Carbon was first discovered as char

Carbon was first discovered as charcoal in prehistoric times. The name of the discoverer will probably never be known. The element's name in many languages is derived from the words for charcoal or for coal [1]; the English "carbon" is derived from the Latin name for burnt wood (carbo) [2].
Carbon wasn't recognized as an element until the seventeenth century, after Robert Boyle suggested that an element was a substance that could not be decomposed into simpler substances. Antoine Lavoisier's pioneering chemistry textbook Traité Élémentaire de Chimie, published in Paris in 1789, lists carbon as an "oxidizable and acidifiable nonmetallic element" [3].

Carbon occurs naturally in several forms. Diamond, graphite, and amorphous carbon have been known throughout written history, but it was not known that they were different forms of the same substance until the late eighteenth century. If alchemists had directed their efforts towards conversion of graphite to diamonds instead of futilely trying to convert lead into gold, the early history of chemistry would have been quite different!

Antoine Lavoisier showed that diamonds are a form of carbon in 1772. He burned carefully weighed diamond and carbon samples and showed that both substances produced no water vapor and the same amount of carbon dioxide gas per gram. Graphite was thought to be a form of lead until 1779, when Carl Wilhelm Scheele showed that graphite produces the same amount of carbon dioxide gas per gram as amorphous carbon does.

buckministerfullerene c60 molecule A new form of carbon was discovered in 1985 by Harold Kroto (Sussex University), Robert Curl, Jr. (Rice University), and Richard Smalley (Rice University). The new form was called "buckministerfullerene" because its molecules resemble the geodesic domes designed by architect Buckminister Fuller for the 1967 World's fair. "Buckyballs" are being considered in the design of next-generation lubricants, drug delivery systems, industrial catalysts, and nanoscale machinery.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คาร์บอนถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ถ่านในสมัย​​ก่อนประวัติศาสตร์ ชื่อของการค้นพบอาจจะไม่เป็นที่รู้จัก ชื่อขององค์ประกอบในหลายภาษาได้มาจากคำว่าถ่านหรือ [1] ถ่านหิน. "คาร์บอน" อังกฤษมาจากชื่อภาษาละตินสำหรับไม้ที่ถูกเผาไหม้ (คาร์โบ) [2] คาร์บอน
ไม่ได้รับการยอมรับเป็นองค์ประกอบ จนถึงศตวรรษที่สิบเจ็ด,หลังจากที่โรเบิร์ตบอยล์ชี้ให้เห็นว่าองค์ประกอบเป็นสารที่ไม่สามารถย่อยสลายให้เป็นสารที่เรียบง่าย เคมีตำรา antoine เยร์ของผู้บุกเบิกTraitéÉl​​émentaireเดอ chimie ตีพิมพ์ในปารีสในปี 1789 แสดงรายการคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ "ไม่ใช่โลหะออกซิไดซ์และ acidifiable" [3].

คาร์บอนเกิดขึ้นตามธรรมชาติในหลายรูปแบบ เพชร, กราไฟท์,และคาร์บอนอสัณฐานได้รับรู้กันไปทั่วเขียนประวัติศาสตร์ แต่มันก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันว่าพวกเขาเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันของสารเดียวกันจนถึงปลายศตวรรษที่สิบแปด ถ้านักเล่นแร่แปรธาตุเคยกำกับพยายามของพวกเขาที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของแกรไฟต์เพชรแทนลมๆแล้งๆพยายามแปลงตะกั่วเป็นทองคำสมัยก่อนประวัติศาสตร์ทางเคมีจะได้รับแตกต่างกันมาก

antoine เยร์แสดงให้เห็นว่าเพชรเป็นรูปแบบของคาร์บอนใน 1772 เขาเผาเพชรชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบและตัวอย่างคาร์บอนและแสดงให้เห็นว่าสารทั้งสองไม่มีน้ำผลิตไอน้ำและจำนวนเงินเดียวกันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกรัม กราไฟท์เป็นความคิดที่เป็นรูปแบบของตะกั่วจนถึง 1779,เมื่อคาร์ลวิลเฮล์ Scheele แสดงให้เห็นว่ากราไฟท์ที่ผลิตจำนวนเงินเดียวกันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกรัมเป็นคาร์บอนอสัณฐานไม่.

