Pyrolysis is a thermochemical decom

Pyrolysis is a thermochemical decomposition of organic material at elevated temperatures in the absence of oxygen (or any halogen). It involves the simultaneous change of chemical composition and physical phase, and is irreversible. The word is coined from the Greek-derived elements pyro "fire" and lysis "separating".

Pyrolysis is a type of thermolysis, and is most commonly observed in organic materials exposed to high temperatures. It is one of the processes involved in charring wood, starting at 200–300 °C (390–570 °F).[1] It also occurs in fires where solid fuels are burning or when vegetation comes into contact with lava in volcanic eruptions. In general, pyrolysis of organic substances produces gas and liquid products and leaves a solid residue richer in carbon content, char. Extreme pyrolysis, which leaves mostly carbon as the residue, is called carbonization.

The process is used heavily in the chemical industry, for example, to produce charcoal, activated carbon, methanol, and other chemicals from wood, to convert ethylene dichloride into vinyl chloride to make PVC, to produce coke from coal, to convert biomass into syngas and biochar, to turn waste into safely disposable substances, and for transforming medium-weight hydrocarbons from oil into lighter ones like gasoline. These specialized uses of pyrolysis may be called various names, such as dry distillation, destructive distillation, or cracking. Pyrolysis is also used in the creation of nanoparticles,[2] zirconia[3] and oxides[4] utilizing an ultrasonic nozzle in a process called ultrasonic spray pyrolysis (USP).

Pyrolysis also plays an important role in several cooking procedures, such as baking, frying, grilling, and caramelizing. In addition, it is a tool of chemical analysis, for example, in mass spectrometry and in carbon-14 dating. Indeed, many important chemical substances, such as phosphorus and sulfuric acid, were first obtained by this process. Pyrolysis has been assumed to take place during catagenesis, the conversion of buried organic matter to fossil fuels. It is also the basis of pyrography. In their embalming process, the ancient Egyptians used a mixture of substances, including methanol, which they obtained from the pyrolysis of wood.

Pyrolysis differs from other high-temperature processes like combustion and hydrolysis in that it usually does not involve reactions with oxygen, water, or any other reagents.[5] In practice, it is not possible to achieve a completely oxygen-free atmosphere. Because some oxygen is present in any pyrolysis system, a small amount of oxidation occurs.

