Edwin Ray Guthrie Factsimage: http:

Edwin Ray Guthrie Facts
image: http://cf.ydcdn.net/1.0.1.42/images/dictionaries/biography.jpg


Edwin Ray Guthrie (1886-1959) was an American psychologist. Although he wrote on philosophy and in different areas of psychology, Guthrie was primarily noted for his work in evolving a single simple theory of learning.

Edwin Guthrie, born Jan. 9, 1886, in Lincoln, Nebr., was one of five children. His mother was a schoolteacher, and his father a store manager. He graduated and received a master's degree from the University of Nebraska, specializing in mathematics, philosophy, and psychology. He entered the University of Pennsylvania as a Harrison fellow, receiving his doctorate in 1912. His educational training and background reflect his analytical frame of reference in his psychological writings.

Guthrie taught high school mathematics for 5 years in Lincoln and Philadelphia. In 1914 he joined the University of Washington as an instructor in the department of philosophy, changing to the department of psychology 5 years later. During his rise to full professor in 1928, he developed his learning theory in association with Stevenson Smith, who was then department chairman of psychology at Washington.

Guthrie married Helen MacDonald of Berkeley, Calif., in June 1920. They traveled widely, and in France Guthrie met Pierre Janet, whose Principles of Psychotherapy he translated with his wife. Janet's writing had a great influence on Guthrie's thinking. To Janet's descriptive psychology and physiological concepts as sources of action, Guthrie added an objective theory of learning.

In the latter part of the 1920s Guthrie concerned himself with such topics as fusion on nonmusical intervals, measurement of introversion and extroversion, and purpose and mechanism in psychology. He seemed more inclined toward the exploration of learning in the 1930s and thereafter.

Much honored, Guthrie was elected president of the American Psychological Association. During World War II he was a lieutenant in the U.S. Army, serving as a consultant to the overseas branch of the general staff of the War Department and Office of War Information. He was made dean of the graduate school at the University of Washington in 1943.

Guthrie was considered a behaviorist. Behaviorism was a school of psychology which felt that psychology as a science must be predicated on a study of what is observable. Behaviorists excluded self-observation as a scientific method of investigation and preferred experimentation. They examined the concept of association and its limits in explaining how learning takes place. Guthrie's interpretations in his writings are based on the theory of learning: "A combination of stimuli which has accompanied a movement will on its recurrence tend to be followed by that movement."

In his theory Guthrie avoids mention of drives, successive repetitions, rewards, or punishment. He refers to stimuli and movement in combination. There is one type of learning; the same principle which applies for learning in one instance also applies for learning in all instances. The difference seen in learning does not arise from there being different kinds of learning but rather from different kinds of situations.