buckministerfullerene C60 โมเลกุลรูปแบบใหม่ของคาร์บอนที่ถูกค้นพบในปี 1985 โดยแฮโรลด์ kroto (มหาวิทยาลัยซัสเซ็กซ์), โรเบิร์ตขด JR (Rice University) และริชาร์ดสมอล (Rice University)รูปแบบใหม่เรียกว่า "buckministerfullerene" เพราะโมเลกุลของมันมีลักษณะคล้ายกับโดมเนื้อที่การออกแบบโดยสถาปนิก buckminister ฟูลเลอร์สำหรับโลก 1967 ที่ยุติธรรม "buckyballs" จะถูกพิจารณาในการออกแบบผลิตภัณฑ์หล่อลื่นรุ่นถัดไปของระบบการส่งมอบยาเสพติดที่ตัวเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมและเครื่องจักรกลนาโน.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คาร์บอนก่อนถูกพบเป็นถ่านในยุค จะไม่ทราบชื่อของ discoverer ที่ ชื่อขององค์ประกอบในหลายภาษามาจากคำว่าถ่าน หรือถ่านหิน [1]; ภาษาอังกฤษ "คาร์บอน" ได้มาจากชื่อละตินสำหรับไม้ไหม้ (carbo) [2] .
คาร์บอนไม่ได้รู้จักเป็นองค์จนถึงศตวรรษ seventeenth หลังจากที่โรเบิร์ตบอยล์แนะนำว่า องค์ประกอบเป็นสารที่ไม่ถูกย่อยสลายไปเป็นสารที่เรียบง่าย อองตวนลาวอยซิเออร์บุกเบิกเคมีหนังสือ Traité Élémentaire de Chimie เผยแพร่ในกรุงปารีสในค.ศ. 1789 รายการคาร์บอนเป็น "oxidizable และ acidifiable nonmetallic องค์" [3]

คาร์บอนเกิดขึ้นตามธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ เพชร แกรไฟต์ และคาร์บอนไปได้ทราบว่าตลอดประวัติศาสตร์เขียน แต่จะไม่ถูกเรียกว่า พวกสารเดียวกันในรูปแบบต่าง ๆ จนถึงศตวรรษ eighteenth สาย ถ้า alchemists มากำกับความพยายามของพวกเขาต่อแปลงแกรไฟต์เพชรแทน futilely พยายามแปลงลูกค้าเป้าหมายเป็นทอง ประวัติช่วงต้นของเคมีจะได้รับแตกต่างกันมาก!

อองตวนลาวอยซิเออร์พบว่า เพชรมีรูปแบบของคาร์บอนที่ 1772 เขาเขียนอย่างรอบคอบชั่งน้ำหนักเพชรและคาร์บอนตัวอย่าง และพบว่า สารทั้งสองผลิตไม่มีไอน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกรัมจำนวนเดียวกัน แกรไฟต์ถูกคิดว่า เป็น แบบของรอจนเลขที่ 1779 เมื่อคาร์ลวิลเฮล์ม Scheele แสดงให้เห็นว่า ก้านผลิตจำนวนเดียวกันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกรัมเป็นคาร์บอนไปไม่

buckministerfullerene c60 โมเลกุลคาร์บอนรูปแบบใหม่ถูกค้นพบในปี 1985 โดยฮาโรลด์ Kroto (มหาวิทยาลัย Sussex), โรเบิร์ตขด จูเนียร์ (ข้าวมหาวิทยาลัย), และริชาร์ด Smalley (ข้าวมหาวิทยาลัย) แบบใหม่เรียกว่า "buckministerfullerene" เนื่องจากโมเลกุลของมันคล้ายกับ domes geodesic ที่ออกแบบ โดยสถาปนิก Buckminister Fuller ใน 1967 โลกของงาน "Buckyballs" จะถูกพิจารณาในการออกแบบของรุ่นต่อไปหล่อลื่น ระบบการขนส่งยาเสพติด สิ่งที่ส่งเสริมอุตสาหกรรม และเครื่องจักร nanoscale

