Aims. The aim of this study was to

Aims. The aim of this study was to investigate the impact of stroke on the patient's spouse, paying particular attention to psychiatric morbidity and the strain of caring, and correlating these with the degree of disability of the patient. The impact of impairment of speech was also investigated. Background. The impact of a stroke is not limited to the person who suffers it but also to the family, with the patient's spouse being particularly vulnerable. The literature suggests that the consequences for the spouse can be physical, psychological, economic and social. Methods. A quantitative approach was employed to investigate 44 couples who volunteered to participate in the study. A small battery of validated instruments was used to describe the patient's degree of disability, and psychiatric morbidity and the strain of caregiving in the spouse. Pearson's Correlation and Mann-Whitney U-test were used in data analysis. Results. The spouses were found to have a greater degree of psychiatric morbidity than a reference group and a large proportion of them found caregiving to be stressful. Psychiatric morbidity and strain in the spouses were not directly proportional to the extent of the patient's disability. Spouses whose partners' speech was affected by the stroke were more likely to experience strain than those who were unaffected in this way. Conclusions. This study contributes to our knowledge of the relationship between patients' physical disability and the level of strain and psychiatric morbidity in spouses. The relationship is a complex one, in which it is not possible to predict with confidence which spouses will be most vulnerable. Relevance to clinical practice. Caring for a patient following a stroke is very stressful, particularly in cases where the patient's speech is affected and there is also likely to be a significant effect on the psychological well-being of the spouse. This information is relevant to all nurses caring for patients with stroke and the patients' spouses

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์นี้ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองในคู่สมรสของผู้ป่วย การให้ความสนใจเฉพาะการเจ็บป่วยทางจิตเวชและความเครียดของการดูแล และกำลังรวบรวมสำหรับเหล่านี้ มีความพิการของผู้ป่วย ผลกระทบของการด้อยค่าของเสียงยังมีการตรวจสอบ พื้นหลัง ผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยมันแต่กับครอบครัว กับคู่สมรสของผู้ป่วยได้บ่อยกว่า วรรณคดีแสดงให้เห็นว่า ผลที่ตามมาสำหรับคู่สมรสสามารถทางกายภาพ จิตใจ เศรษฐกิจ และสังคม วิธีการนี้ วิธีการเชิงปริมาณถูกจ้างเพื่อตรวจสอบคู่รัก 44 ที่อาสาเข้าร่วมในการศึกษา ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กตราผ่านการตรวจสอบเพื่ออธิบายระดับของผู้ป่วย ความพิการ และเจ็บป่วยทางจิตเวชและสายพันธุ์ของ caregiving ในคู่สมรส สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและวิทนีย์ผู้ชาย U-ทดสอบถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลลัพธ์ที่ คู่สมรสพบว่ามีความเจ็บป่วยทางจิตเวชมากกว่ากลุ่มอ้างอิงระดับสูงและสัดส่วนขนาดใหญ่ของพวกเขาพบ caregiving จะเครียด เจ็บป่วยทางจิตเวชและสายพันธุ์ในคู่สมรสไม่ได้สัดส่วนโดยตรงกับขอบเขตของความพิการของผู้ป่วย คู่สมรสที่คำพูดของพันธมิตรได้รับผลจากหลอดเลือดมีโอกาสพบสายพันธุ์มากกว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะนี้ บทสรุป การศึกษานี้ก่อให้เกิดความรู้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยทุพพลภาพและระดับของความเครียดและเจ็บป่วยทางจิตเวชในคู่สมรสที่เรา เป็นความสัมพันธ์ซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถจะทำนาย ด้วยความมั่นใจในการที่คู่สมรสจะมีความเสี่ยงมากที่สุด เกี่ยวข้องกับคลินิก การดูแลผู้ป่วยต่อสมองคือเครียดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีคำพูดของผู้ป่วยได้รับผลกระทบ และมีแนวโน้มที่จะมีผลสำคัญอยู่จิตใจความเป็นอยู่ของคู่สมรส