Read more at http://biography.yourdictionary.com/edwin-ray-guthrie#im8I11p0wssTc0Xb.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Edwin เรย์ Guthrie ข้อเท็จจริงรูปภาพ: http://cf.ydcdn.net/1.0.1.42/images/dictionaries/biography.jpgEdwin เรย์ Guthrie (1886-1959) เป็นจิตวิทยาอเมริกันได้ แม้ว่าเขาเขียนปรัชญา และ ในพื้นที่ต่าง ๆ ของจิตวิทยา Guthrie มีไว้สำหรับงานของเขาในการพัฒนาทฤษฎีอย่างเดียวเรียนรู้เป็นหลักEdwin Guthrie เกิด 9 ม.ค. 1886 ลินคอล์น Nebr. เป็นหนึ่งในห้าลูก แม่ของเขาถูก schoolteacher ตัว บิดาและจัดการร้านค้า เขาจบศึกษา และรับปริญญาจากมหาวิทยาลัยของรัฐเนแบรสกา คณิตศาสตร์ ปรัชญา และจิตวิทยา เขาป้อนมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเป็นเพื่อน Harrison รับเอกของเขาในซาวน่า ฝึกศึกษาและเบื้องหลังของเขาสะท้อนเขาวิเคราะห์กรอบของการอ้างอิงในงานเขียนของเขาจิตใจGuthrie สอนคณิตศาสตร์มัธยมปีที่ 5 ในลินคอล์นและฟิลาเดลเฟีย ใน 1914 เขาร่วมมหาวิทยาลัยวอชิงตันเป็นอาจารย์ในภาควิชาปรัชญา เปลี่ยนภาควิชาจิตวิทยา 5 ปีต่อมา ระหว่างเขาขึ้นกับศาสตราจารย์เต็มใน 1928 เขาได้พัฒนาทฤษฎีการเรียนรู้ของเขากับสตีเวนสันสมิธ ผู้เป็นประธานภาควิชาจิตวิทยาที่วอชิงตันแล้วGuthrie แต่งงานเฮเลนแมคโดนัลด์ของเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ใน 1920 มิถุนายน พวกเขาเดินทางกันอย่างแพร่หลาย และในฝรั่งเศส Guthrie ตาม Pierre เจ มีหลักการของจิตบำบัดเขาแปลกับภรรยา เขียนของเจมีอิทธิพลมากในความคิดของ Guthrie ของเจจิตวิทยาอธิบายและแนวคิดสรีรวิทยาเป็นแหล่งที่มาของการกระทำ Guthrie เพิ่มทฤษฎีวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในส่วนหลังของปี 1920 Guthrie ห่วงตัวเอง ด้วยหัวข้อดังกล่าวเป็นฟิวชั่นช่วง nonmusical วัด introversion extroversion และวัตถุประสงค์ และกลไกในด้านจิตวิทยา เขาดูเหมือนกินมากขึ้นไปสำรวจการเรียนรู้ ในช่วงทศวรรษ 1930 และหลังจากนั้นอีกมาก Guthrie ได้รับเลือกเป็นประธานของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขาโทในกองทัพสหรัฐฯ ให้บริการเป็นปรึกษากับสาขาต่างประเทศของพนักงานทั่วไปแผนกสงครามและข้อมูลสำนักงานสงคราม เขาทำคณบดีของบัณฑิตวิทยาลัยในมหาวิทยาลัยวอชิงตันใน 1943Guthrie ถูกพิจารณาเป็น behaviorist วิชาจิตวิทยาซึ่งรู้สึกว่าจิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่ต้อง predicated ในการศึกษาคืออะไร observable behaviorism นั้น Behaviorists แยกออกสำรวจตนเองเป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์การตรวจสอบและการทดลอง พวกเขาตรวจสอบแนวคิดของสมาคมและเป็นข้อจำกัดในการอธิบายวิธีการเรียนรู้เกิดขึ้น การตีความของ Guthrie ในงานเขียนของเขาขึ้นอยู่กับทฤษฎีการเรียนรู้: "การรวมกันของสิ่งเร้าที่มีมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวจะการเกิดซ้ำของมักจะตาม ด้วยการเคลื่อนไหวที่"ในทฤษฎีของเขา Guthrie หลีกเลี่ยงพูดถึงไดรฟ์ การทำซ้ำต่อเนื่อง รางวัล หรือการลงโทษ เขาหมายถึงสิ่งเร้าและในชุด มีชนิดของการเรียนรู้ ใช้หลักการเดียวกับที่ใช้ในการเรียนรู้ในหนึ่งยังเรียนในอินสแตนซ์ทั้งหมด ความแตกต่างในการเรียนรู้เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ต่าง ๆ แต่ค่อนข้างจะแตกต่างกันของสถานการณ์อ่านเพิ่มเติมที่ http://biography.yourdictionary.com/edwin-ray-guthrie#im8I11p0wssTc0Xb.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอ็ดวินเรย์ Guthrie