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผงถ่านกัมมันต์นั้นก็พบว่าเป็นสีเทาเข้มในช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก ชื่อของผู้ที่จะเป็นที่รู้จักกันดีในชื่ออาจจะไม่เคย ชื่อขององค์ประกอบที่อยู่ใน ภาษา จำนวนมากที่ได้รับมาจากคำว่าสำหรับสีเทาเข้มหรือสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหิน[ 1 ], ภาษาอังกฤษ "คาร์บอนที่"ที่ได้รับมาจากชื่อละตินที่ทำจากไม้สำหรับเผา( carbo )[ 2 ]..
คาร์บอนไม่ได้ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนที่ได้จนกว่าแห่งศตวรรษที่สิบเจ็ดหลังจากโรเบิร์ตบอยลที่แนะนำว่าส่วนที่เป็นสารชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถเข้าสู่สารเน่าง่ายดายยิ่งขึ้น Antoine lavoisier ของผู้ริเริ่มเคมีหนังสือเรียน traité élémentaire de chimie ,เผยแพร่ใน Paris ใน 1789 ,รายการคาร์บอนเป็น" oxidizable และ acidifiable จากแร่ธาตุที่ไม่ใช่โลหะส่วน"[ 3 ].

ผงถ่านกัมมันต์จะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในหลายรูปแบบ. เพชรตะกั่วดำและถ่านคาร์บอนกัมมันต์ไม่มีรูปร่างเป็นที่แน่นอนได้เป็นที่รู้จักกันในด้านประวัติศาสตร์ตลอดทั่วทั้งพื้นที่ไว้แต่ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันว่าพวกเขามีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในตัวเดียวกันกับที่จนกว่าศตวรรษที่สิบแปดช่วงดึกได้ หากนักเล่นแร่แปรธาตุได้โดยตรงความพยายามของทางการแปลงของตะกั่วดำเพชรแทนโดยเปล่าประโยชน์แล้วพยายามที่จะนำไปสู่การแปลงเป็นสีทองประวัติศาสตร์ช่วงต้นของวิชาเคมีจะมีการแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

Antoine lavoisier แสดงให้เห็นว่าข้าวหลามตัดเป็นรูปแบบหนึ่งของคาร์บอนใน 1772 เผาอย่างละเอียดชั่งน้ำหนักตัวอย่างถ่านคาร์บอนกัมมันต์และ Diamond Head และแสดงให้เห็นว่าไม่มีสารทั้งผลิตไอน้ำและเงินจำนวนเดียวกันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คาร์บอนต่อกรัม ตะกั่วดำก็คิดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของนำไปสู่จนกว่า 1779เมื่อเลนส์ Carl Wilhelm scheele แสดงให้เห็นว่าตะกั่วดำให้เหมือนกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซคาร์บอนต่อกรัมเป็นคาร์บอนไม่มีรูปร่างเป็นที่แน่นอนหรือไม่.

buckministerfullerene C 60 โมเลกุลแบบฟอร์มใหม่ของถ่านกัมมันต์นั้นก็พบว่าในปี 1985 โดย Harold kroto ( Sussex มหาวิทยาลัย),โรเบิร์ตลอนผมสวย,น้อง( Rice University ,),และริชาร์ด smalley ( Rice University ,)รูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า" buckministerfullerene "เพราะโมเลกุลของของกล้องแบบโดมเกี่ยวกับรูปร่างและเนื้อที่ของโลกเหมือนกันที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก buckminister ฟูลเลอร์สำหรับการจัดงานของปี 1967 โลก " buckyballs "กำลังได้รับการพิจารณาในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ หล่อลื่นและ ผลิตภัณฑ์ รุ่นถัดไประบบการให้ยาตัวอุตสาหกรรมและเครื่องจักร nanoscale .