ข้อมูลนี้จะเกี่ยวข้องกับการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดสมองและคู่สมรสของผู้ป่วยทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองในคู่สมรสของผู้ป่วยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการเจ็บป่วยทางจิตเวชและความเครียดของการดูแลและมีความสัมพันธ์เหล่านี้มีระดับของความพิการของผู้ป่วย ผลกระทบจากการด้อยค่าของคำพูดนี้ยังได้รับการตรวจสอบ พื้นหลัง ผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองจะไม่ จำกัด เฉพาะผู้ที่ได้รับความทุกข์มัน แต่ยังรวมถึงครอบครัวกับคู่สมรสของผู้ป่วยที่เป็นความเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วรรณกรรมแสดงให้เห็นว่าผลที่ตามมาสำหรับคู่สมรสสามารถด้านร่างกายจิตใจสังคมและเศรษฐกิจ วิธีการ วิธีการเชิงปริมาณที่ใช้ในการตรวจสอบ 44 คู่รักที่อาสาที่จะมีส่วนร่วมในการศึกษา แบตเตอรี่ขนาดเล็กของเครื่องมือการตรวจสอบที่ใช้อธิบายระดับของผู้ป่วยพิการและเจ็บป่วยทางจิตเวชและความเครียดของการดูแลในคู่สมรส สหสัมพันธ์เพียร์สันและ Mann-Whitney U-ทดสอบถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผล. คู่สมรสที่พบว่ามีระดับสูงของการเจ็บป่วยทางจิตเวชกว่ากลุ่มอ้างอิงและเป็นสัดส่วนใหญ่ของพวกเขาพบว่าการดูแลเพื่อจะเครียด เจ็บป่วยทางจิตเวชและความเครียดในคู่สมรสที่ไม่ได้สัดส่วนโดยตรงกับขอบเขตของความพิการของผู้ป่วย คู่สมรสที่มีพาร์ทเนอร์ 'คำพูดที่ได้รับผลกระทบจากโรคหลอดเลือดสมองมีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสกับสายพันธุ์กว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะนี้ สรุปผลการวิจัย การศึกษาครั้งนี้ก่อให้เกิดความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความพิการทางร่างกายของผู้ป่วยและระดับของความเครียดและการเจ็บป่วยทางจิตเวชในคู่สมรสของเรา ความสัมพันธ์มีความซับซ้อนหนึ่งในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายด้วยความมั่นใจที่คู่สมรสจะมีความเสี่ยงมากที่สุด ความสัมพันธ์กันกับการปฏิบัติทางคลินิก การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองต่อไปนี้คือเครียดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คำพูดของผู้ป่วยได้รับผลกระทบและยังมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในทางจิตวิทยาความเป็นอยู่ของคู่สมรส ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพยาบาลทุกการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและคู่สมรสของผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีจุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองในคู่สมรสของผู้ป่วย ให้ความสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความเจ็บป่วยทางจิตและสายพันธุ์ของการดูแลและความสัมพันธ์เหล่านี้กับระดับความพิการของผู้ป่วย ผลกระทบของความบกพร่องในการพูดมีลักษณะ พื้นหลัง ผลกระทบของโรคหลอดเลือดสมองเป็นไม่ จำกัด ไปยังผู้ที่ได้รับความทุกข์ แต่ยังครอบครัว กับคนไข้ คู่สมรสที่ถูกเป็นพิเศษ วรรณกรรมแสดงให้เห็นว่าผลที่ตามมาสำหรับคู่สมรสสามารถทางร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจและสังคม วิธีการ วิธีการเชิงปริมาณเพื่อตรวจสอบจำนวน 44 คู่ ที่อาสาเข้าร่วมในการศึกษา แบตเตอรี่ขนาดเล็กของการตรวจสอบเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่ออธิบายระดับความพิการของผู้ป่วย และผู้ป่วยจิตเวช และความเครียดจากการดูแลในคู่สมรส ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และ Mann Whitney U-test ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลลัพธ์ คู่สมรส พบว่ามีมากกว่าระดับของความเจ็บป่วยทางจิตมากกว่ากลุ่มอ้างอิงและสัดส่วนขนาดใหญ่ของพวกเขาพบว่าเด็กจะเครียด จิตเวชการเจ็บป่วยและความเครียดในคู่สมรสที่ไม่ได้แปรผันตรงกับขนาดของความพิการของคนไข้ คู่สมรสที่พันธมิตร ' คำพูดมีผลต่อจังหวะมีโอกาสพบความเครียดมากกว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบในลักษณะนี้ สรุป การศึกษานี้ก่อให้เกิดความรู้ของเราในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วย ความพิการทางร่างกาย และระดับของความเครียดและการเจ็บป่วยทางจิตในคู่สมรส ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งที่ซับซ้อน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายด้วยความเชื่อมั่นที่คู่สมรสจะอ่อนแอมากที่สุด ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางคลินิก การดูแลผู้ป่วยตามจังหวะ เคร่งเครียดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คำพูดของผู้ป่วยจะได้รับผลกระทบ และยังมีโอกาสที่จะมีผลต่อสุขภาวะทางจิตของคู่สมรส ข้อมูลนี้เกี่ยวข้องกับพยาบาลทั้งหมดการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ป่วย คู่สมรส