Hirsch, as an authority on reading

Hirsch, as an authority on reading and writing, is concerned with traditional texts. But his point about background knowledge and the content of our shared public culture extends well beyond schoolbooks. They are applicable to the “texts” of everyday life, in commercial culture, in sports talk, in religious language, in politics. In all cases, we become literate in patterns—“schema” is the academic word Hirsch uses. We come to recognize bundles of concept and connotation like “Party of Lincoln.” We perceive those patterns of meaning the same way a chess master reads an in-game chessboard or the way a great baseball manager reads an at bat. And in all cases, pattern recognition requires literacy in particulars.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เฮิร์ช กับการอ่าน และการ เขียน การเกี่ยวข้องกับข้อความแบบดั้งเดิม แต่ประเด็นของเขาเกี่ยวกับพื้นความรู้และเนื้อหาของวัฒนธรรมสาธารณะใช้ร่วมกันของเราเกินดี schoolbooks จะใช้กับ "ข้อความ" ของชีวิตประจำวัน ในพาณิชย์วัฒนธรรม กีฬาทอล์ค ภาษาทางศาสนา ทางการเมือง ในทุกกรณี เรากลายเป็น literate ในรูปแบบ — "แผน" เป็นคำวิชาการเฮิร์ชใช้ เรามารู้จักการรวมกลุ่มของแนวคิดและความหมายแฝงเช่น "พรรคของลินคอล์น" เราสังเกตที่รูปแบบของความหมาย เหมือนกระดานหมากรุกในเกมในการอ่านต้นแบบหมากรุกหรือวิธีจัดการเบสบอลดีอ่านการที่ค้างคาว และในทุกกรณี การรู้จำแบบต้องสามารถในอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เฮิร์ชเป็นผู้มีอำนาจในการอ่านและการเขียนที่มีความกังวลเกี่ยวกับข้อความดั้งเดิม แต่จุดของเขาเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานและเนื้อหาของวัฒนธรรมที่สาธารณะร่วมกันของเราขยายดีเกิน schoolbooks พวกเขาจะใช้บังคับกับ "ตำรา" ในชีวิตประจำวันในการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ในการพูดคุยกีฬาในภาษาทางศาสนาในทางการเมือง ในทุกกรณีเราจะกลายเป็นความรู้ใน patterns- "คีมา" เป็นคำที่ใช้วิชาการเฮิร์ช เรามารู้จักการรวมกลุ่มของแนวคิดและความหมายเช่น "พรรคของลิงคอล์น." เรารับรู้รูปแบบของผู้ที่มีความหมายในลักษณะเดียวกันเป็นหลักอ่านหมากรุกกระดานหมากรุกในเกมหรือวิธีการที่ผู้จัดการทีมเบสบอลที่ดีอ่านที่ค้างคาว และในทุกกรณีการจดจำรูปแบบต้องมีความรู้ในรายละเอียด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฮิร์ชเป็นผู้มีอำนาจในการอ่านและการเขียน เรื่อง ข้อความดั้งเดิม แต่ประเด็นเรื่องความรู้ความเป็นมาและเนื้อหาของเราที่แบ่งปันวัฒนธรรม สาธารณะขยายดีเกินเรียน . พวกเขาจะสามารถใช้ได้กับ " ข้อความ " ของชีวิต ในวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์ ในการพูดคุย กีฬา ภาษา ศาสนา การเมือง ในทุกกรณีเราก็จะมีความรู้ ในรูปแบบ " รูปแบบ " เป็นคำวิชาการ เฮิร์ชใช้ เรามารู้จักการรวมกลุ่มของแนวคิดและนัยเหมือนปาร์ตี้ " ลินคอล์น " เรารับรู้รูปแบบนั้นความหมายเดียวกับอาจารย์อ่านในเกมหมากรุกกระดานหมากรุกหรือทางผู้จัดการทีมที่ดีที่อ่านเป็นค้างคาว และในทุกกรณี ลวดลายต้องใช้ความรู้ในรายการ