The term has also been applied to the decomposition of organic material in the presence of superheated water or steam (hydrous pyrolysis), for example, in the steam cracking of oil.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไพโรไลซิจะเน่า thermochemical ของวัสดุอินทรีย์ที่อุณหภูมิสูงในการขาดงานของออกซิเจน (หรือฮาโลเจนใด ๆ) มันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงพร้อมกันขององค์ประกอบทางเคมีและทางกายภาพระยะ และมีควม คำเป็นจังหวะจาก pyro กรีกได้รับองค์ประกอบ "ไฟไหม้" lysis "แยก"ไพโรไลซิเป็น thermolysis และมักพบในวัสดุอินทรีย์สัมผัสกับอุณหภูมิสูง มันเป็นหนึ่งในไม้ charring ราคาเริ่มต้นที่ 200-300 ° C (390-570 ° F) ที่เกี่ยวข้อง[1] นอกจากนี้ยังเกิดในไฟที่การเผาไหม้เชื้อเพลิงแข็ง หรือเมื่อพืชไปยังฝั่งลาวาในภูเขาไฟปะทุ ทั่วไป สารอินทรีย์ชีวภาพผลิตผลิตภัณฑ์ก๊าซและของเหลว และทิ้งสารตกค้างแข็งยิ่งขึ้นในเนื้อหา char. มากไพโรไลซิ ออกคาร์บอนส่วนใหญ่เป็นสารตกค้าง ซึ่งเรียกว่า carbonization คาร์บอนกระบวนการที่ใช้มากในอุตสาหกรรมเคมี ตัวอย่าง การผลิตถ่าน คาร์บอน เมทานอล และสารเคมีอื่น ๆ จากไม้ การแปลง dichloride เอทิลีนไวนิลคลอไรด์ PVC ผลิตโค้กจากถ่านหิน การแปลงชีวมวล syngas และ biochar เปิดให้เสีย เป็นสารอย่างปลอดภัยทิ้ง และ การเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนปานกลางน้ำหนักจากน้ำมันเบาเช่นน้ำมันเบนซิน เหล่านี้ใช้เฉพาะของไพโรไลซิอาจเรียกชื่อต่าง ๆ เช่นแห้งการกลั่น การกลั่นทำลาย หรือถอด ไพโรไลซิยังใช้ในการสร้างเก็บกัก zirconia [3] [2] และออกไซด์ [4] ใช้หัวฉีดอัลตราโซนิกในกระบวนการเรียกว่าไพโรไลซิสเปรย์อัลตราโซนิก (USP)ไพโรไลซิยังมีบทบาทสำคัญในหลายวิธีทำอาหาร อบ ทอด ย่าง และ caramelizing นอกจากนี้ มันเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเคมี เช่น ในรเมท และคาร์บอน– 14 เดทนี้ แน่นอน หลายสำคัญสาร ฟอสฟอรัสและกรดกำมะถัน ถูกก่อนได้รับโดยกระบวนการนี้ ไพโรไลซิได้รับการสมมติให้เกิดขึ้นระหว่าง catagenesis การแปลงอินทรีย์ฝังเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของ pyrography ในกระบวนการรวี ชาวอียิปต์โบราณใช้ส่วนผสมของสาร รวมทั้งเมทานอล ซึ่งพวกเขาได้รับจากชีวภาพของไม้ชีวภาพแตกต่างจากกระบวนการอื่นอุณหภูมิสูงเช่นการเผาไหม้และไฮโตรไลซ์ที่มันมักจะไม่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยากับออกซิเจน น้ำ หรือ reagents อื่น ๆ[5] ในทางปฏิบัติ มันไม่ได้เพื่อให้บรรยากาศที่สมบูรณ์ออกซิเจนอิสระ เนื่องจากออกซิเจนบางอยู่ทุกระบบไพโรไลซิ ออกซิเดชันน้อยเกิดขึ้นคำได้ยังถูกใช้เพื่อแยกส่วนประกอบของวัสดุอินทรีย์ในต่อหน้าของน้ำ superheated หรืออบไอน้ำ (รัตนไพโรไลซิ), ตัวอย่าง ในถอดไอน้ำมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไพโรไลซิคือการสลายตัวทางความร้อนของวัสดุอินทรีย์ที่อุณหภูมิที่สูงขึ้นในกรณีที่ไม่มีออกซิเจน (หรือฮาโลเจนใด ๆ ) มันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงพร้อมกันขององค์ประกอบทางเคมีและเฟสทางกายภาพและการกลับไม่ได้ คำประกาศเกียรติคุณจากองค์ประกอบที่มาจากภาษากรีก Pyro "ไฟ" และสลาย "แยก". ไพโรไลซิเป็นประเภทของ thermolysis และเป็นที่สังเกตมากที่สุดในวัสดุอินทรีย์ที่ที่มีอุณหภูมิสูง มันเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เกี่ยวข้องใน charring ไม้เริ่มต้นที่ 200-300 ° C (390-570 ° F). [1] นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นในการเกิดเพลิงไหม้เชื้อเพลิงที่เป็นของแข็งที่มีการเผาไหม้หรือเมื่อพืชเข้ามาติดต่อกับลาวาในภูเขาไฟระเบิด . โดยทั่วไปไพโรไลซิของสารอินทรีย์ที่ผลิตสินค้าที่มีก๊าซและของเหลวและใบที่เหลือที่มั่นคงยิ่งขึ้นในเนื้อหาของคาร์บอนถ่าน ไพโรไลซิสุดขีดซึ่งใบคาร์บอนส่วนใหญ่เป็นสารตกค้างที่เรียกว่าคาร์บอน. กระบวนการนี้ใช้มากในอุตสาหกรรมเคมีเช่นในการผลิตถ่านคาร์บอนเมทานอลและสารเคมีอื่น ๆ จากไม้, การแปลง dichloride เอทิลีนเป็นสาร vinyl chloride พีวีซีที่จะทำให้การผลิตโค้กจากถ่านหิน, การแปลงชีวมวลเป็น syngas และ biochar, การเปิดของเสียลงในสารที่ใช้แล้วทิ้งได้อย่างปลอดภัยและสำหรับการเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนกลางน้ำหนักจากน้ำมันเป็นคนที่มีน้ำหนักเบาเช่นน้ำมันเบนซิน เหล่านี้ใช้ความเชี่ยวชาญของไพโรไลซิอาจจะเรียกชื่อต่าง ๆ เช่นการกลั่นแห้งกลั่นทำลายหรือแตก ไพโรไลซินอกจากนี้ยังใช้ในการสร้างอนุภาคนาโน, [2] เซอร์โคเนีย [3] และออกไซด์ [4] การใช้หัวฉีดล้ำในกระบวนการที่เรียกว่าไพโรไลซิสเปรย์อัลตราโซนิก (USP). Pyrolysis ยังมีบทบาทสำคัญในขั้นตอนการปรุงอาหารหลายอย่างเช่น การอบทอดย่างและ Caramelizing นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเคมีเช่นในมวลสารและคาร์บอน 14 นัด อันที่จริงสารเคมีที่สำคัญเป็นจำนวนมากเช่นฟอสฟอรัสและกรดกำมะถันที่ได้รับครั้งแรกโดยกระบวนการนี้ ไพโรไลซิได้รับการสันนิษฐานว่าจะเกิดขึ้นในช่วง catagenesis แปลงสารอินทรีย์ฝังอยู่กับเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของ Pyrography ในกระบวนการเหล้าของพวกเขาชาวอียิปต์โบราณที่ใช้ส่วนผสมของสารเมทานอลรวมถึงการที่พวกเขาได้รับจากการไพโรไลซิของไม้. ไพโรไลซิแตกต่างจากกระบวนการที่มีอุณหภูมิสูงอื่น ๆ เช่นการเผาไหม้และการย่อยสลายในการที่จะมักจะไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนน้ำ หรือสารเคมีอื่น ๆ . [5] ในทางปฏิบัติมันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ได้บรรยากาศที่สมบูรณ์ปราศจากออกซิเจน เพราะออกซิเจนบางส่วนอยู่ในระบบไพโรไลซิใด ๆ เป็นจำนวนเงินที่เล็ก ๆ ของการเกิดออกซิเดชันที่เกิดขึ้น. ระยะยังถูกนำไปใช้กับการสลายตัวของสารอินทรีย์ในการปรากฏตัวของน้ำร้อนหรือไอน้ำ (ไพโรไลซิ hydrous) ตัวอย่างเช่นในการแตกไอน้ำ น้ำมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไพโรไลซิส คือการสลายตัวของอินทรีย์วัตถุที่เคมีความร้อนสูงอุณหภูมิในการขาดออกซิเจน ( หรือหลอดฮาโลเจน ) มันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางเคมี และทางกายภาพที่มีขั้นตอน และแก้ไขไม่ได้ เป็นคำกรีก ได้รับประกาศเกียรติคุณจากธาตุ " ไฟ " และ " ไพโรไลซีสที่แยก " .