ข้อเท็จจริงภาพ: http://cf.ydcdn.net/1.0.1.42/images/dictionaries/biography.jpg เอ็ดวินเรย์กูทรี (1886-1959) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน แม้ว่าเขาจะเขียนในปรัชญาและในพื้นที่ที่แตกต่างกันของจิตวิทยา Guthrie ก็ตั้งข้อสังเกตเป็นหลักสำหรับการทำงานของเขาในการพัฒนาทฤษฎีเดียวที่เรียบง่ายของการเรียนรู้. เอ็ดวิน Guthrie เกิด 9 มกราคม 1886 ในลิงคอล์น Nebr. เป็นหนึ่งในเด็กทั้งห้า แม่ของเขาเป็นครูและพ่อของเขาเป็นผู้จัดการร้าน เขาจบการศึกษาและได้รับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเนบราสก้าที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาคณิตศาสตร์ปรัชญาและจิตวิทยา เขาเข้ามหาวิทยาลัยเพนซิลเป็นเพื่อนแฮร์ริสันได้รับปริญญาเอกของเขาในปี 1912 การฝึกอบรมการศึกษาและภูมิหลังของเขาสะท้อนให้เห็นถึงกรอบการวิเคราะห์ของเขาในการอ้างอิงในงานเขียนของเขาทางจิตวิทยา. Guthrie สอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมเป็นเวลา 5 ปีในลิงคอล์และฟิลาเดล ในปี 1914 เขาได้เข้าร่วมมหาวิทยาลัยวอชิงตันเป็นอาจารย์ในภาควิชาปรัชญาที่เปลี่ยนไปยังแผนกของจิตวิทยา 5 ปีต่อมา ในระหว่างการเพิ่มขึ้นของเขาให้อาจารย์เต็มในปี 1928 เขาได้พัฒนาทฤษฎีการเรียนรู้ของเขาร่วมกับสตีเวนสันสมิ ธ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายแล้วของจิตวิทยาที่วอชิงตัน. Guthrie แต่งงานกับเฮเลน MacDonald ของเบิร์กลีย์, Calif. ในเดือนมิถุนายน 1920 พวกเขาเดินทางกันอย่างแพร่หลายและใน ฝรั่งเศส Guthrie พบปิแอร์เจเน็ตซึ่งหลักการจิตบำบัดเขาแปลกับภรรยาของเขา การเขียนของเจเน็ตมีอิทธิพลต่อความคิดของ Guthrie จิตวิทยาบรรยายของเจเน็ตและแนวคิดทางสรีรวิทยาเป็นแหล่งที่มาของการกระทำ Guthrie เพิ่มทฤษฎีวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้. ในส่วนหลังของปี ค.ศ. 1920 Guthrie ห่วงตัวเองด้วยหัวข้อต่างๆเช่นฟิวชั่นในช่วงเวลา nonmusical วัดการฝังตัวและพาหิรวัฒน์, และวัตถุประสงค์และกลไกใน จิตวิทยา ดูเหมือนว่าเขามีแนวโน้มที่มีต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการเรียนรู้ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และหลังจากนั้น. รู้สึกเป็นเกียรติมาก, Guthrie ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเขาเป็นร้อยตรีในกองทัพสหรัฐที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับสาขาในต่างประเทศของพนักงานทั่วไปของกระทรวงกลาโหมและสงครามสารสนเทศสำนักงาน เขาเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันในปี 1943 Guthrie ได้รับการพิจารณา behaviorist พฤติกรรมนิยมเป็นโรงเรียนของจิตวิทยาที่รู้สึกว่าจิตวิทยาเป็นวิทยาศาสตร์จะต้องบอกกล่าวเกี่ยวกับการศึกษาของสิ่งที่เป็นที่สังเกตได้ Behaviorists ยกเว้นสังเกตตัวเองเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ของการตรวจสอบและการทดลองที่ต้องการ พวกเขาตรวจสอบแนวคิดของการเชื่อมโยงและข้อ จำกัด ในการอธิบายวิธีการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น การตีความ Guthrie ในงานเขียนของเขาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีของการเรียนรู้ "การรวมกันของสิ่งเร้าที่มีมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวจะเกี่ยวกับการเกิดซ้ำของมีแนวโน้มที่จะตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่." ในทางทฤษฎีของเขา Guthrie หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงไดรฟ์ซ้ำต่อเนื่องรางวัล หรือการลงโทษ เขาหมายถึงสิ่งเร้าและการเคลื่อนไหวในการรวมกัน มีประเภทหนึ่งของการเรียนรู้คือ; หลักการเดียวกันที่ใช้สำหรับการเรียนรู้ในหนึ่งตัวอย่างยังใช้สำหรับการเรียนรู้ในทุกกรณี เห็นความแตกต่างในการเรียนรู้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการมีที่แตกต่างกันของการเรียนรู้ แต่จากการที่แตกต่างกันของสถานการณ์. อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://biography.yourdictionary.com/edwin-ray-guthrie#im8I11p0wssTc0Xb.99

