Most sounds are composed ofmore tha

Most sounds are composed of
more than one frequency at a time. In music, this is known as a chord. If this were not the
case, then we would be left with those annoying monophonic ringtones from the first cell phones.
You know, the ones where there were only 10 ringtones from which to choose and the odds of
more than one person having that annoying beeping rendition of Für Elise were very high. But I
digress.
In MATLAB, if we plot the amplitude data vector against time we get a plot similar to the one

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสียงส่วนใหญ่จะประกอบด้วยความถี่ที่มากกว่าหนึ่งครั้ง เพลง นี้เรียกว่าเป็นคอร์ด ถ้านี้ไม่ได้การกรณี แล้วเราจะไปทางซ้ายกับน่ารำคาญเสียงเรียกเข้า monophonic จากโทรศัพท์ครั้งแรกคุณรู้จัก คนมีได้เพียง 10 เสียงเรียกเข้าที่เลือกและราคาของมากกว่าหนึ่งคนมี rendition beeping ที่น่ารำคาญของ Für Elise ได้สูงมาก แต่ฉันdigressใน MATLAB ถ้าเราลงจุดเวกเตอร์ข้อมูลคลื่นกับเวลา เราเรียกแผนคล้ายกับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสียงส่วนใหญ่จะประกอบด้วยความถี่มากกว่าหนึ่งครั้ง ในเพลงนี้เป็นที่รู้จักกันคอร์ด
ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกรณีแล้วเราจะถูกทิ้งไว้กับเสียงเรียกเข้าโมโนโฟนิคที่น่ารำคาญจากโทรศัพท์มือถือครั้งแรก.
คุณจะรู้ว่าคนที่มีเพียง 10
เสียงเรียกเข้าที่จะเลือกและราคาของคนมากกว่าหนึ่งคนที่มีbeeping ที่น่ารำคาญ ความหมายของFür Elise อยู่ในระดับสูงมาก
แต่ผมพูดนอกเรื่อง.
ใน MATLAB ถ้าเราแปลงข้อมูลที่กว้างเวกเตอร์กับเวลาที่เราได้รับพล็อตเดียวกับที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

sounds most are composed เก็บกวาด more than one จําการโจมตี a ยัง . เพลง นี้เป็นที่รู้จักกันเป็นคอร์ด ถ้านี่ไม่ใช่
แล้วเราก็จะเหลือที่น่ารำคาญโมโนเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือครั้งแรก .
คุณรู้ ที่ มีแค่ 10 เพลงที่เลือก และโอกาส
มากกว่า 1 คน มีการตีความเสียงที่น่ารำคาญของตูร์เฟิสต์ได้สูงมากแต่ผมพูดนอกเรื่อง
.
ใน MATLAB , ถ้าเราพล็อตแอมปลิจูดกับเวลาที่เราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพล็อตคล้ายคลึงกับหนึ่ง