เป็นชนิดของ thermolysis ไพโรไลซิส ,และมักพบในวัสดุอินทรีย์ สัมผัสกับอุณหภูมิสูง มันเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เกี่ยวข้องใน charring ไม้ เริ่มต้นที่ 200 – 300 ° C ( 390 ) 570 ° F ) . [ 1 ] มันยังเกิดขึ้นในจุดไฟที่เชื้อเพลิงแข็ง เผา หรือเมื่อพืชเข้ามาในการติดต่อกับลาวาในภูเขาไฟปะทุ . โดยทั่วไปไพโรไลซิสของสารอินทรีย์ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ก๊าซและของเหลว และทิ้งกากแข็งยิ่งขึ้นใน ปริมาณคาร์บอน ชาร์ ไพโรคาร์บอนใบมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนิดที่เรียกว่าคาร์บอน

กระบวนการนี้ใช้มากในอุตสาหกรรมเคมี เช่น การผลิตถ่านคาร์บอนกัมมันต์ เมทานอล และสารเคมีอื่น ๆ จากไม้เพื่อแปลงเป็นไวนิลคลอไรด์ เอทิลีนไดคลอไรด์ให้ PVC ผลิตโค้กจากถ่านหิน , แปลงชีวมวลเป็นแก๊ส และไบโอชาร์ , เปลี่ยนขยะให้เป็นปลอดภัยทิ้งและเปลี่ยนสื่อสารไฮโดรคาร์บอนจากน้ำมันเป็นคนที่น้ำหนักเบา เช่น เบนซิน เหล่านี้ใช้เฉพาะของไพโรไลซิสที่อาจจะเรียกว่าชื่อต่าง ๆเช่นการกลั่น , บริการทำลายการกลั่นหรือแตก ไพโร ยังใช้ในการสร้างอนุภาคเซอร์โคเนีย [ 2 ] , [ 3 ] และออกไซด์ [ 4 ] ใช้หัวฉีดด้วยในกระบวนการที่เรียกว่าการสเปรย์ไพโรไลซีส ( USP )

ค่า ยังเล่น บทบาทที่สำคัญ ในการทำอาหารหลายขั้นตอน เช่น อบ ทอด ย่าง และ caramelizing . นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเคมี ตัวอย่างเช่นในมวลสาร และ ในคือการเดท แน่นอน สารเคมีมากมาย ที่สำคัญ เช่น ฟอสฟอรัส และ กรด เป็นครั้งแรกที่ได้จากกระบวนการนี้ ไพโรถูกสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในช่วง catagenesis , การแปลงฝังอินทรียวัตถุกับเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของ pyrography . ของฟอร์มัลดีไฮด์ในกระบวนการ ชาวอียิปต์โบราณใช้เป็นส่วนผสมของสารได้แก่ เมทานอล ที่พวกเขาได้รับจากการเผาไม้

ค่าแตกต่างจากอื่น ๆเช่น การเผาไหม้ และอุณหภูมิสูงกระบวนการย่อยสลายในที่มักจะไม่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยากับออกซิเจน น้ำ หรือสารอื่น ๆ . [ 5 ] ความจริงมันเป็นไปไม่ได้เพื่อให้บรรลุออกซิเจนสมบูรณ์ฟรีบรรยากาศ เพราะมีออกซิเจนอยู่ในระบบไพโรไลซิส ,จำนวนเล็ก ๆของการออกซิเดชันเกิดขึ้น

เทอมยังถูกใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในการแสดงตนของน้ำหรือไอน้ำร้อนยวดยิ่ง ( ไฮดรัสไพโรไลซีส ) ตัวอย่างเช่นในไอน้ำการแตกตัวของน้ำมัน