล่งข้อมูลหลายข้อมูลที่จะเข้าใจสถานะของประมงพื้นบ้านของไรเ โด คาโบ Rio de Janeiro รัฐ Southeastern บราซิล ( รูปที่ 1 ) โดยเฉพาะ เราจุดมุ่งหมายเพื่อ ( 1 ) ศึกษาการเกิดของ SBS ในหมู่ชาวประมงชุมชนของไรเ โด คาโบ ;( 2 ) ใช้เหล็กเพื่อให้ได้ผ่านการประเมินความอุดมสมบูรณ์และแนวโน้มประชากรเพื่อใช้ประโยชน์ชนิดปลา และ ( 3 ) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลเล็ก ๆเพื่อปรับการรับรู้เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลในฝั่งเขตกึ่งร้อนของประเทศบราซิล