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Edwin Ray Guthrie ข้อเท็จจริง
ภาพ : http : / / cf.ydcdn . net / 1.0.1.42 / images / พจนานุกรม / ชีวประวัติ . jpg


Edwin Ray Guthrie ( 1886-1959 ) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน แม้ว่าเขาจะเขียนเกี่ยวกับปรัชญา และในพื้นที่ที่แตกต่างกันของจิตวิทยา , Guthrie เป็นสังเกตสำหรับงานของเขาในการพัฒนาทฤษฎีเดียวง่ายของการเรียนรู้

เอ็ดวิน Guthrie , เกิดวันที่ 9 , 1886 , ในลิงคอล์น , nebr เป็นหนึ่งในห้าคนแม่เป็นครู และพ่อของเขาเป็นผู้จัดการร้าน เขาจบการศึกษาและได้รับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเนบราสก้า , ที่เชี่ยวชาญในวิชาปรัชญาและจิตวิทยา เขาเข้ามหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเป็นแฮริสัน เพื่อน ได้รับปริญญาเอกของเขาใน 1912 .การฝึกอบรมการศึกษาและพื้นหลังของเขาสะท้อนให้เห็นถึงกรอบของการอ้างอิงในงานเขียนเชิงจิตวิทยาของเขา

Guthrie สอนโรงเรียนมัธยมคณิตศาสตร์ 5 ปีใน ลินคอล์น และฟิลาเดลเฟีย ในปี 1914 เขาเข้าร่วม University of Washington เป็นอาจารย์ในภาควิชาปรัชญา การเปลี่ยนกรมจิตวิทยา 5 ปีต่อมา ช่วงขึ้นเขาเป็นศาสตราจารย์เต็มตัวใน 1928 ,เขาได้พัฒนาทฤษฎีการเรียนของเขาในความสัมพันธ์กับสตีเวนสัน สมิธ ซึ่งตอนนั้นประธานภาควิชาจิตวิทยาที่วอชิงตัน

Guthrie แต่งงานเฮเลน MacDonald ของ Berkeley , เยอรมนี ในเดือนมิถุนายน ปี 1920 พวกเขาเดินทางกันอย่างแพร่หลาย และในฝรั่งเศส Guthrie พบปีแยร์เจเน็ต ซึ่งหลักการจิตบำบัดเขาแปลกับภรรยาของเขา เจเน็ตเขียนที่มีอิทธิพลมากใน Guthrie คิดอะไรอยู่เจเน็ตเชิงจิตวิทยาและหลักการทางสรีรวิทยาเป็นแหล่งที่มาของการกระทำ , Guthrie เพิ่มวัตถุประสงค์ทฤษฎีการเรียนรู้

ในส่วนหลังของปี 1920 Guthrie กังวลตัวเองกับหัวข้อเช่นฟิวชั่นในช่วงเวลา nonmusical การวัด และ extroversion ทิพย์และวัตถุประสงค์และกลไกทางจิตวิทยาดูเหมือนเขาจะกินมากขึ้นต่อการสำรวจของการเรียนรู้ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และหลังจากนั้น

มากครับ กัธรี่ได้รับการเลือกตั้งประธานของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเขาเป็นร้อยโทในกองทัพสหรัฐฯ ให้บริการเป็นที่ปรึกษาให้สาขาในต่างประเทศของพนักงานทั่วไปของกรม และสำนักงานสารสนเทศสงครามสงครามเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันใน 1943 .

Guthrie เป็นการ behaviorist . ทฤษฎีพฤติกรรมนิยมเป็นโรงเรียนของจิตวิทยาซึ่งรู้สึกว่าจิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่ต้องบอกกล่าวการศึกษาอะไรที่สังเกตได้ behaviorists แยกออกสังเกตตนเองเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบสวนและการทดลองที่ต้องการ